คณะรัฐมนตรี คณะที่ 40

พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ เป็นนายกรัฐมนตรี

ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2520 ถึง 21 ธันวาคม 2521

แถลงนโยบายวันที่ 1 ธันวาคม 2520
คำปรารภ


2 คำแถลงนโยบายของรัฐบาล

3 ท่านประธานสภา และท่านสมาชิกผู้มีเกียรติ
4 ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้ข้าพเจ้าเป็นนายกรัฐมนตรีตามประกาศพระบรมราชโองการ ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2520 และแต่งตั้งรัฐมนตรีตามประกาศพระบรมราชโองการ ลงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2520 นั้น ข้าพเจ้าและรัฐมนตรีได้กำหนดนโยบายในการบริหารราชการแผ่นดินเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงขอแถลงเพื่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ทราบ ดังต่อไปนี้การเมือง

กล่าวคือ
งการเมือง ทั้งภายในและภายนอกประเทศให้มากที่สุดโดยเฉพาะการเมืองภายใน จะเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจของชนในชาติทั้งในด้านการให้การศึกษาอบรม และในด้านปฏิบัติ โดยเฉพาะการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปกครองประเทศและการพัฒนาบ้านเมืองในด้านต่าง ๆ ทั้งนี้ เพื่อให้บังเกิดศรัทธาความเชื่อถือ และยึดมั่นอยู่ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ตลอดจนมีความสามัคคีระหว่างชนในชาติ และพร้อมที่จะเสียสละเพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์อย่างแท้จริง2 ในด้านการปกครอง เพื่อวางรากฐานระบอบประชาธิปไตยให้มั่นคง และให้การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในพุทธศักราช 2521 นี้ เป็นไปโดยบริสุทธิ์ยุติธรรม และได้ผู้แทนราษฎรที่ดี รัฐบาลจะเผยแพร่ความรู้ในระบอบประชาธิปไตย และการปกครองตนเองแก่ประชาชนทั่วทุกหมู่บ้าน ทั้งนี้นอกจากจะมีวิทยากรของรัฐบาลออกไปฝึกอบรมแล้ว จะส่งเสริมให้สภาตำบลและหมู่บ้านอาสาพัฒนาป้องกันตนเอง มีขีดความสามารถในด้านปกครองตนเอง ท้องถิ่นได้ตามสมควรในส่วนที่เกี่ยวกับข้าราชการ จะปรับปรุงสวัสดิการ ขวัญ และระบบการปฏิบัติราชการของข้าราชการให้ดีและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นความมั่นคง การป้องกันประเทศ การทหาร

นโยบายเกี่ยวกับความมั่นคงเพื่อดำรงไว้ซึ่งเอกราช อธิปไตย ความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติ รัฐบาลจะได้ใช้ความพยายามอย่างสุดความสามารถในอันที่จะตระเตรียม และส่งเสริมความมั่นคงในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และการป้องกันประเทศให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น2 ในด้านการทหาร

1. จะดำเนินการตระเตรียมและเสริมสร้างกำลังที่ใช้ในการป้องกันชาติ ให้เข้มแข็ง และอยู่ในสภาพพร้อมที่จะป้องกันราชอาณาจักร ทั้งกำลังทหาร กำลังตำรวจอาสารักษาดินแดน และราษฎรอาสาในรูปแบบต่าง
2. จะเร่งรัดการขยายกำลังทหารตามแผนที่ได้วางไว้ และเร่งรัดปรับปรุง ที่จะป้องกันอธิปไตยและปราบปรามการก่อการร้าย ซึ่งจะได้ใช้การเมืองและการพัฒนาเป็นหลักกำลังทหารและกำลังอื่นเป็นการสนับสนุน
3. ส่งเสริมการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ขึ้นใช้ในประเทศ รวมทั้งการพัฒนาวิชาการ ระบบและมาตรฐานอาวุธ โดยยึดหลักพื้นฐานการพึ่งตนเอง ส่วนการจัดหาจากภายนอก จะกระทำเมื่อมีความจำเป็น
4. จะเร่งรัดการฝึกและการจัดกำลัง ให้สามารถเผชิญภัยคุกคามได้ทุกรูปแบบ3 5. จะบำรุงขวัญ กำลังใจ และรักษาระเบียบวินัยให้ดีอยู่เสมอ โดยปรับปรุงสวัสดิการให้อยู่ในสภาพที่ดี ทั้งจะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างทหารกับประชาชน และข้าราชการฝ่ายต่าง ๆ เพื่อผนึกความสามัคคี และจะดำเนินการให้เป็นที่มั่นใจว่าทหารเป็นหลักมั่นในการรักษาความมั่นคงของชาติ
6. ส่งเสริมให้ทหารมีส่วนร่วมในการพัฒนา และบรรเทาภัยพิบัติของประเทศกับจะได้ฝึกทหารให้มีความรู้ทางวิชาชีพ เพื่อประโยชน์ในการประกอบอาชีพเมื่อได้รับการ

