คณะรัฐมนตรี คณะที่ 18

พลเรือตรี ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์เป็นนายกรัฐมนตรี

ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2490 - 8 พฤศจิกายน 2490

แถลงนโยบายเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2490

คำปรารภ

คำแถลงนโยบายของรัฐบาล

2 "บัดนี้ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งและแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีตามประกาศลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2490 แล้ว รัฐบาลจึงขอแถลงนโยบายต่อรัฐสภาดั่งต่อไปนี้การเมือง


ความมั่นคง การป้องกันประเทศ การทหาร

2. การทหาร
รัฐบาลถือว่ากำลังทหารที่มีอยู่นั้น เป็นของประเทศชาติโดยเฉพาะ จะได้ ปไตย และปรับปรุงกิจการทหารให้เหมาะสมกับฐานะและความเป็นอยู่ของประเทศ ตลอดจนการจัดระเบียบใช้กำลังป้องกันชาติให้เหมาะสมยิ่งขึ้นจะได้จัดการปรับปรุงวิทยฐานะของผู้บังคับบัญชาทหาร ให้มีสมรรถภาพสูงขึ้น บำรุงส่งเสริมให้ทหารนอกจากจะให้ความรู้สามารถทำหน้าที่ป้องกันประเทศชาติแล้วยังหาทางให้มีความรู้แลความก้าวหน้าในการประกอบอาชีพอีกด้วย นอกจากนี้จะได้บำรุงความสุขของทหารและให้ทหารได้อยู่ในระเบียบวินัยโดยเคร่งครัด ทั้งจะได้สนับสนุนให้กิจการทหารผ่านศึกดำเนินไปด้วยความเหมาะสมความสงบเรียบร้อยภายใน,การปกครอง,มหาดไทย

9. การมหาดไทย
รัฐบาลจะได้1) ปรับปรุงกำลังพนักงานเจ้าหน้าที่ และวิธีการรักษาความสงบเรียบร้อยในท้องที่ให้เหมาะสมมีสมรรถภาพยิ่งขึ้นอีกทั้งจะได้ดำเนินในทางอบรมศีลธรรม จรรยาแก่ประชาชน2) ปรับปรุงราชการบริหารส่วนภูมิภาคในลักษณะที่มีการควบคุมการตรวจตราโดยใกล้ชิด และแบ่งเบาภาระความรับผิดชอบจากราชการบริหารส่วนกลาง เพื่อ จการยิ่งขึ้นส่วนการปกครองท้องถิ่น ก็จะได้ปรับปรุงแก้ไขรูปการณ์ในลักษณะ ที่จะให้เกิดเทศบาลตำบลขึ้นได้สมประสงค์ และให้เทศบาลทั้งหลายดำรงฐานะอยู่ได้ด้วยความมั่นคงสามารถปฏิบัติหน้าที่เพื่อความสุขความเจริญแก่ประชาชนและท้องที่ได้จริงจัง3) เร่งรัดจัดการเรื่องส่งเสริมการเศรษฐกิจท้องที่ให้บังเกิดผลตามลำดับอีกทั้งจะได้ร่วมมือส่งเสริมสนับสนุนให้ราษฎรได้มีการประกอบอุตสาหกรรมภายในครอบครัวรวมทั้งการทำสวนครัวและเลี้ยงสัตว์ให้เป็นล่ำเป็นสันยิ่งขึ้น2 4)ขยายกิจการสงเคราะห์ประชาชนในด้านประกอบการกสิกรรม และบุคคลผู้ไม่สามารถเลี้ยงตนเองได้ให้กว้างขวางยิ่งขึ้นเช่น โดยจัดการตั้งนิคมกสิกรและสถานสงเคราะห์คนชรา สถานสงเคราะห์เด็กอนาถาเพิ่มขึ้นตามกำลังเป็นลำดับส่วนบุคคลประเภทกรรมกรก็จะได้พิจารณาตั้งองค์การเฉพาะขึ้นเพื่อให้ความดูแลและสงเคราะห์เป็นส่วนหนึ่งต่อไป5)จัดการสาธารณูปโภคอันเป็นเครื่องยังความสะดวกเจริญแก่ท้องถิ่น ตามลำดับและจะปรับปรุงส่งเสริมการจัดระเบียบผังเมืองตลอดจนการสร้างอาคารที่อยู่ของประชาชน ให้เป็นไปถูกต้องด้วยสุขลักษณะเหมาะสมตามสภาพท้องที่และโดยประหยัด อนึ่งจะได้จัดการในเรื่องอาคารสงเคราะห์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประกอบอาชีพประจำอยู่ในชุมชนใหญ่ ๆ ซึ่งขาดแคลนที่อยู่อาศัยโดยควรแก่สภาพการณ์6) ส่งเสริมสนับสนุนให้ราษฎรได้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน สำหรับเป็นที่อยู่อาศัยและประกอบการเลี้ยงชีพเป็นหลักฐาน และช่วยเหลือในเรื่องการขอจับจองและออกหนังสือสำคัญให้รวดเร็วขึ้นสิทธิ เสรีภาพประชาชน ,เอกราช


