คณะรัฐมนตรี คณะที่ 34

นายสัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี

ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2517 - 14 กุมภาพันธ์ 2518

แถลงนโยบาย เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2517
คำปรารภ

คำแถลงนโยบายของรัฐบาล

2 "ท่านประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และท่านสมาชิกผู้มีเกียรติ
3 บัดนี้ คณะรัฐมนตรีได้กำหนดนโยบายในการบริหารราชการแผ่นดินเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงขอแถลงนโยบายเพื่อสภานิติบัญญัติทราบ ดังต่อไปนี้การเมือง

1. รัฐบาลนี้ จะเทอดทูนและรักษาไว้ซึ่งองค์คุณของประชาชาติ คือ ชาติศาสนา พระมหากษัตริย์
2. รัฐบาลนี้ จะยึดถือหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข จะส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชนภายในกรอบของกฎหมายความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และศีลธรรมอันดี2 3.19 จะจัดให้มีการเลือกตั้งผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยเที่ยงธรรมและบริสุทธิ์

3.3 จะส่งเสริมกิจการทหารของชาติให้มีกำลังและสมรรถภาพพร้อมที่จะป้องกันราชอาณาจักรจากภัยที่มีมาทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยเฉพาะในภาวะการณ์ปัจจุบัน จะเร่งรัดปรับปรุงโครงสร้างทางการบังคับบัญชาให้คล่องตัว ที่จะบริหารงานตามระบอบประชาธิปไตยความสงบเรียบร้อยภายใน,การปกครอง,มหาดไทย

3.10 จะรักษาความสงบภายใน โดยทำความเข้าใจอันดีและประสานสามัคคีทุกหมู่เหล่า3.11 จะป้องกันและต่อสู้การแทรกซึมในทางการเมืองและการก่อการร้ายทุกวิถีทาง3.12 จะลดอาชญากรรม ป้องกันและปราบปรามการค้ายาเสพติดให้โทษตลอดจนดำเนินการบำบัดรักษากฎหมายและความปลอดภัย ส่งเสริมกิจการฝ่ายปกครองและกิจการตำรวจให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นสิทธิ เสรีภาพประชาชน ,เอกราช


การต่างประเทศ

4. รัฐบาลนี้ -4.1 จะดำเนินนโยบายต่างประเทศ โดยยึดถือหลักในการธำรงไว้ซึ่งเอกราชอธิปไตยของชาติ บูรณภาพแห่งราชอาณาจักรและในการรักษาความมั่นคง กับผลประโยชน์ของชาติและประชาชน4.2 จะยึดมั่นในหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติและปฏิบัติตามพันธกรณีแห่งสนธิสัญญาที่ทำไว้กับประเทศทั้งหลายตามหลักแห่งความเสมอภาค และถ้อยทีถ้อยปฏิบัติต่อกันดังที่ได้เป็นนโยบายของประเทศไทยตลอดมา4.3 จะรักษาสิทธิอันชอบธรรมของชาติและประชาชน โดยพยายามหาทางตกลงที่ยุติธรรมกับประเทศที่เกี่ยวข้องโดยสันติวิธี4.4 จะเป็นมิตรกับทุกประเทศที่เป็นมิตรกับประเทศไทย แม้ลัทธินิยมในระบบการปกครองการเศรษฐกิจและสังคมจะต่างกัน และพยายามทำความเข้าใจกับประเทศต่างๆ ที่มีปัญหาระหว่างกันอยู่ เพื่อหาทางให้มีการติดต่อสัมพันธ์โดยปกติด้วยดีระหว่างกันและปรับปรุงความสัมพันธ์กับประเทศที่มีความผูกพันธ์อยู่ต่อกันให้เหมาะสมกับความจำเป็นของสถานการณ์ เพื่อประโยชน์อันเป็นธรรมร่วมกัน2 4.5 จะเสริมสร้างสัมพันธ์ไมตรี และกระชับความเข้าใจอันดีกับประเทศเพื่อนบ้านให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และสนับสนุนความร่วมมือส่วนภูมิภาคสืบต่อไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพ
การเศรษฐกิจ,พาณิชย์