7. ร่วมมือกับส่วนราชการอื่น ๆ ในการฝึกประชาชนให้มีส่วนร่วมในการรักษาความมั่นคงของชาติความสงบเรียบร้อยภายใน,การปกครอง,มหาดไทย

ในด้านความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ รัฐบาลนี้ถือว่าความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ และความผาสุกความปลอดภัยของประชาชนเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งในการพัฒนาทุกสาขา ฉะนั้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย

1. จะป้องกันและปราบปรามการบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ ทุกรูปแบบอย่างเด็ดขาดและจริงจัง
2. จะยึดถือการปฏิบัติตามแนวทางของกฎหมายโดยเคร่งครัด จะดำเนินการผนึกกำลังและเร่งเร้าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ให้ทุ่มเทในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสำนึก ด้วยความรับผิดชอบ และด้วยความเสียสละอย่างเต็มที่
3. จะดำเนินการป้องกันและปราบปรามขบวนการก่อการร้าย ให้ได้ผลได้เร็วด้วยการใช้มาตรการทางการเมืองและการพัฒนาเป็นหลัก และใช้การปราบปรามด้วยกำลังเป็นการสนับสนุน และจะพยายามอย่างเต็มที่ทุกวิถีทางในอันที่จะทำ ให้เข้ามอบตัว และกลับมาอยู่ร่วมกันอย่างมีความสงบสุข
4. จะปราบปรามโจรผู้ร้ายและอาชญากรรมอย่างเด็ดขาดและจริงจัง พร้อมกับแนะนำ ชี้ชวน ส่งเสริม และเร่งเร้าให้ราษฎรมีส่วนในการช่วย และร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เพื่อยังให้เกิดความสงบเรียบร้อยและผาสุกในท้องถิ่นของตน2 5. จะดำเนินการปราบปรามยาเสพติดให้โทษต่อไปโดยเด็ดขาด และไม่หยุดยั้ง

6. จะปราบปรามการฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่างจริงจัง และจะดำเนินการสกัดกั้นและป้องกันควบคู่กันไปด้วย
7. จะปรับปรุงโครงสร้างและระบบบริหารราชการของกรมตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และภาวะของสังคมปัจจุบันอย่างรอบคอบและมีเหตุผล เพื่อให้ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองมีความสำนึก มีความรับผิดชอบ และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
8. จะสอดส่องดูแลการเอารัดเอาเปรียบ และแก้ไขความเหลื่อมล้ำ กดขี่ขูดรีดและความไม่เป็นธรรมในสังคมที่จะนำไปสู่การก่อให้เกิดความไม่สงบให้ลดน้อยลงโดยเร็ว