การต่างประเทศ

1. การต่างประเทศ
รัฐบาลจะอนุวรรตน์ตามกติกาขององค์การสหประชาชาติ และร่วมมือในกิจการระหว่างประเทศเพื่อประโยชน์แก่สันติภาพถาวร และความมั่นคงทางเศรษฐกิจของโลกส่งเสริมความเข้าใจและความเห็นใจซึ่งกันและกันในบรรดาประเทศสมาชิกแห่งสหประชาชาติ าประเทศ โดยยึดมั่นในความสุจริตและการถ้อยทีถ้อยปฏิบัติต่อกันการเศรษฐกิจ,พาณิชย์

8. การพาณิชย์
รัฐบาลจะส่งเสริมการพาณิชย์ให้เป็นคุณประโยชน์แก่การเงิน และการเศรษฐกิจของประเทศ โดยสนับสนุนและจัดการให้การพาณิชย์ทั้งภายใน และภายนอกประเทศ เป็นไปในทางที่จะแก้ความขาดแคลนในเครื่องอุปโภคบริโภคอันจำเป็นแก่การครองชีพและสิ่งของอื่นอันจำเป็นแก่การประกอบอาชีพอิสระให้บรรเทาลง และมีระดับราคาพอสมควรทั้งจะได้สมานประโยชน์ของผู้ผลิต ผู้ขนส่ง ผู้ค้า และผู้บริโภคให้เป็นไปด้วยดีส่วนสัมพันธกรณีเรื่องข้าวที่มีอยู่กับต่างประเทศ รัฐบาลนี้จะดำเนินการตามข้อตกลงให้ลุล่วงด้วยดีการคลัง,การเงิน

3. การคลัง
รัฐบาลมีนโยบายในอันที่จะจัดทำงบประมาณให้เป็นดุลยภาพ อันจะเป็นผลนำไปสู่เสถียรภาพแห่งเงินตรา และจัดวิธีหาเงินมาบูรณะบ้านเมือง ของข้าราชการให้เหมาะสมการสังคม


วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี


การพลังงาน สิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ


การบริหารราชการ


การปรับปรุงกฎหมาย


การกระจายรายได้ ความเจริญ สร้างความเป็นธรรมในสังคม


การยุติธรรม,ศาล,ตุลาการ

10. การศาล
รัฐบาลจะรักษาและส่งเสริมฐานะของผู้พิพากษา ตามควรแก่อิสระที่มีในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดี และจะสอดส่องให้กระบวนพิจารณาในศาลดำเนินไปโดยรวดเร็วเพื่อประโยชน์ของประชาชน เฉพาะอย่างยิ่งจะได้พิจารณาเพิ่มจำนวนผู้พิพากษา
การเกษตร

