คณะรัฐมนตรี คณะที่ 25
จอมพล แปลก พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี
ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2495 - 26 กุมภาพันธ์ 2500แถลงนโยบาย เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2495
คำปรารภ
คำแถลงนโยบายของรัฐบาล
2 ท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร และท่านสมาชิกผู้มีเกียรติ
3 ตามประกาศตั้งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2495 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่าทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าพเจ้าเป็นนายกรัฐมนตรี บริหารราชการแผ่นดิน ข้าพเจ้าได้จัดตั้งคณะรัฐมนตรี นำรายพระนามและนามรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุมัติให้ตั้งรัฐมนตรีตามประกาศตั้งรัฐมนตรีลงวันที่ 28 มีนาคม 2495 นั้นแล้ว บัดนี้ ข้าพเจ้าและคณะรัฐมนตรี จะปฏิบัติหน้าที่ในการ จารณาให้ความไว้วางใจบริหารราชการแผ่นดินตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ดังต่อไปนี้การเมือง
2. รัฐบาลนี้มีเจตจำนงอันแน่วแน่ที่จะผดุงรักษาระบอบประชาธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เทิดทูนพระมหากษัตริย์บรมราชจักรีวงศ์ อันเป็นที่เคารพสักการะตลอดไปความมั่นคง การป้องกันประเทศ การทหาร
5. รัฐบาลนี้จะตระเตรียมสรรพกำลังของชาติ และสร้างกำลังสำหรับป้องกันรักษาราชอาณาจักรเพื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่จะมารุกรานประเทศไทยให้ดีที่สุดความสงบเรียบร้อยภายใน,การปกครอง,มหาดไทย
สิทธิ เสรีภาพประชาชน ,เอกราช
6. รัฐบาลนี้จะเคารพต่อหลักการเสรีภาพ เสมอภาพ ภราดรภาพ นอกจากจะดำเนินตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแล้ว รัฐบาลนี้จะเคารพยึดถือปฎิญญาสากลของสหประชาชาติว่า
การต่างประเทศ
4. รัฐบาลนี้จะส่งเสริมไมตรีอันมั่นคงกับนานาประเทศ และปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศ เชิดชูอุดมคติของสหประชาชาติ และยึดมั่นอยู่ในฝ่ายเสรีประชาธิปไตยต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์ผู้รุกราน เพื่อความยุติธรรมสันติสุขการเศรษฐกิจ,พาณิชย์
8. รัฐบาลนี้จะขยายการส่งเสริมให้เศรษฐกิจของชาติมีความเจริญรุ่งเรืองโดยเร็วเพื่อสร้างความผาสุกให้แก่ประชาราษฎรทั่วหน้ากัน โดยอาศัยการสหกรณ์เป็นหลักสำคัญ และจะปฏิบัติหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดินทางเศรษฐกิจ ดังต่อไปนี้ก) ขยายการส่งเสริมช่วยเหลือประชาราษฎร์ในเรื่องการแนะนำการหาทุนและเครื่องจักรทุ่นแรงให้ทวีมากยิ่งขึ้นตามกาลสมัยข) ขยายการส่งเสริมช่วยเหลือให้ประชาราษฎรมีที่ดิน และเคหสถานบ้านเรือนเป็นกรรมสิทธิ์ของตนตามควรแก่อัตภาพค) ขยายการส่งเสริมช่วยเหลือการประกอบอาชีพ ของประชาราษฎรในการผลิตพืชพันธุ์ธัญญาหาร สำหรับมนุษย์และสัตว์ ตลอดทั้งการเลี้ยงสัตว์ให้เป็นผลดี ด พันธุ์สัตว์ เหล่านี้เป็นต้น2 ง) ขยายการส่งเสริมช่วยเหลือให้ผู้ผลิตผลของตนได้ราคาที่สมควร และให้ผู้บริโภคหาซื้อสินค้าได้สะดวกในราคาพอเหมาะสม จะวางวิธีการติดต่อระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภคให้ถึงกับสะดวกใกล้ชิดการกำหนดราคาด้วยการปิดป้ายราคาสินค้า การตั้งฉางและคลังสินค้า จะให้ผลดีสมปรารถนาในเรื่องนี้ซึ่งรัฐบาลนี้จะขยายการส่งเสริมช่วยเหลือยิ่งขึ้นต่อไปด้วยมีประสิทธิภาพการคลัง,การเงิน
ฉ) รัฐบาลนี้จะรักษาค่าของเงินตราไทย ให้มีเสถียรภาพตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยเงินตรา ตามเหตุผลที่สมควรการสังคม
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
การพลังงาน สิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ
การบริหารราชการ
การกระจายรายได้ ความเจริญ สร้างความเป็นธรรมในสังคม
การยุติธรรม,ศาล,ตุลาการ
10. เพื่อรักษาไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตย และเพื่อปฏิบัติตามปฎิญญาสากลว่าด้วยสิทธิของมนุษยชน รัฐบาลนี้จะเคารพต่ออิสรภาพของศาลตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยโดยเคร่งครัดด้วย11. รัฐบาลนี้จะเพียรพยายามจนสุดกำลัง ที่จะก่อสร้างมิตรภาพด้วยยุติธรรมต่อบุคคลทั่วไปการเกษตร
การศึกษา
1. รัฐบาลชุดนี้จะเชิดชูทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และให้ความช่วยเหลือแก่ศาสนาอื่น2 3. รัฐบาลนี้จะส่งเสริมการวัฒนธรรม ทั้งในทางคติธรรม นิติธรรม วัตถุธรรมและสหธรรม ให้เป็นประเพณีประจำชาติยิ่งขึ้น3 9. เพื่อให้ได้ผลทั้งมวลที่กล่าวมานี้อย่างมีประสิทธิภาพ รัฐบาลน