การต่างประเทศ

ในด้านการต่างประเทศ

1. จะดำเนินนโยบายต่างประเทศอย่างเป็นอิสระ เพื่อธำรงรักษาเอกราชอธิปไตย และบูรณภาพดินแดนของชาติโดยยึดถือผลประโยชน์ ความมั่นคง และความอยู่รอดของชาติเป็นสำคัญ
2. จะรักษาสิทธิและปฏิบัติตามพันธกรณีของสนธิสัญญา และความตกลงที่ได้ทำไว้กับต่างประเทศ จะเคารพและยึดมั่นในกฎบัตรสหประชาชาติ ในอันที่จะส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ รวมทั้งการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของนานาชาติ
3. จะส่งเสริมสัมพันธไมตรีอันดี และความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้ากับทุกประเทศ โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างในลัทธิการปกครอง หรือระบบเศรษฐกิจและสังคมโดยต่างฝ่ายต่างยึดมั่นในหลักการเคารพเอกราช อธิปไตย บูรณภาพดินแดน ความเสมอภาคการไม่รุกราน และการไม่แทรกแซงในกิจการภายในซึ่งกันและกัน2 4. จะส่งเสริมสันถวไมตรีอันแน่นแฟ้น และให้ความสนับสนุนร่วมมืออย่า
แก่บรรดาประเทศสมาชิกของสมาคมแห่งประชาชาติเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)เพื่อให้เกิดเสถียรภาพ ความมั่นคง ความไพบูลย์รุ่งเรือง และสันติสุขร่วมกัน ของประเทศสมาชิก และของอาณาบริเวณนี้ และจะสนับสนุนมาตรการต่าง ๆ ที่เกื้อกูลให้ภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเขตสันติภาพ เสรีภาพ และความเป็นกลางได้ต่อไปในอนาคต
5. จะส่งเสริมความสัมพันธ์ ความร่วมมือ และความเข้าใจอันดี กับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และกัมพูชาประชาธิปไตย รวมทั้งสาธารณรัฐสังคมนิยมแห่งสหภาพพม่า โดยยึดถือหลักการดังกล่าวข้างต้นและหลักการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ โดยสันติวิธี ทั้งนี้เพื่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน และเพื่อการอยู่ร่วมกันโดยสันติ
6. จะดำเนินนโยบายโดยมุ่งส่งเสริมและให้หลักประกันแก่การค้า ระหว่างประเทศ และการลงทุนรวมทั้งร่วมมือกับประเทศกำลังพัฒนา เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ การเกษตร การอุตสาหกรรม การค้า การขนส่ง และการสื่อสารการเศรษฐกิจ,พาณิชย์

2. นโยบายเกี่ยวกับเศรษฐกิจในช่วงฤดูเพาะปลูกปีที่แล้ว พื้นที่หลายส่วนของประเทศไทยประสบกับสภาพดินฟ้าอากาศผิดปรกติบางแห่งก็เกิดความแห้งแล้ง บางแห่งก็ถูกน้ำท่วม การผลิตพืชผลทางเกษตร จะได้ผลน้อย ขณะเดียวกันราคาสินค้าหลายประเภทอยู่ในระดับสูง การส่งสินค้าออก ในหลายกรณี มีปัญหาทั้งในด้านราคาและตลาดเพื่อบรรเทาความเสียหายอันเกิดจากภาวะดังกล่าว รัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วนดังนี้
1. เร่งรัดการดำเนินงานและการจ่ายเงินเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ ในชนบทโดยเฉพาะในท้องที่ที่ได้รับความเสียหายเนื่องจากการปรวนแปรของดินฟ้าอากาศ เพื่อช่วยให้ชาวชนบทมีรายได้ทดแทน ได้แก่ การเร่งงานก่อสร้างและบูรณะถนนในตำบลและหมู่บ้านการขุดลอกหนองบึง และการใช้แรงงานปลูกสร้างสวนป่า นอกจากนี้จะได้เร่งการอนุรักษ์ พืชที่ให้ผลเร็วและใช้น้ำน้อย2 2. แก้ปัญหาและอุปสรรคของการส่งสินค้าออกที่มีอยู่เฉพาะหน้า เพื่อสนับสนุนให้ส่งสินค้าออกได้มากขึ้น ได้แก่การขยายตลาดสินค้าในต่างประเทศ การดำเนินการให้สินค้าขาออกที่สำคัญ ๆ ให้มีคุณภาพตามความต้องการของตลาด การเพิ่มขีดความสามารถของการขนส่ง การให้มีสิทธิประโยชน์แก่ผู้ส่งสินค้าออกในด้านภาษีอากรตามควรแก่กรณี
3. ดำเนินการรักษาระดับราคาสินค้าที่จำเป็นแก่การครองชีพ ให้มีราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรมตามความจำเป็น โดยคำนึงถึงต้นทุนการผลิต3 ในระหว่างดำเนินการตามนโยบายเร่งด่วน รัฐบาลจะดำเนินนโยบายเศรษฐกิจขั้นพื้นฐาน โดยยึดแผนพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 4 เป็นหลัก ในเรื่องสำคัญ ๆ ดังต่อไปนี้
1. ส่งเสริมประสิทธิภาพของการผลิตด้านเกษตรสาขาต่าง ๆ ให้มีผลผลิตเพียงพอแก่การอุปโภคบริโภคในประเทศ และส่งออกไปต่างประเทศ ในการนี้จะได้เน้นหนัก การปรับปรุงพันธุ์พืช และขยายการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และการร่วมมือ กับต่างประเทศในการทำประมง4 4. ในด้านการพาณิชย์จะดำเนินการให้ผู้ผลิตสามารถจำหน่ายสินค้า และผลิตผลได้ในราคาที่เป็นธรรม และให้ผู้บริโภคซื้อสินค้าที่จำเป็นแก่การครองชีพได้ในราคาที่สมควร ขยายตลาดสินค้าไทยในต่างประเทศให้กว้างขวางยิ่งขึ้น รวมทั้งประเทศที่มีระบบการเมืองและระบบเศรษฐกิจแตกต่างกับประเทศไทยด้วย ในการนี้จะให้การค้าดำเนินไปโดยเสรี มีการแข่งขันกันอย่างมีระเบียบและเป็นธรรม โดยคำนึงถึงประโยชน์ของผู้บริโภคและผู้ผลิตในประเทศ ตลอดจนดุลการค้าด้วย ทั้งส่งเสริมสนับสนุนให้มีการประหยัดและให้มีการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศให้มากขึ้น5 10. ดำเนินการปรับปรุงรัฐวิสาหกิจที่ประกอบกิจการสาธารณูปโภค ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จนเป็นที่พอใจของประชาชน ส่วนรัฐวิสาหกิจอื่นที่มีขีดความสามารถต่ำและมีวิสาหกิจเอกชนดำเนินการอยู่แล้ว จะดำเนินการยุบเลิกหรือจำหน่าย ต่อไปการคลัง,การเงิน