4. การเกษตร
รัฐบาลจะเร่งรัดและฟื้นฟูการเกษตรกรรมเพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตให้เพียงพอแก่ความต้องการ ทั้งสามารถส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศได้มากขึ้น โดยจะได้เร่งการผลิตข้าวเป็นพิเศษพร้อมทั้งส่งเสริมการปลูกพืชอย่างอื่น ตลอดจนการเลี้ยงสัตว์ให้มากยิ่งขึ้นด้วย ในการนี้จะได้ส่งเสริมและขยายการบำรุงพันธุ์ข้าว พันธุ์พืช และพันธุ์สัตว์หาวิธีป้องกันโรคพืชและโรคสัตว์ให้เป็นผลดียิ่งขึ้น เฉพาะโรคระบาดสัตว์จะได้ระดมเจ้าหน้าที่และเวชภัณฑ์ออกไปทำการปราบปรามและป้องกันโดยเข้มแข็ง จะได้ส่งเสริมอาชีพการประมงให้เป็นปึกแผ่น ทั้งจะได้บำรุงรักษาพันธุ์ปลาน้ำจืดและส่งเสริมการเลี้ยงให้มีปริมาณมากขึ้น จะได้เร่งรัดการก่อสร้างชลประทานตามโครงการต่างๆ และจะได้เริ่มงานโครงการเขื่อนแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนการชลประทานราษฎร์ และชลประทานท้องที่ก็จะได้ส่งเสริมและอำนวยความสะดวกให้มากยิ่งขึ้นจะได้ดำเนินการป่าไม้และสวนยางให้เหมาะสม รัฐบาลนี้ถือว่าสหกรณ์เป็นวิธีการส่วนหนึ่งที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ จึงจะได้จัดตั้งสหกรณ์รูปต่างๆ สำหรับชาวนา ชาวสวน ชาวประมง ผู้ประกอบการเลี้ยงสัตว์และผู้ประกอบการกสิกรรมอย่างอื่นให้มากยิ่งขึ้น ทั้งจะช่วยเหลือให้มีเครื่องอุปโภคที่จำเป็นการศึกษา

11. การศึกษา
รัฐบาลจะจัดการฝึกครูให้ได้ทั้งปริมาณและคุณภาพจะส่งเสริมอุดหนุนโรงเรียนราษฎร์ให้มีฐานะและมีคุณภาพดีขึ้น จะเพิ่มสถานที่เล่าเรียนในโรงเรียนรัฐบาลขึ้นอีก และจะจัดการศึกษาให้เปล่าในโรงเรียนรัฐบาลโดยวิธีคัดเลือกนักเรียนที่เรียนดีเข้าเรียน จะส่งเสริมและกวดขันโรงเรียนประชาบาล และเทศบาลให้มีคุณภาพดีขึ้น เพิ่มพื้นความรู้ภาคบังคับให้ต้องศึกษาให้สูงขึ้น ทั้งนี้จะขยายเป็นระยะ ๆ และเป็นท้องที่ ๆ ไปจะปรับปรุงอาชีวศึกษาโดยวางโครงการอาชีวศึกษาให้เหมาะสมแก่ท้องถิ่น และจัดอาชีวศึกษาสำหรับผู้ใหญ่ขึ้นอีกด้วย

5. การสาธารณสุข
รัฐบาลจะดำเนินการป้องกันโรคติดต่ออันตรายและโรคติดต่ออื่น ๆ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน จะจัดให้มีสถานพยาบาลเพิ่มมากขึ้น จะจัดให้มียารักษาโรคที่จำเป็นให้มีจำหน่ายโดยแพร่หลายตามท้องที่ด้วยราคาย่อมเยา กับจะส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่มีสมรรถภาพจำหน่ายโดยแพร่หลายตามท้องที่ด้วยราคาย่อมเยา กับจะส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่มีสมรรถภาพสูงขึ้น ทั้งจะเพิ่มจำนวนให้พอแก่ความจำเป็นที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ในการช่วยเหลือราษฎร นอกจากนี้จะได้ดำเนินงานบางประการที่เห็นจำเป็น เพื่อให้การสาธารณสุขก้าวหน้าสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เช่น ขยายการสงเคราะห์แม่และเด็กให้กว้างขวางออกไป เร่งจัดการอนามัยให้แก่นักเรียนตามโรงเรียนต่าง ๆ ให้มากยิ่งขึ้น จัดให้มีสำนักศึกษาวิชาการสาธารณสุขขึ้นในมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ จัดให้มีการประกันสุขภาพหรือความป่วยเจ็บแก่บุคคลบางประเภทและจัดให้มีสถานการวิจัยและชันสูตรทางแพทย์แห่งชาติ เพื่อความก้าวหน้าในทางแพทยศาสตร์