3. รัฐบาลนี้3.1 จะจัดที่ดินทำกินให้ ชาวไร่ ชาวนาที่เดือดร้อน ให้ได้รับความเป็นธรรมโดยรวดเร็ว3.2 จะจัดให้มีสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพประจำวัน โดยเฉพาะของประชาชน2 3.8 จะส่งเสริมการค้าให้มีความคล่องตัว และเหมาะกับสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจ และสังคมยิ่งขึ้น ส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาประเทศ และปรับปรุงมาตรการป้องกันและระงับพิษภัยอันเกิดจากกิจการอุตสาหกรรม3.9 จะส่งเสริมการส่งสินค้าออกไปจำหน่ายในต่างประเทศให้มากยิ่งขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับการเร่งรัดการเพิ่มผลผลิตทางเกษตรและอุตสาหกรรม ทั้งนี้โดยไม่ก่อให้เกิดการขาดแคลนภายในประเทศการคลัง,การเงิน

3.4 จะวางรากฐานแห่งระบบการคลัง โดยมีจุดหมายที่จะส่งเสริมความเจริญเติบโตและความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ และปรับปรุงการจัดเก็บภาษีอากรให้ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย3.5 จะใช้มาตรการทางการเงินควบคู่ไปกับมาตรการทางการคลัง โดย ตรการระดมเงินออมของประชาชนมาให้เป็นทุนในกิจการลงทุนของภาครัฐบาลและภาคเอกชน ให้เป็นประโยชน์มากที่สุดการสังคม


วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี


การพลังงาน สิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ


การบริหารราชการ

3.17 จะกวดขันวินัยและสมรรถภาพของข้าราชการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการและรัฐวิสาหกิจ และในเวลาเดียวกันจะส่งเสริมยกย่องผู้สุจริตให้ปรากฎ3.18 จะวางรากฐานและแนวทางปฏิบัติในการปฏิรูประบบการศึกษาและการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมการปรับปรุงกฎหมาย


การกระจายรายได้ ความเจริญ สร้างความเป็นธรรมในสังคม




3.14 จะเคารพความเป็นอิสระในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดีของศาลยุติธรรม จะเร่งรัดการพิจารณาพิพากษาอรรถคดีให้ดำเนินไปโดยรวดเร็วและส่งเสริมสถาบันศาลยุติธรรมให้มั่นคงการเกษตร

3.6 จะเร่งรัดการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น โดยจะดำเนินมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรต่างๆ รวมทั้งการส่งเสริมสหกรณ์การเกษตรและกลุ่มเกษตรกรให้เป็นพลังทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง การจัดตั้งกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรการส่งเสริมเกษตรกรด้านการผลิตและจำหน่าย ตลอดจนการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมการศึกษา

3.15 จะเร่งรัดการศึกษาอบรมเพื่อส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย เน้นในเรื่องการอบรมศีลธรรมและวัฒนธรรม และการศึกษาเพื่อการประกอบอาชีพในด้านอุดมศึกษา จะสนับสนุนความเป็นอิสระในการดำเนินงานทั้งด้านวิชาการและการบริหารของมหาวิทยาลัยต่างๆ ดูแลและส่งเสริมให้วิทยาลัยเอกชนสามารถผลิตบัณฑิตที่ได้มาตรฐาน

3.16 จะให้บริการสาธารณสุขด้านส่งเสริม ป้องกันและรักษาถึงประชาชนโดยเฉพาะในชนบทจะเร่งรัดปรับปรุงระบบการสาธารณสุข ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรวมทั้งเอกชนและประชาชนผนึกกำลังกันแก้ปัญหาสาธารณสุขได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะมอบอำนาจหน้าที่การบริหารงานสู่ภูมิภาค เพื่อให้ทรัพยากรที่มีจำกัด อำนวยประโยชน์สูงสุดแก่สังคมการแรงงาน


งานเร่งด่วน


การฟื้นฟูบูรณะกรุงเทพมหานคร


คำลงท้าย

ตามนโยบายที่ได้แถลงมานี้ รัฐบาลเชื่อมั่นว่าจะสามารถสนองความต้องการของประชาชน เสริมสร้างความเจริญก้าวหน้า และความมั่นคงของประเทศชาติในระยะเวลาที่รัฐบาลนี้บริหารราชการแผ่นดินได้ฉะนั้นจึงหวังว่าสภานิติบัญญัติแห่งชาติจะให้ความสนับสนุนด้วยดีเพื่อรัฐบาลจะสามารถบริหารราชการแผ่นดินให้บังเกิดความเจริญก้าวหน้า อำนวยความผาสุกแก่ประชาชนต่อไป"