ศีลธรรมแก่ประชาราษฎร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอาชีวศึกษา การพลศึกษาจะได้ขยายโรงเรียนเพื่อครูผู้สอนให้มากยิ่งขึ้น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาประชาบาลการสาธารณสุข
7. รัฐบาลนี้จะขยายการส่งเสริมช่วยเหลือประชาราษฎรในการอนามัย และการรักษาพยาบาล รวมทั้งการช่วยเหลือประชาราษฎรทางสวัสดิการให้ทวียิ่งขึ้นการแรงงาน
งานเร่งด่วน
การฟื้นฟูบูรณะกรุงเทพมหานคร
คำลงท้าย
12. รัฐบาลนี้มีความตั้งใจอันแน่วแน่ที่จะปฏิบัติงานของชาติ ให้สำเร็จตามนโยบายที่แถลงมานี้ แต่การที่จะประสบผลสำเร็จเช่นนั้นก็จะต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจของท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ข้าราชการ ตลอดถึงประชาชนทั้งชาติ ที่จะช่วยกันนำชาติผ่านพ้นสถานการณ์อันตึงเครียดของโลกในเวลานี้ และสร้างความศิ สมบูรณ์พูนผลอันผาสุกแก่ประเทศทั่วกันด้วย หวังว่าท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคงจะได้ร่วมกันด้วยไมตรีจิตมิตรภาพอันดี ให้รัฐบาลชุดนี้ได้เข้าบริหารราชการแผ่นดินตามความในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยสืบไป
แถลงนโยบาย เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2494
คำปรารภ
คำแถลงนโยบายของรัฐบาล
2 ท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร และท่านสมาชิกผู้มีเกียรติ
3 ตามประกาศตั้งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ประกาศว่าทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าพเจ้าเป็นนายกรัฐมนตรี บริหารราชการแผ่นดินข้าพเจ้าได้จัดตั้งรัฐบาล นำรายนามรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชอนุมัติให้ตั้งรัฐมนตรีตามประกาศตั้งรัฐมนตรี ลงวันที่ 8 มกราคม พุทธศักราช 2494นั้นแล้ว ณ บัดนี้ข้าพเจ้าและรัฐมนตรีพร้อมแล้วที่จะเป็นรัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงขอแถลงนโยบายในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลชุด เพื่อสภาผู้แทนราษฎรจะได้พิจารณาให้ความไว้วางใจบริหารราชการแผ่นดินตามบทบัญญัติมาตรา 50 ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2475 สืบไปดังต่อไปนี้การเมือง
1. รัฐบาลนี้มีเจตจำนงอันแน่วแน่ที่จะผดุงรักษาระบอบประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เทอดทูนพระมหากษัตริย์บรมราชจักรีวงศ์อันเป็นที่เคารพสักการะตลอดไปความมั่นคง การป้องกันประเทศ การทหาร
4. รัฐบาลนี้จะสร้างกำลังป้องกันราชอาณาจักร เพื่อเผชิญกับสถานการณ์โดยไม่ประมาทความสงบเรียบร้อยภายใน,การปกครอง,มหาดไทย
สิทธิ เสรีภาพประชาชน ,เอกราช
5. รัฐบาลนี้จะเคารพต่อหลักการเสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพนอกจากจะดำเนินตามบทบัญญัติมาตรา 14 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2475 แล้ว รัฐบาลนี้จะเคารพยึดถือปฏิญญาสากลของสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิ ของมนุษยชนด้วย
3. รัฐบาลนี้จะส่งเสริมไมตรีอันมั่นคงกับนานาประเทศ และปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศ เชิดชูอุดมคติของสหประชาชาติ และยึดมั่นอยู่ในฝ่ายเสรีประชาธิปไตย ต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์ เพื่อความยุติธรรมสันติสุขของโลกการเศรษฐกิจ,พาณิชย์
7. รัฐบาลนี้จะพยายามอย่างที่สุด ให้เศรษฐกิจของชาติมีความเจริญรุ่งเรืองโดยเร็ว เพื่อสร้างความผาสุกให้แก่ประชาราษฎรทั่วหน้า และจะบริหารราชการแผ่นดินในทางเศรษฐกิจ ดังต่อไปนี้ก) ส่งเสริมช่วยเหลือให้ราษฎรมีที่ดิน และเคหสถานบ้านเรือนเป็นกรรมสิทธิ์ของตนตามสมควรแก่อัตภาพข) ส่งเสริมช่วยเหลือการประกอบอาชีพของประชาราษฎร์ ในการผลิตพืชพันธุ์ธัญญาหาร และการเลี้ยงสัตว์ให้เป็นผลดี ดังเช่น ในเรื่องการหาทุนการชลประทาน เครื่องจักรทุ่นแรง ปุ๋ย เป็นต้น2 ฆ) ส่งเสริมช่วยเหลือให้ผู้ผลิตขายผลิตผลของตนได้ราคาที่สมควร และให้ผู้บริโภคหาซื้อสินค้าได้สะดวกในราคาพอสมควร จะวางวิธีการติดต่อระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภคให้ถึงกันสะดวกใกล้ชิด การสหกรณ์ การจัดสมาคมอาช และคลังสินค้าจะให้ผลดีสมปรารถนาในเรื่องเหล่านี้ ซึ่งรัฐบาลนี้จะพยายามส่งเสริมช่วยเหลือให้บังเกิดขึ้น พร้อมด้วยมีประสิทธิภาพดีด้วยการคลัง,การเงิน
