คณะรัฐมนตรี คณะที่ 5

พระยาพหลพลพยุหเสนา เป็นนายกรัฐมนตรี

ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2476 - 21 กันยายน 2477

แถลงนโยบาย เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2476
คำปรารภ

คำแถลงนโยบาย

2 รัฐบาลนี้จะดำเนินนโยบายตามหลัก 6 ประการ ต่อจากรัฐบาลที่แล้วมา เพื่อให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้าสืบไปตามวิถีทางรัฐธรรมนูญซึ่งมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของชาติบัดนี้ราชการในพระราชสำนักได้จัดขึ้นเป็นกระทรวง มีรัฐมนตรีว่าการแล้วเป็นอันว่าจะได้เข้าสู่ฐานะที่สมสภาพและสมพระเกียรติต่อไปความเป็นเอกราชของชาติจะบริบูรณ์ ก็ต่อเมื่อใช้อำนาจอธิปตัยได้เต็มที่รัฐบาลนี้จะได้เร่งรัดให้ประกาศใช้ประมวลกฎหมายที่ยังค้างอยู่นั้นโดยเร็วที่สุด


ความมั่นคง การป้องกันประเทศ การทหาร


ความสงบเรียบร้อยภายใน,การปกครอง,มหาดไทย

ส่วนอำนาจบริหารนั้น ในเวลานี้มีกรณียกิจเบื้องต้นในอันจะรักษาความสงบความมั่นคงและความสามัคคี รัฐบาลนี้จะป้องกันภัยต่อสันติภาพของประชาชนทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นภัยเนื่องมาแต่การกบฏ การคอมมิวนิสต์ หรือการระส่ำระสายใด ๆ อื่น2 เมื่อทางพระราชไมตรีเป็นที่เรียบร้อยอยู่เช่นนี้ ความสงบอันจะพึงรักษาก็คือความสงบภายในเป็นสำคัญ ฝ่ายทหารได้เตรียมพร้อมที่จะเข้าช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ปกครองท้องถิ่นในเมื่อมีเหตุฉุกเฉินขึ้นทางฝ่ายกระทรวงมหาดไทยก็ได้วางนโยบายในการรักษาความปลอดภัยไว้อย่างกว้างขวางเช่นจะได้บำรุงกำลังและปรับปรุงระเบียบการของตำรวจ และของเจ้าหน้าที่กรมมหาดไทยให้ดียิ่งขึ้น และจะได้จัดการราชทัณฑ์ไปในทางอบรมดัดนิสสัยสันดานเพื่อให้นักโทษมีนิสสัยไปในทางทำงานและทำคุณประโยชน์ ประกอบไปด้วย รัฐบาลจะบำรุงการสาธารณสุขโดยขยายการบำบัดโรคและการอนามัยให้แพร่หลายยิ่งขึ้นและโดยจัดให้มีผู้ตรวจการสุขาภิบาลซึ่งมีความรู้ในการสุขาภิบาลแผนปัจจุบันเพื่อช่วยเหลือราษฎรตามชนบทต่าง ๆ รัฐบาลจะบำรุงการสาธารณูปการโดยจัดให้มีการสงเคราะห์คนอนาถาและคนทุพพลภาพ รัฐบาลจะบำรุงความผาสุกของประชาชนพลเมืองทั่วไปโดยส่งเสริมเทศบาล การศึกษา และเศรษฐกิจเทศบาล คือ ระเบียบการปกครองท้องถิ่น ซึ่งราษฎรมีเสียงในการดูแลและจัดการผลประโยชน์ในท้องถิ่นนั้น รัฐบาลนี้จะได้จัดตั้งและขยายเทศบาลออกไปตามตำบลต่าง ๆทั่วราชอาณาจักรโดยเร็วที่สุดที่จะอบรมเจ้าหน้าที่ในการใหม่นี้ได้ เทศบาลเป็นการศึกษาอย่างหนึ่งด้วยคือเป็นวิธีที่ราษฎรจะได้รับความฝึกหัดอบรมในวิธีการปกครองแบบรัฐธรรมนูญนั้นด้วยสิทธิ เสรีภาพประชาชน ,เอกราช




