คณะรัฐมนตรี คณะที่ 28
พลโท ถนอม กิตติขจร เป็นนายกรัฐมนตรี
ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2501 - 20 ตุลาคม 2501
แถลงนโยบาย เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2501
คำปรารภ
คำแถลงนโยบายของรัฐบาล
2 ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตั้งให้ข้าพเจ้าเป็นนายกรัฐมนตรีตามประกาศพระบรมราชโองการ ลงวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2501 และข้าพเจ้าได้จัดตั้งคณะรัฐบาลซึ่งได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตั้งและแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีตามประกาศพระบรมราชโองการ ลงวันที่ 1 มกราคม 2501 แล้วนั้น บัดนี้คณะรัฐมนตรีได้วางนโยบายโดยตระหนักถึงความสำคัญว่าจะต้องให้เป็นไปตามแนวนโยบายแห่งรัฐ ที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และยึดถือหลักการเคารพต่อเสรีภาพของประชาชน ามรัฐธรรมนูญและอื่นๆ เป็นมูลฐาน จึงขอแถลงนโยบายเพื่อรับความไว้วางใจของสภาผู้แทนราษฎรตามความในมาตรา 84 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2475 แก้ไขเพิ่มเติมพุทธศักราช 2495 ดังต่อไปนี้การเมือง
2. รัฐบาลนี้จะผดุงรักษาระบอบประชาธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เทิดทูนพระมหากษัตริย์ให้เป็นที่เคารพสักการะตลอดไป เชิดชูบำรุงพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติ และให้ความอุปถัมภ์บำรุงแก่ศาสนาอื่น ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนความมั่นคง การป้องกันประเทศ การทหาร
4. รัฐบาลนี้จะตระเตรียมสรรพกำลังของชาติ เพื่อป้องกันราชอาณาจักรตามกำลังเศรษฐกิจของประเทศ และจะปรับปรุงกิจการด้านสวัสดิการของทหารให้ดียิ่งขึ้นความสงบเรียบร้อยภายใน,การปกครอง,มหาดไทย
5. รัฐบาลนี้จะจัดการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ โดยยึดถือ
ห้ประชาชนได้ประกอบอาชีพโดยปราศจากความหวาดระแวงภัย เพื่อการนี้รัฐบาลจะได้จัดกำลังตำรวจพนักงานปกครอง และกำนันผู้ใหญ่บ้าน ให้มีประสิทธิภาพ และให้ตำรวจเป็นตำรวจของประชาชนโดยแท้จริง จะจัดการพัฒนาการท้องถิ่น จะจัดตั้งนิคมสร้างตนเองเพิ่มขึ้น และจะเร่งรัดดำเนินการเกี่ยวกับการจัดที่ดิน เพื่อให้ประชาชนมีที่ดินทำกินให้เป็นการเหมาะสมแก่ท้องที่ และเศรษฐกิจของชาติจะจัดการอาคารสงเคราะห์โดยมุ่งช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเป็นสำคัญ และจะส่งเสริมการก่อสร้างบ้านในราคาถูก เพื่อเพิ่มพูนปริมาณเคหสถานของประชาชน และจะส่งเสริมการประชาสงเคราะห์ให้อำนวยผลดียิ่งขึ้นจะจัดการสาธารณูปโภคในท้องถิ่นต่างๆ ให้มีไฟฟ้า ประปา โดยทั่วกันยิ่งขึ้นและจะจัดให้มีทางระหว่างตำบล และทางระหว่างอำเภอให้ทั่วถึงขึ้นโดยเร็ว เพื่อประโยชน์แก่เศรษฐกิจและความเจริญของท้องถิ่น
การต่างประเทศ
3. รัฐบาลนี้จะรักษาไว้ซึ่งสิทธิ และปฏิบัติตามหน้าที่อันมีตามสนธิสัญญากับประเทศทั้งหลาย จะยึดมั่นในหลักแห่งกฎบัตรสหประชาชาติ และจะส่งเสริมสัมพันธไมตรีและร่วมมือกับนานาประเทศ เพื่อผดุงความสงบสุขของโลกตามหลักแห่งความยุติธรรม ความผาสุกของประชาชน และความมั่นคงของประเทศการเศรษฐกิจ,พาณิชย์
7. รัฐบาลนี้จะได้เร่งสำรวจภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และรีบวางโครงการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติให้เป็นการถาวร2 13. รัฐบาลนี้จะส่งเสริมการค้าภายในประเทศ จะแก้ไขอุปสรรค และวิธีการขนส่งสินค้าจากแหล่งผลิตมาสู่แหล่งบริโภคให้เป็นไปโดยสะดวก สม่ำเสมอ รวดเร็ว และประหยัด จะรักษาระดับราคาสินค้าที่จำเป็นแก่การครองชีพ จะส่งเสริมให้มีการส่งสินค้าออกชนิดต่างๆ ให้มีประมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้น จะส่งเสริมให้มีการผลิตสินค้าภายในที่จำเป็นให้มี ระเทศ จะพยายามรักษาไว้ซึ่งดุลการค้ากับต่างประเทศ และปฏิบัติประการอื่นๆ เพื่อความมั่นคงแห่งเศรษฐกิจของประเทศการคลัง,การเงิน