7. รักษาเสถียรภาพทางการเงินและการคลังให้มั่นคง และปรับปรุงภาษีอากรเพื่อส่งเสริมและอำนวยความสะดวกในการลงทุนและการเสริมสร้างการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมการสังคม


วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี


การพลังงาน สิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ

8. ดำเนินการให้การใช้ทรัพยากรธรรมชาติ เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมมากที่สุด ในขณะเดียวกันก็หาทางป้องกันและกำจัดพิษภัยที่เกิดแก่สิ่งแวดล้อม อันสืบเนื่องมาจากการพัฒนาทุกด้าน ตามควรแก่กรณีการบริหารราชการ


การปรับปรุงกฎหมาย




5. ดำเนินการพัฒนาเมืองและชนบท โดยยึดหลักกระจายความเจริญไปสู่ท้องถิ่นต่าง ๆ ทั่วทุกภาค พร้อมกับพัฒนาบริการสาธารณูปโภคอันจำเป็นแก่ชุมชน อาทิ การปรับปรุงการสัญจร การไฟฟ้า การประปาหรือน้ำกินน้ำใช้ และการสร้างที่อยู่อาศัย ในการนี้จะได้อาศัยความร่วมมือขององค์การปกครองท้องถิ่นและประชาชนด้วยการยุติธรรม,ศาล,ตุลาการ

3. นโยบายเกี่ยวกับสังคมในด้านความยุติธรรม รัฐบาลจะปรับปรุงวิธีการและการดำเนินการพิจารณาคดีของศาลให้เป็นไปโดยสะดวกและรวดเร็ว เพื่อมิให้ประชาชนที่มีความจำเป็นต้องมาศาลต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเกินจำเป็น ในขณะเดียวกันจะรีบเร่งจัดตั้งศาลเฉพาะเรื่องเช่น ศาลปกครอง ศาลแรงงาน ศาลภาษี เป็นต้น เพื่อให้เหมาะสมกับวิวัฒนาการของสังคมนอกจากนั้น รัฐบาลจะได้จัดให้มีระบบการคุมความประพฤติของผู้ที่ศาลพิพากษาว่า กระทำผิดอาญา บางประเภทที่ไม่เป็นภัยต่อสังคมส่วนรวม แทนการจองจำอันเป็นการทำลายอนาคตของผู้นั้น และเป็นภาระแก่งบประมาณแผ่นดิน