รัฐบาลนี้จะส่งเสริมทางพระราชไมตรีกับนานาประเทศ ซึ่งมีอยู่แล้วเป็นอย่างดีนั้น ให้สนิทสนมยิ่งขึ้นการเศรษฐกิจ,พาณิชย์

การบำรุงเศรษฐกิจของบ้านเมืองนั้น รัฐบาลก่อนได้วางแผนการเป็นทางดำเนินการไว้แล้วรัฐบาลนี้จะดำเนินการตามแผนการนั้นตลอดไป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการจะได้แถลงรายละเอียดให้ทราบอุปสรรคเรื่องข้าวราคาตกนั้น รัฐบาลกำลังพยายามแก้ไขอยู่แล้วจะได้ให้ทราบนโยบายในเวลาอันควร2 คำแถลงของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการ


ในรายละเอียดแห่งนโยบาย

เศรษฐกิจ
3 กรมทะเบียนการค้า
จะขยายการควบคุมการชั่งตวงวัดตามพระราชบัญญัติ ให้ใช้กันทั่วพระราชอาณาจักร์4 กรมพาณิชย์

5 จะตั้งฉาง (Silo) แล้วดำเนินการต่อไปจนถึงการจัดตลาดสินค้าข้าวในประเทศ าคุณภาพของสินค้าไทยจะจัดตั้งแผนกสถิติพยากรณ์รวบรวมตัวเลขให้ได้เป็นที่แน่นอน เพื่อประโยชน์แก่การบำรุงการพาณิชย์อย่างจริงจังจะจัดเรื่องกรรมกร เพื่อเป็นการช่วยเหลือกรรมกรทั้งในทางทุนเบื้องต้นและในทางจัดหางานให้ทำจะพยายามฟื้นฟูสินค้าบางอย่าง ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นสินค้าสำคัญของสยาม เช่นน้ำตาลและพริกไทย6 (ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 50 หน้า 2729 พ.ศ. 2476)
การคลัง,การเงิน

ตามฐานะเศรษฐกิจในเวลานี้ ยังจะหวังไม่ได้ว่ารายได้จะเพิ่มขึ้น
เพราะฉะนั้นจะต้องระมัดระวังรายจ่ายงบประมาณจึ่งจะเข้าสู่ดุลยภาพและอยู่ในความมั่นคงได้ แต่รัฐบาลนี้จะปรับปรุงวิธีการเก็บภาษีอากรบางอย่างเพื่อให้ได้เงินซึ่งควรจะได้ และเพื่อบรรเทาภาระของราษฎร รัฐบาลนี้จะหาทางลดเงินรัชชูปการลงตามสมควรในส่วนการ ยสหกรณ์ก็ดี หรือบำรุงรักษาและขยายกิจการที่ได้ลงทุนไปแล้วเช่น การชลประทานการรถไฟและการสร้างถนนก็ดี รัฐบาลจะจัดสรรเงินมาตั้งจ่ายให้ ข้อสำคัญอีกข้อหนึ่งก็คือ ความมั่นคงแห่งเงินตรา ซึ่งรัฐบาลนี้เชื่อว่าการที่จะรักษาอัตราแลกเปลี่ยนเงินให้คงที่ดั่งได้กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติเงินตรานั้น เป็นทางที่ควรสำหรับกรุงสยามการสังคม


วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี

กรมวิทยาศาสตร์

2 จะตั้งห้องสมุดในทางวิทยาศาสตร์สำหรับประชาชน และแสดงพิพิธภัณฑ์วัตถุที่ทดลองในทางวิทยาศาสตร์ที่เห็นว่าจะเป็นสินค้าได้ ทั้งจะออกหนังสือเผยแผ่ความรู้ที่จะได้จากการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์จะทำการแยกธาตุดินที่ทำการเพาะปลูก และแยกธาตุปุ๋ยพันธ์หญ้าและอาหารสัตว์ ทั้งนี้เพื่อประกอบในทางเกษตรศาสตร์จะทำการค้นคว้าและศึกษาจำแนกชะนิดแมลง และเผยแผ่ความรู้นั้น ๆ ทั่ว
การพลังงาน สิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ


