คณะรัฐมนตรี คณะที่ 27

นายพจน์ สารสิน เป็นนายกรัฐมนตรี

ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน 2500 - 26 ธันวาคม 2500

แถลงนโยบาย เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2500

คำปรารภ

คำแถลงนโยบายของรัฐบาล

2 "ท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร และท่านสมาชิกผู้มีเกียรติ
3 ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ข้าพเจ้าเป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศพระบรมราชโองการ ลงวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2500 และข้าพเจ้าได้จัดตั้งรัฐบาล ซึ่งได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี ตามประกาศพระบรมราชโองการลงวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2500 แล้วนั้น บัดนี้คณะรัฐมนตรีพร้อมแล้วที่จะดำเนินการบริหารราชการแผ่นดิน จึงขอแถลงนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลนี้ เพื่อรับความไว้วางใจของสภาผู้แทนราษฎร ตามความในมาตรา 84 ของรัฐธรรมนูญแห่ง
การเมือง

1. รัฐบาลนี้ยึดมั่นในประโยชน์สุขของประชาชนเป็นมูลฐาน ในการดำเนินนโยบาย จะปฏิบัติการทุกอย่างเพื่ออำนวยความสุขสมบูรณ์แก่ประเทศชาติ และประชาชนอันจะเป็นผลให้รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลเพื่อประชาชนโดยแท้จริง
2. รัฐบาลนี้จะผดุงรักษาระบอบประชาธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เทิดทูนพระมหากษัตริย์ให้เป็นที่เคารพสักการะตลอดไป เชิดชูบำรุงพระพุทธศาสนา และให้ความอุปถัมภ์แก่ศาสนาอื่นๆ
3. รัฐบาลนี้จะรักษาไว้ซึ่งสิทธิและปฏิบัติหน้าที่อันมีกับสนธิสัญญา กับประเทศทั้งหลาย จะยึดมั่นในหลักแห่งกฎบัตรสหประชาชาติ และส่งเสริมสัมพันธไมตรีกับนานาประเทศตามหลักแห่งความยุติธรรม ความผาสุกของประชาชน และความมั่นคงของประเทศ2 15. รัฐบาลนี้จะจัดให้การเลือกตั้งที่จะต้องกระทำภายใน 90 วัน ตามประกาศพระบรมราชโองการ เรื่องการใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ลงวันที่18 กันยายน 2500 เป็นไปตามกฎหมายและโดยสุจริตเที่ยงธรรม จึงขอแถลงยืนยันถึงเจตจำนงข้อนี้ให้ปรากฎเหมือนเป็นคำสัตย์ปฏิญาณให้ไว้ในสภาผู้แทนราษฎรด้วย"

4. รัฐบาลนี้จะตระเตรียมสรรพกำลังของชาติ เพื่อป้องกันราชอาณาจักรตามกำลังเศรษฐกิจของประเทศ และจะปรับปรุงกิจการค้า สวัสดิการของทหารให้ดียิ่งขึ้นความสงบเรียบร้อยภายใน,การปกครอง,มหาดไทย

5. ในส่วนที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ รัฐบาลนี้จะได้ปรับปรุงกิจการเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยให้เหมาะสมยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกิจการตำรวจจะให้ตำรวจเป็นตำรวจของประชาชน มีหน้าที่โดยตรงในการพิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริง เพื่อให้ประชาชนได้มีความเป็นอยู่ด้วยความอุ่นใจ ปราศจากความหวาดกลัว2 6. รัฐบาลนี้จะได้ส่งเสริมการรักษาพยาบาล และการอนามัยของประชาชนรวมทั้งการช่วยเหลือประชาชนในทางสวัสดิการให้ดียิ่งขึ้นสิทธิ เสรีภาพประชาชน ,เอกราช


การต่างประเทศ


การเศรษฐกิจ,พาณิชย์

7. รัฐบาลนี้จะส่งเสริมการพาณิชยการ การเศรษฐกิจในทางที่จะรักษาราคา ะเทศมากขึ้น และจะปฏิบัติประการอื่นๆ เพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศมั่นคงการคลัง,การเงิน

12. รัฐบาลนี้จะระมัดระวังการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน ให้เป็นไปโดยประหยัดและเกิดประโยชน์แท้จริง และจะจัดทำทุกทางที่จะรักษาไว้ซึ่งเสถียรภาพของเงินตราการสังคม


วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี


การพลังงาน สิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ


การบริหารราชการ

14. รัฐบาลนี้จะดำเนินการตามความจำเป็นในการปรับปรุงสมรรถภาพของข้าราชการ และการปฏิบัติราชการ เพื่อให้มีประสิทธิภาพ อำนวยความสะดวก และความรวดเร็วแก่ประชาชนยิ่งขึ้นการปรับปรุงกฎหมาย