6. สนับสนุนเกษตรกรและผู้ใช้แรงงานในอาชีพอื่น ๆ ให้ได้รับประโยชน์อันชอบธรรม โดยช่วยเหลือให้มีที่ดินประกอบอาชีพตามความเหมาะสม อันได้แก่การปฏิรูปที่ดินกับการจัดสรรที่ดิน ช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานในกลุ่มอาชีพต่าง ๆ ให้ได้รับค่าตอบแทนอย่างเป็นธรรม รวมทั้งให้ได้รับความมั่นคงปลอดภัยในการทำงาน และบริการทางสวัสดิการตามควรการศึกษา

ในด้านการศึกษา รัฐบาลนี้จะส่งเสริมการศึกษาทุกระดับ และให้ประชาชนมีโอกาสเท่าเทียมกันในการได้รับการศึกษา จะพัฒนาการศึกษาทุกระดับให้ต่อเนื่องกันและให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จะขยายการศึกษาภาคบังคับให้กว้างขวางทั่วถึงทุกท้องถิ่น และให้ประชาชนมีส่วนร่วมพัฒนาการศึกษาภาคบังคับมากยิ่งขึ้น จะสนับสนุนอาชีวศึกษาและการศึกษานอกโรงเรียนเป็นประการสำคัญ และให้เอกชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาด้วยในด้านคุณภาพของการเรียนและการสอนจะปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น และพย ให้มีคุณภาพทัดเทียมกันทั้งในเมืองและชนบท จะจัดกิจการเพื่อให้นักเรียน นิสิต นักศึกษารวมทั้งเยาวชนนอกโรงเรียน ได้รับการฝึกฝนให้มีความรู้ มีคุณธรรม มีพลานามัยอันสมบูรณ์มีระเบียบวินัย มีความรักความสามัคคีระหว่างชนในชาติ ตระหนักถึงหน้าที่และความรับผิดชอบต่อสังคมและประเทศชาติ ตลอดจนมีความเจริญเติบโตทั้งทางร่างกาย สติปัญญา และจิตใจที่กล้าแข็งในอันที่จะเป็นกำลังป้องกันประเทศชาติที่มีคุณภาพต่อไปในอนาคต และมีความสำนึกในหน้าที่และความรับผิดชอบตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข2 ในด้านการบริหารการศึกษา จะปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารงาน และจัดให้มีการร่วมมือประสานงานระหว่างสถาบันการศึกษา ระหว่างราชการส่วนกลางกับหน่วยที่จัดการศึกษาในส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น เพื่อให้การใช้งบประมาณสำหรับการศึกษาของชาติเป็นไปโดยประหยัดและได้ผลตรงตามเป้าหมายรัฐบาลนี้จะรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมอันดีงามของชาติ และบำรุงศาสนาให้เป็นเครื่อง ส่วนการศึกษาในระดับอุดมศึกษา จะเน้นในด้านคุณภาพ โดยจะสนับสนุนการวิจัยและเพิ่มแขนงวิชาตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตลอดจนจัดหลักสูตรและสอนให้เหมาะสมกับสภาพของประเทศยิ่งขึ้น จะสนับสนุนให้แต่ละมหาวิทยาลัยได้ทำหน้าที่ให้บริการสังคมตามความสามารถของตน จะพยายามส่งเสริมให้มีความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย และจะสนับสนุนกิจกรรมของนิสิต นักศึกษา ในด้านการศึกษา ศิลปวัฒนธรรมให้มากยิ่งขึ้นการสาธารณสุข