27 พฤษภาคม 2517 ถึง 14 กุมภาพันธ์ 2518

รายชื่อคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรี คณะที่ 34

ตั้งแต่

2 เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2517 นายสัญญา ธรรมศักดิ์ ได้กราบถวายบังคมลาออกจากตำแหน่ง ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ดำเนินการสอบความเห็นของสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้ว ปรากฏว่า สภานิติบัญญัติแห่งชาติยังมีความเชื่อถือไว้วางใจในนายสัญญาธรรมศักดิ์ และมีความประสงค์จะให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้นายสัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2517วันที่ 30 พฤษภาคม 2517 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรีคณะรัฐมนตรีคณะนี้มีรายนามและรายพระนาม ดังต่อไปนี้
1. นายสัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี
2. นายประกอบ หุตะสิงห์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี
3. นายมนูญ บริสุทธิ์ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
4. พลเอก ครวญ สุทธานินท์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
5. นายสมหมาย ฮุนตระกูล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ะเทศ
7. หม่อมเจ้าจักรพันธุ์เพ็ญศิริจักรพันธุ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
8. นายเชาวน์ ณ ศิลวันต์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
9. นายวิจารณ์ นิวาตวงศ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์10. พลตำรวจตรี อรรถสิทธิ์ สิทธิสุนทร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย11. นายกิตติ สีหนนท์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม12. นายเกรียง กีรติกร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ13. นายอุดม โปษะกฤษณะ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข14. นายอรุณ สรเทศน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม15.นายเกษม สุวรรณกุล เป็นรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัยของรัฐ16.พลเรือเอก ถวิล รายนานนท์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม17. พลอากาศเอก บัว ศิริทรัพย์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม3 18. นายสนั่น เกตุทัต เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง19. พลตรี ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ20. นายเถลิง ธำรงนาวาสวัสดิ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์21. นายพันธุ์เลิศ บูรณศิลปิน เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษต 22. นายศรีภูมิ ศุขเนตร เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม23. นายประสงค์ สุขุม เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์24. พลตำรวจเอก ประจวบ สุนทรางกูร เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย25. พลตำรวจโท ชุมพล โลหะชาละ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย26. นายเทียน อัชกุล เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย27. นายสมภพ โหตระกิตย์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงยุติธรรม28. หม่อมหลวง จิรายุ นพวงศ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ29. นายก่อ สวัสดิพาณิชย์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ30. นายเสม พริ้งพวงแก้ว เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข31. นายประกายเพชร อินทุโสภณ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม4 วันที่ 5 พฤศจิกายน 2517 นายสนั่น เกตุทัต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังได้กราบถวายบังคมลาออกจากตำแหน่งวันที่ 1 ธันวาคม 2517 นายประกายเพชร อินทุโสภณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้กราบถวายบังคมลาออกจากตำแหน่งวันที่ 20 มกราคม 2518 พลตรี ชาติชาย ชุณหะวัณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้กราบถวายบังคมลาออกจากตำแหน่ง

3.13 จะส่งเสริมปรับปรุงโรงงานให้มีฝีมือและสมรรถภาพยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถมีบทบาทที่จะร่วมในการพัฒนาประเทศได้อย่างเต็มที่ ส่งเสริมให้ประชากรวัยทำงานได้มีสวัสดิภาพยิ่งขึ้น เร่งรัดสร้างหรือขยายแหล่งงานเพื่อประชากรมีงานทำอย่างทั่วถึงปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างทุนและแรงงานอย่างเป็นธรรมการคมนาคม ขนส่ง,สื่อสาร

3.7 จะปูพื้นฐาน ปรับปรุง ขยาย และส่งเสริมระบบการขนส่ง การสื่อสารและการอุตุนิยมวิทยาให้ถูกต้องในหลักการ และให้มีการประสานงานกันอย่างมีประสิทธิภาพ