8. รัฐบาลนี้เห็นชัดว่า การที่จะสร้างประโยชน์อันผาสุกให้แก่ราษฎรดังกล่าวมานี้ ค่าของเงินก็มีความสำคัญอยู่ส่วนหนึ่ง ภายหลังสงครามโลกครั้งที่สองนี้ค่าของเงินตราไทยได้ตกต่ำลงไปมาก ซึ่งก็มิใช่จะเป็นเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้นที่จริงประเทศอื่นหลายประเทศก็ต้องประสพผลอันนี้ รัฐบาลที่แล้วมาได้ทำความพยายามให้ค่าของเงินตราไทยดีมาในชั่วเวลา 2 - 3 ปีนี้ รัฐบาลนี้จะได้ทำความพยายามต่อไปด้วยวิธีการอันรอบคอบให้เป็นผลดียิ่งขึ้นการสังคม
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
การพลังงาน สิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ
การปรับปรุงกฎหมาย
การกระจายรายได้ ความเจริญ สร้างความเป็นธรรมในสังคม
การยุติธรรม,ศาล,ตุลาการ
10. เพื่อรักษาไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตย และเพื่อปฏิบัติเคร่งครัดตามปฎิญญาสากลว่าด้วยสิทธิของมนุษยชน รัฐบาลนี้จะเคารพต่ออิสรภาพของศาลตามบทบัญญัติมาตรา 60 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2475 โดยเคร่งครัดการเกษตร
การศึกษา
2. รัฐบาลนี้จะเชิดชูทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และให้ความช่วยเหลือแก่ศาสนาอื่น2 9. เพื่อให้ได้ผลทั้งมวลที่ได้กล่าวมานี้อย่างมีประสิทธิภาพ รัฐบาลนี้จะให้การศึกษาอันดีแก่ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคืออาชีวศึกษาและอบรมศีลธรรม จะได้ขยายโรงเรียน และเพิ่มครูผู้สอนให้มากยิ่งขึ้น
6. รัฐบาลนี้จะเร่งรัดส่งเสริมการรักษาพยาบาลและอนามัย ของประชาชนรวมทั้งการช่วยเหลือประชาชนทางสวัสดิการให้ทวียิ่งขึ้นการแรงงาน
งานเร่งด่วน
การฟื้นฟูบูรณะกรุงเทพมหานคร
คำลงท้าย
11. รัฐบาลนี้มีความตั้งใจอันแน่วแน่ที่จะปฏิบัติงานของชาติ ให้สำเร็จตามนโยบายที่แถลงมานี้ แต่การที่จะประสพผลสำเร็จเช่นนั้น ก็จะต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจของท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ข้าราชการ ตลอดถึงประชาชน ที่จะช่วยกันนำชาติผ่านพ้นสถานการณ์อันตึงเครียดของโลกในเวลานี้ และสร้างความถาวรสวัสดีอันผาสุกให้แก่ประเทศชาติทั่วกันด้วย หวังว่าท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคงจะได้พิจารณานโยบายของรัฐบาลนี้ด้วยไมตรีจิต และให้ความไว้วางใจแก่รัฐบาลชุดนี้ด้วยดี แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2475 สืบไป
วันที่ 24 มีนาคม 2495 ถึง 26 กุมภาพันธ์ 2500
รายชื่อคณะรัฐมนตรี
คณะรัฐมนตรี คณะที่ 25
ตั้งแต่
2 โดยเหตุที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2475 แก้ไขเพิ่มเติมพ.ศ. 2495 มาตรา 121 บัญญัติให้คณะรัฐมนตรีซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันที่ใช้บังคับ ให้คงอยู่ในตำแหน่งบริหารราชการแผ่นดินต่อไปก่อน และพ้นจากตำแหน่ง เมื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่1 เข้ารับหน้าที่และต่อมาสมาชิก ประเภทที่ 1 ได้เข้ารับหน้าที่ ครั้นวันที่24 มีนาคม 2495 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ตั้ง จอมพล แปลก พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี และในวันที่ 28 มีนาคม 2495 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ
1. จอมพล แปลก พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี
2. จอมพล ผิน ชุณหะวัณ เป็นรองนายกรัฐมนตรี
3. จอมพล แปลก พิบูลสงคราม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
4. พลตรี เภา เพียรเลิศ บริภัณฑ์ยุทธกิจ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
5. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
วรรณไวทยากร
6. พลเรือตรี หลวงยุทธศาสตร์โกศล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสหกรณ์
7. พลเรือโท หลวงสุนาวินวิวัฒ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร
8. พลอากาศเอก ฟื้น รณนภากาศ ฤทธาคนี เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
9. พลตรี บัญญัติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย10. พระนิติธารณ์พิเศษ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม11. จอมพล แปลก พิบูลสงคราม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม12. พลเอก มังกร พรหมโยธี เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ13. นายวรการบัญชา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการ3 14. พระยาบริรักษ์เวชชการ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุ
15. นายสุกิจ นิมมานเหมินท์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม16. พลอากาศตรี มุนี มหาสันทนะ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการสำนักนายกรัฐมนตรีเวชยันตรังสฤษดิ์17. พลโท สฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม18. พลตรี ประยูร ภมรมนตรี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง19. นายเขมชาติ บุณยรัตพันธุ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ20. นายพันตำรวจเอก ละม้าย อุทยานานนท์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร21. พลเรือตรี หลวงชำนาญอรรถยุทธ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม22. พันเอก ประมาณ อดิเรกสาร เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม23. นายพลตำรวจโทเผ่า ศรียานนท์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย24. พลโท เดช เดชประดิยุทธ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นธรรม26. พลอากาศโท หลวงเชิดวุฒากาศ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ27. พันเอก ศิริ สิริโยธิน เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐการ28. นายเลื่อน พงษ์โสภณ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม4 วันที่ 12 มิถุนายน 2495 นายสุกิจ นิมมานเหมินท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ขอลาออกจากตำแหน่ง และมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งพลอากาศตรี มุนี มหาสันทนะ เวชยันตรังสฤษดิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมวันที่ 31 ตุลาคม 2495 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ตั้งนายพลตำรวจตรี ละม้าย อุทยานานนท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการสหกรณ์ อีกตำแหน่งหนึ่งวันที่ 13 พฤศจิกายน 2495 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ตั้งพลตรีประยูร ภมรมนตรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นรัฐมนตรีสั่งราชการสำนักนายกรัฐมนตรี อีกตำแหน่งหนึ่ง พระยาลัดพลีธรรมประคัลภ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แทนพระนิติธารณ์พิเศษ ซึ่งถึงแก่อนิจกรรม เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2496วันที่ 12 ธันวาคม 2496 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ปรับปรุงตำแหน่งรัฐมนตรีใหม่ ดังนี้
1. พลอากาศโท มุนี มหาสันทนะ เวชยันตรังสฤษดิ์ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการสำนักนายกรัฐมนตรี
2. พลโท บัญญัติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
3. พลเรือโท หลวงสุนาวินวิวัฒ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
4. จอมพล ผิน ชุณหะวัณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรอีกตำแหน่งหนึ่ง6 5. นายพลตำรวจตรี ละม้าย อุทยานานนท์ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการสหกรณ์
6. พลจัตวา ศิริ สิริโยธิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐการ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการสหกรณ์ อีกตำแหน่งหนึ่ง
7. พลจัตวา ประมาณ อดิเรกสาร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม อีกตำแหน่งหนึ่ง7 วันที่ 25 ธันวาคม 2496 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ตั้งให้
มนตรี เป็นรองนายกรัฐมนตรี8 วันที่ 1 มกราคม 2497 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง
1. พลเรือเอก หลวงยุทธศาสตร์โกศล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสหกรณ์
2. พลจัตวา ศิริ สิริโยธิน เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสหกรณ์ อีกตำแหน่งหนึ่ง9 วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2497 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้
1. พันเอก นายวรการบัญชา พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการและแต่งตั้งให้เป็นรองนายกรัฐมนตรี
2. จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการอีกตำแหน่งหนึ่ง0 วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2497 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายพลตำรวจเอก เผ่า ศรียานนท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง อีกตำแหน่งหนึ่ง1 วันที่ 22 มีนาคม 2497 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งพลโทประยูร ภมรมนตรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข อีกตำแหน่งหนึ่ง2 วันที่ 15 พฤษภาคม 2497 พระยาบริรักษ์เวชชการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