การยุติธรรม,ศาล,ตุลาการ

9. รัฐบาลนี้จะได้ปรับปรุงบทกฎหมายและระเบียบปฏิบัติ เพื่อให้การพิจารณาพิพากษาคดีของศาล ได้เป็นไปโดยอิสระอย่างแท้จริงและสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นการเกษตร

13. ในส่วนที่เกี่ยวกับการเกษตรและสหกรณ์ รัฐบาลนี้จะส่งเสริมช่วยเหลือการประกอบอาชีพของราษฎร การผลิตพืชพันธุ์ธัญญาหาร การเลี้ยงสัตว์ โดยอาศัยการชลประทานและอื่นๆ ให้ได้ผลดียิ่งขึ้น และจะส่งเสริมการสหกรณ์ทุกประเภทการศึกษา

8. รัฐบาลนี้จะส่งเสริมการศึกษาในทางปริมาณและคุณภาพ จะวางรากฐาน เพื่อให้ประชาชนมีพื้นความรู้สูงขึ้น และมีความสามารถที่จะประกอบอาชีพได้ดี จะส่งเสริมให้ประชาชนมีวัฒนธรรมและศีลธรรมอันดีงามด้วยอาศัยการศาสนาและการศึกษาเป็นหลัก


การแรงงาน


งานเร่งด่วน


การฟื้นฟูบูรณะกรุงเทพมหานคร


21 กันยายน 2500 ถึง 26 ธันวาคม 2500

รายชื่อคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรี คณะที่ 27


ตั้งแต่
2 หลังจากที่คณะทหารได้เข้ายึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาลชุด จอมพล ป.พิบูลสงคราม แล้ว ทรงพระราชดำริเห็นว่า นายพจน์ สารสิน เป็นผู้สมควรไว้วางพระราชหฤทัย ฉะนั้นในวันที่ 21 กันยายน 2500 จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯตั้ง นายพจน์ สารสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ครั้นในวันที่ 23 กันยายน 2500 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีคณะนี้มีรายนามและพระนามดังต่อไปนี้

2. พลโท ถนอม กิตติขจร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
3. นายพจน์ สารสิน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
4. พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์
5. นายวิบูลย์ ธรรมบุตร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร
6. นายสพรั่ง เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
7. พลโท ประภาส จารุเสถียร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
8. พระยาอรรถการีย์นิพนธ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
9. หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม10. หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ11. นายสุกิจ นิมมานเหมินท์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการ12. นายวิบูลย์ ธรรมบุตร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสหกรณ์13. นายเฉลิม พรมมาศ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข14.พลเอก หลวงสวัสดิ์กลยุทธ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม15.พลอากาศโท บุญชู จันทรุเบกษา เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม16. พลเรือโท สนอง ธนศักดิ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม17. พลโท เจียม ญาโณทัย เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง18. นายวิสูตร อรรถยุกติ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ3 19. พลตรี กฤช ปุณณกัณฑ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร20.พลตรี พงษ์ ปุณณกัณฑ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม 21. พลเรือตรี จรูญ เฉลิมเตียรณ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม22. พลโท หลวงกัมปนาทแสนยากร เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย23. นายทวี แรงขำ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย24. พลตรี อัมพร จินตกานนท์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงยุติธรรม25. พลตรี ผเชิญ นิมิบุตร เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวัฒนธรรม26. พลตรี ผเชิญ นิมิบุตร เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ27. พลโท จิตติ นาวีเสถียร เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐการ28. พลตรี ชลอ จารุกลัส เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสหกรณ์29. นาเจ๊ะ อับดุลลา หลังปูเต๊ะ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข30. นายสงวน จันทรสาขา เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม4 วันที่ 26 กันยายน 2500 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายพจน์สารสิน พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และแต่งตั้งให้ นายเสริมวินิจฉัยกุล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสืบแทนต่อไป

(ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 74 ตอนที่ 83 หน้า 2397)
การอุตสาหกรรม

11. รัฐบาลนี้จะดำเนินการจัดทำ ส่งเสริม ช่วยเหลือ การอุตสาหกรรมและชักชวนให้มีการลงทุนในประเทศและจากนอกประเทศด้วยความเหมาะสม และจะส่งเสริมอุตสาหกรรมภายในครอบครัวให้ดียิ่งขึ้น ตลอดถึงการค้นคว้าและทดลองวัตถุดิบที่มีภายในประเทศการคมนาคม ขนส่ง,สื่อสาร

10. รัฐบาลนี้ได้ตระหนักถึงความสำคัญ และความจำเป็นของการติดต่อสื่อสารการคมนาคม การขนส่งทุกประเภท ตลอดจนการท่าเรือ จึงเป็นนโยบายของรัฐบาลนี้ที่จะรักษาบูรณะและเสริมสร้างให้ดียิ่งขึ้น