การบริหารราชการ

ราชการส่วนต่างๆ จะดำเนินไปได้สะดวก ก็ย่อมแล้วแต่สมรรถภาพของข้าราชการ รัฐบาลนี้จึ่งจะปรับปรุงระเบียบข้าราชการพลเรือนเพื่อให้โอกาสแก่ผู้มีความรู้และความสามารถจริง ๆ และให้ความมั่นคงแก่ข้าราชการประจำนั้น ๆเพื่อให้ราษฎรได้รับการปกครองในทางที่เป็นธรรม รัฐบาลนี้จะได้วางบทวิเคราะห์คดีปกครองและวางวิธีพิจารณาคดีปกครองความมุ่งหมายอันยิ่งใหญ่ของรัฐบาลนี้ก็คือ จะบำรุงฐานะของราษฎรให้เป็นพลเมืองดีตามวิถีรัฐธรรมนูญ ซึ่งสำนักงานโฆษณาการจะได้ดำเนินการเผยแพร่อบรมต่อไปด้วยความช่วยเหลือของท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รัฐบาลนี้หวังว่าประชาชนชาวไทยจะเจริญก้าวหน้าด้วยความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และรัฐธรรมนูญสืบไปการปรับปรุงกฎหมาย





การยุติธรรม,ศาล,ตุลาการ

ฝ่ายอำนาจตุลาการนั้นรัฐบาลนี้จะได้จัดให้เป็นอิสสระสมดั่งความจำนงในรัฐธรรมนูญโดยจัดตั้งคณะกรรมการตุลาการเพื่อช่วยเหลือกิจการทางศาลในอันจะให้ความอิสสระแก่ผู้พิพากษาตามรัฐธรรมนูญ โดยจัดฐานะตุลาการให้มั่นคงตามความต้องการโดยจัดแยกตำแหน่งหน้าที่ตุลาการให้ขาดจากการเมือง กับจะได้ตั้งกรรมการประมวลข้อบังคับและระเบียบศาลให้เรียบร้อยเป็นแบบเดียวกันทั่วราชอาณาจักรการเกษตร