งตั้งให้พลโท ประยูร ภมรมนตรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สืบแทนและคงให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังอีกตำแหน่งหนึ่งด้วย3 วันที่ 23 มิถุนายน 2497 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งจอมพลผิน ชุณหะวัณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมอีกตำแหน่งหนึ่ง4 วันที่ 23 มีนาคม 2498 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้1.จอมพล ป.พิบูลสงคราม พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการ
2. พลตรี ศิริ สิริโยธิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐการ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการ
3. พันตรี รักษ์ ปันยารชุน เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ5 วันที่ 1 มิถุนายน 2498 นายเขมชาติ บุณยรัตพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ขอลาออกจากตำแหน่ง6 วันที่ 16 กรกฎาคม 2498 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้
1. พลตรี ศิริ สิริโยธิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสหกรณ์
2. พลเอก เดช เดชประดิยุทธ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
7 วันที่ 2 สิงหาคม 2498 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ปรับปรุงคณะรัฐมนตรี และแต่งตั้งรัฐมนตรีเพิ่มขึ้น ดังนี้
1. จอมพลอากาศ ฟื้น รณนภากาศ ฤทธาคนี พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี
2. พลอากาศโท มุนี มหาสันทนะ เวชยันตรังสฤษฎ์ พ้นจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
3. จอมพล ป. พิบูลสงคราม พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อีกตำแหน่งหนึ่ง
4. พลเรือโท หลวงสุนาวินวิวัฒ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสหกรณ์
5. พลเรือเอก หลวงยุทธศาสตร์โกศล พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสหกรณ์และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม8 6. พลตรี ประมาณ อดิเรกสาร พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
7. พลโท ไสว ไสวแสนยากร เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
8. พลโท ถนอม กิตติขจร เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสหกรณ์9 วันที่ 5 สิงหาคม 2498 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้รัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง ดังต่อไปนี้
2. พลเอก เดช เดชประดิยุทธ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสหกรณ์
3. นายพลตำรวจเอก เผ่า ศรียานนท์ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
4. พลโท ประยูร ภมรมนตรี พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง20 วันที่ 19 เมษายน 2499 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้
1. จอมพล ผิน ชุณหะวัณ พ้นจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี
2. พลโท บัญญัติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี
3. พลตรี ประมาณ อดิเรกสาร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม21 วันที่ 18 สิงหาคม 2499 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้หม่อมหลวงชูชาติ กำภู เป็นรัฐมนตรี22 วันที่ 22 กันยายน 2499 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้
1. พลอากาศโท มุนี มหาสันทนะ เวชยันตรังสฤษฎ์ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี
2. พลโท บัญญัติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา พ้นจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
(ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 69 ตอน 26 หน้า 1026)
การอุตสาหกรรม
ฆ) ขยายการส่งเสริมช่วยเหลือการอุตสาหกรรมของรัฐ และเอกชนที่ทำด้วยวัตถุดิบในประเทศให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ตลอดจนการอุตสาหกรรมในครอบครัวด้วยการคมนาคม ขนส่ง,สื่อสาร
จ) ขยายการส่งเสริมช่วยเหลือความสะดวกในการขนส่ง การสื่อสาร และการสัญจรไปมาให้ดียิ่งขึ้น