8. รัฐบาลนี้จะดำเนินการทุกอย่างที่จะรักษาไว้ซึ่งเสถียรภาพของเงินตรา และจะได้ปรับปรุงแก้ไขวิธีการงบประมาณ ตลอดจนการควบคุมการใช้จ่ายเงินของแผ่นดินให้เป็นไปตามกฎหมาย กับทั้งจะระมัดระวังการใช้จ่ายเงินของแผ่นดิน ให้เป็นไปโดยทางประหยัดและเกิดผลประโยชน์แก่ประชาชนอย่างแท้จริงรัฐบาลนี้จะได้ปรับปรุงการภาษีอากรให้เป็นธรรมแก่สังคม และจะจัดระบบภาษีอากรให้เหมาะสมแก่สภาพเศรษฐกิจ และมาตรฐานการครองชีพของประชาชน กับทั้งจะแก้ไขวิธีการเก็บภาษีอากรให้รัดกุม และสะดวกแก่ผู้เสียภาษีอากรยิ่งขึ้นอนึ่ง รัฐบาลนี้จะได้พยายามปลดเปลื้องหนี้สินของแผ่นดิน ซึ่งเป็นภาระหนักอยู่ในขณะนี้ ให้เบาบางลงอย่างดีที่สุดเท่าที่จะพึงกระทำได้
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
การพลังงาน สิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ
การบริหารราชการ
1. รัฐบาลนี้ถือว่าประโยชน์สุขของประชาชน และความมั่นคงของประเทศชาติเป็นยอดปรารถนาในการบริหารประเทศ ฉะนั้นสิ่งใดที่เป็นภัยและไม่เป็นธรรมแก่สังคมจะได้ขจัดให้สูญสิ้นไปโดยเด็ดขาดและรวดเร็ว รัฐบาลจะปฏิบัติการทุกอย่างเพื่ออำนวยความสุขสมบูรณ์ให้แก่ประเทศชาติและประชาชน อันจะเป็นผลให้รัฐบาลนี้ของประชาชน และเพื่อประชาชนโดยแท้จริง2 16. รัฐบาลนี้ได้คำนึงถึงความสำคัญว่าการบริหารราชการ จะดำเนินไปด้วยดีจำต้องอาศัยสมรรถภาพ ประสิทธิภาพ และความซื่อสัตย์สุจริตของข้าราชการ เพราะฉะนั้นรัฐบาลจะได้ดำเนินการปรับปรุงให้ข้าราชการมีลักษณะเช่นว่านี้อย่างดีที่สุด เท่าที่จะทำได้
การกระจายรายได้ ความเจริญ สร้างความเป็นธรรมในสังคม
การยุติธรรม,ศาล,ตุลาการ
15. รัฐบาลนี้จะเคารพในอำนาจอิสระของศาล ในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดี และจะจัดให้ศาลได้ดำเนินกระบวนพิจารณาไปโดยสะดวกรวดเร็ว อำนวยความยุติธรรมอย่างดีที่สุดแก่ประชาชนการเกษตร
9. รัฐบาลนี้จะส่งเสริมช่วยเหลือการประกอบอาชีพ และการศึกษาของราษฎรที่เกี่ยวกับการเกษตร คือการผลิตพืชพันธุ์ธัญญาหาร การเลี้ยงสัตว์ การชลประทาน การป่าไม้และการประมง ให้ได้ผลดียิ่งขึ้นทั้งในด้านประมาณและคุณภาพ เพื่อให้ผู้ประกอบอาชีพมีรายได้เพิ่มขึ้น10. รัฐบาลนี้จะส่งเสริมและปรับปรุงการสหกรณ์ประเภทต่างๆ ให้แพร่หลายตามความต้องการของประชาชน และให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ เพื่อยกฐานะการครองชีพและภาวะเศรษฐกิจให้ดียิ่งขึ้น
14. รัฐบาลนี้จะทำนุบำรุงการศึกษามากยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดผลดีทั้งในด้านประมาณและคุณภาพ โดยมุ่งให้ประชาชนเป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตย และเป็นกำลังทางเศรษฐกิจของชาติ จะพยายามให้มีสถานศึกษาให้เพียงพอ ดำเนินการยกระดับการศึกษาเบื้องต้นของประชาชนทั่วไปให้สูงขึ้น พัฒนาการศึกษาในส่วนภูมิภาค ตลอดจนการศึกษาชั้นสูงและส่งเสริมการอาชีวศึกษาเป็นพิเศษ จะได้เร่งผลิตครูและปรับปรุงหลักสูตรวิธีการวัดผลการศึกษา แบบเรียน และอุปกรณ์ให้เหมาะสม กับทั้งจะได้แก้ปัญหาเกี่ยวกับเยาวชน โดยส่งเสริมการพลศึกษา และกิจกรรมพิเศษอื่นๆ นอกจากนี้รัฐบาลจะได้สนับสนุนส่งเสริม และปรับปรุงโรงเรียนราษฎร์ กับส่งเสริมวิทยฐานะและสวัสดิภาพของครูโดยทั่วไปจะทำนุบำรุงศิลปและวัฒนธรรมของชาติ ตลอดจนปรับปรุงกิจการพิพิธภัณฑ์ และหอสมุดแห่งชาติให้ดียิ่งขึ้นการสาธารณสุข
6. รัฐบาลนี้จะได้ส่งเสริมการอนามัยของประชาชนให้ดีขึ้น โดยทั่ว
ส่งเสริมการผลิตแพทย์และผู้มีวิชาอย่างอื่นอันเกี่ยวเนื่องกับการแพทย์ จะปรับปรุงและเพิ่มสถานพยาบาลให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ทั้งในด้านสถานที่ เครื่องมือ เครื่องใช้ และเจ้าหน้าที่จะส่งเสริมการวิจัยทางแพทย์ การผลิตยาและเวชภัณฑ์ เพื่อให้ได้ปริมาณและชนิดมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันการแรงงาน
งานเร่งด่วน
การฟื้นฟูบูรณะกรุงเทพมหานคร
คำลงท้าย
รัฐบาลหวังว่าสภาผู้แทนราษฎรจะได้ให้ความไว้วางใจ เพื่อรัฐบาลจะได้บริหารราชการแผ่นดินต่อไป2 (ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 75 ตอน 4 หน้าพิเศษ 3)
1 มกราคม 2501 ถึง 20 ตุลาคม 2501
รายชื่อคณะรัฐมนตรี
คณะรัฐมนตรี คณะที่ 28
ตั้งแต่
2 โดยที่การเลือกตั้งทั่วไปแห่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งสมาชิก ฯ ได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเนื่องด้วย นายพจน์ สารสินนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีได้ขอลาออกจากตำแหน่ง ทรงพระราชดำริเห็นว่าพลโทถนอม กิตติขจร เป็นผู้สมควรและไว้วางพระราชหฤทัย ฉะนั้นในวันที่ 1 มกราคม2501 จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ตั้ง พลโท ถนอม กิตติขจร เป็นนายกรัฐมนตรี และในวันเดียวกันนี้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรีคณะรัฐมนตรีคณะนี้ มีรายนามและพระนาม ดังต่อไปนี้
1. พลโท ถนอม กิตติขจร เป็นนายกรัฐมนตรี
2. พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ เป็นรองนายกรัฐมนตรีกรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์
3. พลโท ประภาส จารุเสถียร เป็นรองนายกรัฐมนตรี
4. นายสุกิจ นิมมานเหมินท์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี
5. พลโท ถนอม กิตติขจร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
6. นายเสริม วินิจฉัยกุล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
7. พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างปร กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์
8. นายวิบูลย์ ธรรมบุตร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร
9. พลตรี พงษ์ ปุณณกันต์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม10. พลโท ประภาส จารุเสถียร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย11. พระยาอรรถการีย์นิพนธ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม12. หม่อมหลวง ปิ่น มาลากุล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม13. หม่อมหลวง ปิ่น มาลากุล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ3 14. นายสุกิจ นิมมานเหมินท์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการ15. พระประกาศสหกรณ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสหกรณ์16. นายเฉลิม พรมมาศ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข17. พลตรี กฤช ปุณณกันต์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม18. พลอากาศโท บุญชู จันทรุเบกษา เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม19. พลเรือโท สนอง ธนะศักดิ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ัง21. นายวิสูตร อรรถยุกติ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ22. พลเรือตรี จรูญ เฉลิมเตียรณ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม23. พลโท หลวงกัมปนาทแสนยากร เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย24. นายทวี แรงขำ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย25. พลตรี อัมพร จินตกานนท์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงยุติธรรม26. พลตรี เผชิญ นิมิบุตร เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวัฒนธรรม27. พลตรี เผชิญ นิมิบุตร เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ28. พลโท จิตติ นาวีเสถียร เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐการ29. นายเจ๊ะ อับดุลลา