ราชการส่วนเกษตร

2 1. กรมเกษตร
จะส่งพนักงานออกสำรวจพันธุ์รุกขชาติทุกปี เพื่อทราบว่ามีพันธ์ไม้ชะนิดใดที่จะศึกษาร่วมมือกับกรมวิทยาศาสตร์ เพื่อประกอบเป็นสินค้าเป็นประโยชน์ต่อไปจะแจกพันธ์ข้าวอย่างดีปีละอย่างน้อย 2,000 ถัง เพื่อเป็นพันธ์สำหรับปลูกได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 1,300 ไร่ และเพื่อเปรียบเทียบกับข้าวท้องถิ่น แก่พืชพันธ์โดยทดลองตามหลักวิทยาศาสตร์ แล้วนำผลแห่งการทดลองไปใช้เพื่อประโยชน์แก่ชาวสวนชาวนาจะทำการปราบโรครินเดอร์เพสต์ในภาคกลางและภาคอิสาณ และฉีดวัคซินป้องกันโรคบาร์โบน ทำเซรุมและวัคซินสำหรับโค กระบือตลอดถึงสุกรและไก่ และจะตั้งด่านตรวจโรคสัตว์ที่ช่องตะโก หมวกเหล็ก ช่องจงโก และช่องระหว่างเลยกับเพ็ชร์บูรณ์จะทำการผสมโค อย่างคัดเลือกโดยวิธีเพาะตามแนวพันธ์(Line Breeding)และจะทดลองเลี้ยงโคฝูงที่อำเภอไชยบาดาล ซึ่งเป็นที่ที่คาดว่าจะมีอาหารสำหรับโคตลอดปีจะตั้งสถานีทดลองเพาะปลูกเพิ่มขึ้นที่หาดใหญ่และที่ควนเนียงในปีพ.ศ. 2477ที่พิษณุโลกในปี พ.ศ. 2478 ที่ปราจีนและราชบุรีใน พ.ศ. 2479 และ 2480จะลงมือสำรวจที่ดินว่างเปล่าว่าที่ใดเหมาะแก่การเพาะปลูกอย่างใด2. กรมชลประทานสกีมก่อสร้างนครนายก จะจัดทำต่องานที่ค้างมา งดงานฝั่งซ้ายตอนใต้ไว้ก่อนใน 2 ปีแรก จะเริ่มจ่ายน้ำในคลองฝั่งขวา งานฝั่งนี้จะเสร็จบริบูร นี้งานชลประทานที่คลองเมืองจะเสร็จเป็นส่วนมาก และจะแล้วเสร็จบริบูรณ์ในปีที่ 4 เนื้อที่ที่จะได้ประโยชน์จากงานคลองฝั่งขวาประมาณ366,812ไร่ จากงานคลองเมืองประมาณ52,688 ไร่ รวม 419,900 ไร่3 สกีมก่อสร้างสุพรรณ ตามสกีม-สุพรรณน้อย กำหนดให้มีประตูระบายใหญ่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยาเรียกว่าประตูระบายที่ 1 ขุดคลองมะขามเฒ่าตอนต้น กั้นเขื่อนเป็นประตูระบายที่2ใต้อำเภอเดิมบางตรงคลองกระเสียว ทำเขื่อนประตูระบายที่ 3 ณ วัดพร้าวเหนือสุพรรณ ทำคันกั้นน้ำท่วมฝั่งแม่น้ำสุพรรณในอำเภอสองพี่น้องและบางปลาม้า ได้เริ่มงานประตูที่ 3 เมื่อปี 2465 และใช้การได้เมื่อปี 2470 แล้วจึงลงมือทำประตูระบายที่ 1ต่อมา ซึ่งใช้การได้บ้างใน พ.ศ. นี้ แต่ยังไม่เสร็จบริบูรณ์ทีเดียว ตั้งแต่ปีหน้าจะดำเนินงานที่ค้างนี้ต่อไป และจะให้แล้วเสร็จเต็มตามสกีม สุพรรณนี้ในเวลา 4 ปีข้างหน้าสกีมก่อสร้างพายัพ ซึ่งแบ่งเป็น 3 ตอนสกีมแม่แฝก จะต่องานที่ยังค้างอยู่ให้เสร็จในปี 2477 เมื่อเสร็จ ผลคือ ที่นาที่อยู่ระหว่างเชิงเขากับฝั่งแม่น้ำปิงซีกตะวันออกจะได้น้ำจากคลองส่งน้ำตลอดและน้ำในลำแม่น้ำกวงก็จะมีสำหรับการทำนามากขึ้นกว่าเดิม จะควบคุมได้ 68,000 ไร่ จะบุกเบิกที่ได้ใหม่อีก 20,000 ไร่ ซึ่งจะเป็นนาดีถึง 12,000 ไร่สกีมแม่ปิงเก่าได้สำรวจแล้ว เหมืองของราษฎรอันมีอยู่แล้วใกล้อำเภอหางดงในบริเวณนาอันคาบเกี่ยวระหว่างเชียงใหม่กับลำพูน แต่มีภาระประจำปีด้วยเรื่องทรายไหลมาทับถม จะแก้ได้ก็ด้วยวิธีกั้นฝายถาวรตรงใต้แยกแม่ปิงเก่าและแม่ปิงใหม่ ให้มีประตูระบายทรายทางปากเหมือง และตบแต่งเหมืองจีนเสมียนของเก่าให้ดี ทั้งให้มีประตูระบายทรายบังคับน้ำได้ ตรงทางแยกแม่ปิงเก่าต้องกั้นทำนบเตี้ย ๆ ให้น้ำไหลข้ามได้ในเวลาน้ำมาก เหมืองเก่าของราษฎรที่รับน้ำจากแม่ปิงเก่านี้ 4 สาย ก็จะจัดให้ได้น้ำมากขึ้น งานทั้งหมดนี้จะทำให้แล้วเสร็จได้ในเวลา 2 ปี โดยใช้เงินประมาณ 250,000 บาทสกีมแม่วัง ลำปางเป็นที่ซึ่งทำนาไม่สู้จะได้ผล เดือดร้อนกว่าจังหวัดอื่น ๆ ใน