ในด้านการสาธารณสุข รัฐบาลจะดำเนินการเร่งรัดการให้บริการสาธารณสุขแก่ประชาชน ทั้งในด้านการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคและการรักษาพยาบาล โดยเน้นหนักในส่วนภูมิภาค และท้องถิ่นชนบทที่ห่างไกล จะจัดสร้างโรงพยาบาลประจำอำเภอสถานีอนามัย และสำนักงานผดุงครรภ์ตามตำบลต่าง ๆ เพิ่มขึ้น ปรับปรุงขยายงานโรงพยาบาลจังหวัด จัดสร้างโรงพยาบาลศูนย์ประจำภาค และจะจัดให้มีแพทย์ผู้ชำนาญ พทย์ผู้ชำนาญการแต่ละสาขา สำหรับประชาชนผู้ยากไร้ จะได้รับการรักษาพยาบาลโดยไม่คิดมูลค่า รวมทั้งจะจัดหน่วยสาธารณสุขเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้การรักษาพยาบาลและป้องกันโรคแก่ประชาชนในท้องถิ่น ซึ่งห่างไกลและกันดาร ขยายการผลิตและเสริมสร้าง สมรรถภาพของบุคลากรสาธารณสุขประเภทต่าง ๆ ตลอดจนการฝึกอบรมอาสาสมัครสาธารณสุขในระดับหมู่บ้านเพื่อช่วยสนับสนุนการบริการสาธารณสุขเบื้องต้นสำหรับการวางแผนครอบครัว รัฐบาลจะสนับสนุนให้แพร่หลายและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยจะเผยแพร่ให้ประชาชนได้เข้าใจ และตระหนักถึงผลดีของการวางแผนครอบครัวจะเร่งรัดและดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทอื่นควบคู่กับการรักษาพยาบาล และฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ติดยาเสพติดเพื่อมิให้เป็นภาระแก่สังคมต่อไปการแรงงาน

4. เร่งรัดการจัดหางานให้ผู้ว่างงาน โดยอาศัยหน่วยงานทั้งของรัฐแ
เอกชนเข้าด้วยกันงานเร่งด่วน


การฟื้นฟูบูรณะกรุงเทพมหานคร


คำลงท้าย

ท่านประธานสภาที่เคารพและท่านสมาชิกผู้มีเกียรติทั้งหลาย รัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวชุดนี้ ขอให้คำมั่นว่าจะบากบั่นพยายามทุกวิถีทางด้วยความมานะอดทนและซื่อสัตย์สุจริต ที่จะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถเพื่อความผาสุก ความมั่นคงปลอดภัยและความอยู่ดีกินดีของประชาชนอันเป็นยอดปรารถนาของเราทุกคน รัฐบาลนี้ยินดีและพร้อมเสมอที่จะรับความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในด้านการสร้างสรรค์จากทุกท่าน ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงหวังว่าจะได้รับความอนุเคราะห์ร่วมมือด้วยดีจากสภานี้ เพื่อสถาบันการปกครองทั้งสองฝ่ายของเราจะได้ร่วมมือกันจรรโลงประเทศชาติให้มั่นคงถาวรและเจริญก้าวหน้าสืบไป
ขอบคุณ

วันที่ 11 พฤศจิกายน 2520 - 21 ธันวาคม 2521

รายชื่อคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรี คณะที่ 40


ตั้งแต่
2 โดยที่คณะปฏิวัติ โดยการนำของ พลเรือเอก สงัด ชลออยู่ ได้ทำการยึดอำนาจการปกครองแผ่นดินเป็นผลสำเร็จเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2520 จึงได้ประกาศใช้ธรรมนูญการปกครองชั่วคราวและจัดตั้งสภานโยบายแห่งชาติ ประธานสภานโยบายแห่งชาติได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 25203 วันที่ 12 พฤศจิกายน 2520 ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีคณะนี้มีรายนามดังนี้
1. พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ เป็นนายกรัฐมนตรี
2. นายสุนทร หงส์ลดารมภ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี
3. พลเอก บุญชัย บำรุงพงศ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี
4. นายสมภพ โหตระกิตย์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี
5. พลโท บุญเรือน บัวจรูญ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
6. นายสมพร บุญยคุปต์ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
7. พลเอก เล็ก แนวมาลี เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