หลังปูเต๊ะ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข30. นายสงวน จันทรสาขา เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม 32. นายชื่น ระวิวรรณ เป็นรัฐมนตรี33. นายเนตร เขมะโยธิน เป็นรัฐมนตรี34. นายทิม ภูริพัฒน์ เป็นรัฐมนตรี35. นายอารีย์ ตันติเวชกุล เป็นรัฐมนตรี4 วันที่ 24 มกราคม 2501 พระยาอรรถการีย์นิพนธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ลาออกจากตำแหน่ง5 วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2501 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งพระดุลยพากย์สุวมัณฑ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม6 วันที่ 3 เมษายน 2501 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง ดังนี้
1. นายเสวตร เปี่ยมพงษ์สานต์ รัฐมนตรี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
2. นายชื่น ระวิวรรณ รัฐมนตรี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร
3. นายเนตร เขมะโยธิน รัฐมนตรี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
4. นายทิม ภูริพัฒน์ รัฐมนตรี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
5. นายอารีย์ ตันติเวชกุล รัฐมนตรี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสหกรณ์7 วันที่ 11 กรกฎาคม 2501 นายสงวน จันทรสาขา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ลาออกจากตำแหน่งวันที่ 7 สิงหาคม 2501 ได้มีรัฐมนตรีลาออกและปรับปรุงแต่งตั้งรัฐมนตรี ดังนี้
1. นายทิม ภูริพัฒน์ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 3. พลโท จิตติ นาวีเสถียร พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐการ
4. นายเสวตร เปี่ยมพงษ์สานต์ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
5. นายเจ๊ะ อับดุลลา หลังปูเต๊ะ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข
6. นายอารีย์ ตันติเวชกุล พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสหกรณ์8 7. พลตรี อัมพร จินตกานนท์ พ้นจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงยุติธรรมและแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
8. หม่อมราชวงศ์ทองแท่ง ทองแถม เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
9. หลวงอรรถพรพิศาล เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงยุติธรรม10. นายน้อม อุปรมัย เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ11. พลตรี เนตร เขมะโยธิน พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐการ12. นายประสิทธิ์ กาญจนวัฒน์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสหกรณ์13. นายสวัสดิ์ คำประกอบ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข14. นายปฐม โพธิ์แก้ว เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม9 วันที่ 20 ตุลาคม 2501 พลเอก ถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรี ได้ขอลาออกจากตำแหน่ง ฉะนั้น คณะรัฐมนตรีชุด พลเอก ถนอม กิตติขจร เป็นอันสิ้นสุดลง
11. รัฐบาลนี้จะดำเนินการจัดทำ ส่งเสริม ช่วยเหลือการอุตสาหกรรม ให้มีมากยิ่งขึ้น ชักชวนและสนับสนุนให้มีการลงทุนทั้งภายในประเทศและจากต่างประเทศ ตามความเหมาะสม ส่วนการอุตสาหกรรมภายในครอบครัวนั้น ก็จะส่งเสริมช่วยเหลือให้เจริญยิ่งขึ้นตลอดถึงการทำการค้นคว้าทดลองวัตถุดิบที่มีอยู่ในประเทศ เพื่อให้เกิดการอุตสาหกรรมใหม่ๆเพิ่มขึ้นอีกการคมนาคม ขนส่ง,สื่อสาร
12. รัฐบาลนี้จะส่งเสริมและดำเนินการสื่อสารทางไปรษณีย์ โทรเลข โทรศัพท์และวิทยุ ให้ประชาชนได้รับความสะดวกแน่นอนและรวดเร็วยิ่งขึ้น ส่วนการคมนาคมทั้งทางบกทางน้ำ และทางอากาศ ตลอดจนการท่าเรือ ก็จะได้ควบคุมเสริมสร้างบูรณะ และประสานงานให้ประชาได้รับประโยชน์และความสะดวกมากที่สุด