และขุดคลองส่งน้ำเลียบเนินเขาตามฝั่งซ้ายของแม่วังมาจนใกล้วัดเสด็จ และขุดคลองฝั่งขวาอีกสายหนึ่งจะเป็นประโยชน์แก่นาราว 50,000 ไร่ งานนี้ได้เริ่มสำรวจและลงมือทำการบ้างเล็กน้อยแล้วและจะเสร็จได้ใน 4 ปีข้างหน้านี้4 สกีมก่อสร้างแม่น้ำน้อย สกีมนี้เป็นสกีมใหญ่ทำนองเดียวกับสกีมสุพรรณต้องการทุนมาก จึงเลือกทำที่คลองกระทุ่มโพรงก่อนเพื่อป้องกันมิให้น้ำในลำน้ำเจ้าพระยาไหลลงคลองกระทุ่มโพรงไปท่วมทุ่งนาให้เสียหาย ถ้าทำประตูระบายในคลองนี้เสร็จ ก็จะกันน้ำท่วมได้ แต่ต้องทำประตูน้ำด้วยเพื่อเรือสัญจรสกีมก่อสร้างเพ็ชร์บุรี สกีมนี้จะเป็นประโยชน์แก่นาประมาณ 350,000 ไร่ สิ่งที่กำหนดจะทำคือ กั้นเขื่อนขวางแม่น้ำเพ็ชร์บุรีที่เหนือวัดท่าไข่ ขุดคลองส่งน้ำใหญ่ฝั่งซ้ายและขวา งานใน 4 ปีแรกคือ สร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำและขุดคลองฝั่งซ้าย (บริเวณตะวันตก) ก่อนสกีมก่อสร้างภาคอิสาณ สกีมนี้ยังกำลังสำรวจโดยทั่วไปยังไม่ได้กะการแน่นอน ารต่าง ๆ เมื่อเสร็จการสำรวจแล้วจะได้ลงมือสร้างตามความจำเป็นและความด่วนเป็นแห่ง ๆ ไปตามแต่จะทำได้การสร้างทำนบถาวรตามปากคลองในบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีที่นาเป็นอันมาก อาศัยน้ำในลำคลองที่เชื่อมกับแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งฝ่ายปกครองป่าวร้องราษฎรให้ช่วยทำทำนบชั่วคราวปิดปากคลองแทบทุกปี ถ้าไม่ทำก็ไม่มีน้ำพอหล่อเลี้ยงต้นข้าว ทุกๆปากคลองนี้ควรมีประตูระบายน้ำ แต่จะทำคราวเดียวทั้งหมดก็มากมายเกินไป จะต้องเลือกทำแต่ที่คลองสำคัญ ๆ เพียงปีละ 3 - 4 คลองจัดการลอกคลองและบำรุงคลองเก่ารวม 33 คลอง ในเวลา 7 ปี แต่ในระยะเวลา 4 ปี จะเลือกทำคลองที่สำคัญแก่การเศรษฐกิจ ตามที่จะทำได้3. กรมป่าไม้จะจัดทำให้ป่าที่มีอยู่แล้วสมบูรณ์ขึ้น โดยวิธีปลูกซ่อมตัดฟันโค่นหรือกานไม้และตัดสะสางพันธ์ไม้เลื้อยต่าง ๆ ที่รบกวนจะจัดสร้างป่าใหม่โดยวิธีเพาะและปลูกไม้ขึ้น จะทำสำหรับไม้สักปีหนึ่ง ๆ ไม่น้อยกว่า 3,000 ไร่ ส่วนไม้กระยาเลยก็จะทำบ้างแต่เพียงเล็กน้อย ทั่วไป5 จะวางโครงการการทำป่าไม้ คือ สำรวจชะน ขนาด และวางกำหนดเขตต์ให้ราษฎรตัดฟันเป็นปี ๆ หรือเป็นคราว ๆ ไปจะจัดตั้งโรงเรียนป่าไม้ขึ้นในมณฑลพายัพ เพื่อฝึกหัดบุคคลที่จะเข้ารับราชการในกรมป่าไม้ต่อไปปีละ 5 คน ทั้งจะให้ผู้ที่รับราชการอยู่แล้วได้รับความอบรมจากโรงเรียนนี้ด้วยจะพยายามจัดควบคุมและสงวนพันธุ์สัตว์ป่า4. กรมที่ดินและโลหกิจจะทำการสำรวจและออกโฉนดที่ดินเพิ่มขึ้นทุก ๆ ปีดำเนินการรังวัด ทำแผนที่สำหรับการออกโฉนด ตราจองและประทานบัตร์การรังวัดนี้ปีหนึ่งทำงานได้เพียงประมาณ 100,000 ไร่ จะขยายการให้เดินมากขึ้นโดยวิธีถ่ายรูปทางอากาศ การเขียนจำลองและทำแผนที่นั้น ก็จะทำให้ละเอียดยิ่งขึ้นการโลหกิจ จะสำรวจพื้นที่ดินในทางธรณีวิทยา เพื่อสืบแสวงหาโภคทรัพย์ของแผ่นดิน6 5. กรมการประมง