9. พลอากาศเอก ประสงค์ คุณะดิลก เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม10. นายสุพัฒน์ สุธาธรรม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง11. นายฉลอง ปึงตระกูล เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง12. นายอุปดิศร์ ปาจรียางกูร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ13. นายวงศ์ พลนิกร เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ14. นายปรีดา กรรณสูต เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์15. นายอาภรณ์ ศรีพิพัฒน์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์16. นายทำนอง สิงคาลวณิช เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์17. พลเอก สุรกิจ มัยลาภ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม18. พลเรือตรี สนอง นิสาลักษณ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม19. นายประสงค์ สุขุม เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม20. นายประสิทธิ์ ณรงค์เดช เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม21. นายนาม พูนวัตถุ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์4 22. นายปรก อัมระนันทน์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์23. พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย24. พลโท เปรม ติณสูลานนท์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย 26. นายจำนง เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย27. นายสุธรรม ภัทราคม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม28. นายบุญสม มาร์ติน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ29. นายก่อ สวัสดิพาณิชย์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ30. เรือโท ยงยุทธ สัจจวาณิชย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข31. นายประพนธ์ ปิยะรัตน์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข32.นายเกษม จาติกวณิช เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม33. นายบุญยิ่ง นันทาภิวัฒน์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม34. นายเกษม สุวรรณกุล เป็นรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย5 วันที่ 11 สิงหาคม 2521 ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้

1. พลเอกเล็ก แนวมาลี พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
2. พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม3. พลเรือเอกถวิล รายนานนท์ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
4. พลเอกยศ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม
การอุตสาหกรรม

2. ส่งเสริมการลงทุนและการพัฒนาอุตสาหกรรม ที่ใช้ผลิตผลจากพืชและสัตว์และวัตถุดิบภายในประเทศ วางแผนการจัดหาและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น แร่โลหะและเชื้อเพลิงธรรมชาติ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมขั้นพื้นฐาน อุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก และอุตสาหกรรมที่เน้นหนักการใช้แรงงานในประเทศ อำนวยความสะดวกในการส่งเสริมการลงทุน การอนุญาตตั้งและขยายโรงงาน โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมรวมทั้งจัดให้มีนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ในการส่งเสริมอุตสาหกรรมนี้รัฐบาลจะอาศัยกฎหมายว่าด้วย การส่งเสริมการลงทุนเป็นหลัก ในด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จะได้พัฒนาอย่างจริงจัง ดำเนินการให้แหล่งท่องเที่ยวปลอดภัย สะดวกสบาย เป็นที่สนใจแก่นักท่องเที่ยวยิ่งขึ้นการคมนาคม ขนส่ง,สื่อสาร

3. เร่งรัด กวดขัน และควบคุมการพัฒนาด้านการคมนาคม การขนส่ง การสื่อสาร
ให้เกิดความเพียงพอ สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และประหยัด ทั้งสนับสนุนให้เอกชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาด้วยสาระสำคัญของการพัฒนาในด้านคมนาคม มีดังนี้
(ก) ปรับปรุงบริการขนส่งมวลชนในกรุงเทพมหานคร ควบคุมบริการรถบรรทุกและรถโดยสารระหว่างจังหวัดให้มีประสิทธิภาพ และปรับปรุงบำรุงทางหลวงและการรถไฟให้ตรงต่อความต้องการทางเศรษฐกิจและสังคม
(ข) เร่งรัดให้มีการสร้างท่าเรือน้ำลึกที่แหลมฉบับและพัฒนาท่าเรือชายฝั่งอื่น ๆปรับปรุงร่องน้ำเพื่อส่งเสริมให้มีการใช้การขนส่งชายฝั่งและตามแม่น้ำลำคลอง ให้มากยิ่งขึ้นและส่งเสริมการขยายพาณิชยนาวีไทย ให้มีความเป็นปึกแผ่นมั่นคง
(ค) ปรับปรุงท่าอากาศยานดอนเมืองเพื่อแก้ปัญหาระยะสั้น ทั้งเริ่มการพัฒนาท่าอากาศยานระหว่างประเทศที่สมบูรณ์แบบ และสนับสนุนการขยายบริการสายการบินไทยในประเทศและไปต่างประเทศให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
(ง) ปรับปรุงบริการ และแก้ปัญหาขัดข้องด้านการสื่อสารและการไปรษณีย์ให้เป็นบริการที่มีประสิทธิภาพและสะดวกแก่ประชาชน