งานเร่งด่วน


การฟื้นฟูบูรณะกรุงเทพมหานคร


คำลงท้าย

ทั้งนี้ หวังว่ารัฐสภาจะพิจารณาดำเนินการตามมาตรา 69 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยด้วยดีต่อไป และในการนี้ ถ้าหากว่าท่านสมาชิกมีข้อข้องใจต่าง ๆประการใด รัฐบาลก็พร้อมที่จะตอบชี้แจงให้ทราบโดยละเอียด

30พฤษภาคม2490ถึง 8พฤศจิกายน2490

รายชื่อคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรี คณะที่ 18


ตั้งแต่
2 โดยที่พลเรือตรี ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี ได้กราบถวายบังคมลาออกจากตำแหน่ง เพื่อให้มีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีขึ้นใหม่วันที่ 30 พฤษภาคม 2490 ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ตั้ง นายกรัฐมนตรี และวันที่ 31 พฤษภาคม 2490 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ตั้งรัฐมนตรี คณะรั คณะนี้มีรายนาม ดังต่อไปนี้
1. พลเรือตรี ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี
2. นายเดือน บุนนาค เป็นรองนายกรัฐมนตรี
3. พลโท จิระ วิชิตสงคราม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
4. นายวิจิตร ลุลิตานนท์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

5. นายอรรถกิตติ พนมยงค์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
6. พันเอก ช่วง เชวงศักดิ์สงคราม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการ
7. นายแสง สุทธิพงศ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

8. นายทองอินทร์ ภูริพัฒน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
9. พระยาประกิตกลศาสตร์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม10. นายเดือน บุนนาค เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์11. พระยาสุนทรพิพิธ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย12. พลเรือตรี ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม13. นายเดือน บุนนาค เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โหม15. หม่อมเจ้านนทิยาวัต สวัสดิวัฒน์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ16. นายเยื้อน พาณิชวิทย์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตราธิการ17. นายจำลอง ดาวเรือง เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์18. นายทอง กันทาธรรม เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย3 19. นายวิโรจน์ กมลพันธุ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ20. นายชิต เวชประสิทธิ์ เป็นรัฐมนตรี21. หลวงนรัตถรักษา เป็นรัฐมนตรี22. ขุนระดับคดี เป็นรัฐมนตรี
ประกาศราชกิจจา

(ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 64 ตอน 66 หน้า 1464)
การอุตสาหกรรม

6. การอุตสาหกรรม
รัฐบาลจะจัดทำและส่งเสริมการอุตสาหกรรม เพื่อทำเครื่องอุปโภคให้เกิด
ผลิตภัณฑ์ทางอุตสาหกรรมมีปริมาณมากขึ้นในด้านโลหกิจ จะได้ดำเนินงานในวิชาการแร่ การสำรวจธรณีวิทยา เพื่อสืบค้นหาแหล่งแร่และวัตถุเชื้อเพลิง และส่งเสริมให้มีการผลิตแร่มากยิ่งขึ้น และจะได้ดำเนินการสืบค้นในทางวิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมการอุตสาหกรรม กสิกรรมและพาณิชยกรรมของประเทศการคมนาคม ขนส่ง,สื่อสาร

7. การคมนาคม
รัฐบาลจะได้เร่งรัดบูรณะทางคมนาคมที่ได้ชำรุดทรุดโทรม จากผลของการสงครามและจากการสึกหรอตามธรรมชาติให้เข้าสู่สภาพดียิ่งขึ้น เพื่อสนองความต้องการของประเทศ ส่วนการก่อสร้างทางคมนาคมใหม่ก็จะได้จัดปรับปรุงโครงการที่มีอยู่เดิมให้เหมาะสม เพื่อยังประโยชน์ให้แก่การเศรษฐกิจของประเทศภายหลังสงครามสำหรับการสื่อสารและการขนส่ง รัฐบาลจะได้เร่งรัดแก้ไขและจะได้ส่งเสริมให้กิจการก้าวหน้าและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น