จะบำรุงรักษาบึงบรเพ็ดไว้เป็นที่เพาะและขยายพันธ์ปลา และจะทำบ่อเพาะพันธ์ปลาบางชะนิด เช่น ปลาสลิดและปลาแรดจะทำการสำรวจบึงหนองต่าง ๆ ในอยุธยาและพิษณุโลกจะทำการสำรวจเพื่อกักน้ำในหนองหาร สกลนคร กว๊านพะเยาว์ เชียงรายและบึงสีไฟ พิจิตร์ เพื่อเพาะและขยายพันธ์ปลา เช่นเดียวกับที่บึงบรเพ็ดจะร่วมมือกับกรมอุทกศาสตร์สำรวจพืชพันธ์ในทะเลจะรวบรวมพิมพ์เรื่องพันธ์ปลาในประเทศสยามจะพยายามสร้างอาควาเรียมในปีที่ 47 ราชการส่วนรวม


กรมสหกรณ์
8 จะเปิดสหกรณ์ประเภทเครดิตในปี 2477 อีก 180 สมาคม ในปี 2478 อีก240สมาคม ในปี 2479 อีก 300 สมาคม และในปี 2480 อีก 640 สมาคม รวมใน4 ปีข้างหน้าจะเปิด 1,360 สมาคม คือ รวมกับที่เปิดในปีนี้ 130 สมาคม และที่มีอยู่แล้วจะเป็นจำนวนทั้งสิ้น 1,681 สมาคมจะเริ่มการตั้งเครดิตสถานกลางสำหรับการกสิกรรมจะจัดตั้งสหกรณ์ผู้เช่า ตามโครงการณ์ที่จะได้รับอนุมัติของรัฐบาล

ส่วนการศึกษานั้น มีแผนการศึกษาและมีนโยบายวางไว้เป็นบรรทัดฐานดีแล้วรัฐบาลนี้จะได้หาวิถีทางที่ดีซึ่งจะนำไปให้ถึงจุดที่หมาย ให้พลเมืองรู้จักระบอบการปกครองตามแบบประชาธิปไตยให้ได้มีความเป็นอยู่เหมาะสมแก่สมัยรัฐธรรมนูญ รัฐบาลนี้จะได้ดำเนินการตามแนวความคิดนี้ให้ได้ผลอันไพบูลย์ยิ่งขึ้นเป็นลำดับในการที่จะฝึกฝนให้ประชาชนเป็นพลเมืองดีนั้นจะต้องฝึกฝนทั้งทางกาย จรรยา และใจ รวมกันไป และให้ผู้ที่ได้รับการศึกษาแล้วได้ดำเนินการอาชีพปฏิบัติหน้าที่พลเมืองตามรัฐธรรมนูญได้ดีรัฐบาลนี้จะได้บำรุงการศึกษาทางอาชีพและการหาวิชาความรู้ตามความต้องการแห่งรัฐธรรมนูญ เป็นต้นว่าขยายประถมศึกษาให้แพร่หลาย และเขยิบการศึกษาวิชาการรัฐธรรมนูญ ยึดถือการปฏิบัติฝึกหัดงานให้สำคัญยิ่งขึ้นกว่าที่แล้วมาโดยฉะเพาะอย่างยิ่งให้ผู้ที่ผ่านพ้นการศึกษาในโรงเรียนไปแล้วได้มีโอกาสฝึกฝนตนเองได้ไม่ละทิ้งเสีย และให้ทุกคนมีโอกาสหาความรู้ได้อย่างเต็มที่ที่จะจัดได้ตามระบอบประชาธิปตัย รัฐบาลนี้จะบำรุงพลศึกษาให้เป็นการศึกษา ในเรื่องธรรมการกับการศึกษานั้น รัฐบาลนี้เห็นว่า ควรจะเป็นอุปการะแก่กันและกัน จึ่งจะได้บำรุงส่งเสริมและจัดการให้ได้ประสานงานกันอย่างสนิทสนมดียิ่งขึ้น อนึ่งในทางศิลปของชาติ รัฐบาลนี้จะไม่ละเลย แต่หากจะบำรุงเท่าที่จะทำได้ ส่วนวิธีให้การศึกษาโดยทั่วไปที่จะให้ได้ประโยชน์สมหวังดั่งว่ามานั้น รัฐบาลนี้จะจัดการปรับปรุงหลักสูตรและสรรพตำรากับทั้งบำรุงฐานะและคุณสมบัติของครูและอาจารย์ ให้สมกับที่วิชาครูเป็นวิชาชีพและที่ครูจะเป็นผู้อบรมสั่งสอนกุลบุตรกุลธิดาสืบไปการสาธารณสุข


การแรงงาน


งานเร่งด่วน


การฟื้นฟูบูรณะกรุงเทพมหานคร


วันที่ 16 ธันวาคม 2476 ถึง 13 กันยายน 2477



คณะรัฐมนตรี คณะที่ 5


ตั้งแต่
2 โดยที่สภาผู้แทนราษฎรชุดที่ให้ความไว้วางใจแก่คณะรัฐมนตรี ซึ่งมีพระยาพหลพลพยุหเสนา เป็นนายกรัฐมนตรี ได้สิ้นสุดลงและนายกรัฐมนตรีในนามของคณะรัฐมนตรีได้กราบถวายบังคมลาออกจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 51 ในวันที่ 16 ธันวาคม2476 ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ตั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ดังมีรายนามต่อไปนี้
1. นายพันเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา เป็นนายกรัฐมนตรี
2. นายพลตรี พระยาประเสริฐสงคราม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
3. เจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
4. พระยาอภิบาลราชไมตรี เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
5. นายพันเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมการ
6. พระสารสาสน์ประพันธ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงธรรมการ
7. นายพันเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
8. พระยานิติศาสตร์ไพศาลย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

9. เจ้าพระยาวรพงศ์พิพัฒน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัง10. พระยาโกมารกุลมนตรี เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการ11. พระยาดุลยธารณปรีชาไวท์ เป็นรัฐมนตรี12. นายเรือเอก หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ เป็นรัฐมนตรี13. หลวงนฤเบศร์มานิต เป็นรัฐมนตรี14. นายพันโท หลวงพิบูลสงคราม เป็นรัฐมนตรี15. พระยามานวราชเสวี เป็นรัฐมนตรี16. นายนาวาโท หลวงศุภชลาศัย เป็นรัฐมนตรี17. พระยาสมันตรัฐบุรินทร์ เป็นรัฐมนตรี18. นายพันเอก พระสิทธิเรืองเดชพล เป็นรัฐมนตรี19. นายนาวาโท หลวงสินธุสงครามชัย เป็นรัฐมนตรี20. พระยาสุริยานุวัตร เป็นรัฐมนตรี3 ครั้นวันที่ 29 มีนาคม 2477 นายพลตรี พระยาประเสริฐสงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กับพระยาโกมารกุลมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการได้ขอลาออกจากตำแหน่ง จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ตั้งให้
1. นายพันเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
2. หลวงประดิษฐ์มนูธรรม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
3. พระสารสาสน์ประพันธ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมการ
4. พระสารสาสน์พลขันธ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการ



การคมนาคม ขนส่ง,สื่อสาร

ราชการส่วนคมนาคม

2 1. กรมรถไฟ
จะขยายและแก้ไขบริเวณสถานีกรุงเทพฯ ให้สะดวกและเพื่อเป็นความปลอดภัยยิ่งขึ้นแก่การเดินรถเข้าออกสำหรับทั้งสินค้าและคนโดยสาร การขยายและแก้ไขนี้จะเสร็จบริบูรณ์ในปี 2479จะสร้างสถานีใหม่ที่บริเวณสถานีสับเปลี่ยนบางซื่อและตั้งเครื่องประกอบ เช่นหอคอยไฟฉาย เป็นต้น งานนี้จะเสร็จในปี 2478การวางทางคู่ จะทำต่อจากคลองรังสิตถึงบ้านพาชีแต่จะแล้วเสร็จตลอดได้ในปี 2481 ในระยะเวลา 4 ปี จะเปิดใช้การสำหรับทางคู่ได้เพียงบางปะอินการสร้างทาง ขอนแก่นถึงหนองคาย เป็นงานดินตลอดไปในปี 2480 คือ ปีที่4 ข้างหน้าจะเสร็จเพียงการวางรางแต่ ก.ม. ที่ 541 ถึง 571 การทำสะพาน แต่ ก.ม.474 ถึง ก.ม. 541 การโรยหินแต่ ก.ม. 496 ถึง ก.ม. 541 การสร้างสถานีและที่ ในปี 2481 ถึงอุดรในปี 2482 และถึงหนองคายในปี 24842. กรมไปรษณีย์โทรเลขจะเปลี่ยนเครื่องโทรศัพท์ในเขตต์กรุงเทพฯเป็นชะนิดต่อเองจะขยายการวิทยุให้ได้ยินทั้งประเทศทั้งกลางวันและกลางคืนเดี๋ยวนี้ได้ยินในเวลากลางวันเพียง250 ก.ม.จะเปิดคลังออมสินเติมอีก 100 แห่ง ในระยะเวลา 4 ปีข้างหน้านี้3. กรมการขนส่งฝ่ายทางอากาศ จะสร้างถนนโรงเก็บและโฮเต็ลที่พิษณุโลก และถ้าจำเป็นก็จะสร้างที่อื่นด้วยกับจะทำการตบแต่งสนามบินที่ระแหงนครสวรรค์ หัวหิน ชุมพร สงขลาแม่สอด บ้านผือนาบัว ดงพระราม อรัญญประเทศ และศรีราชาฝ่ายทางบกและทางน้ำนั้นได้ตั้งกรรมการขึ้นคณะหนึ่งให้วางโครงการประสานการคมนาคม เมื่อรัฐบาลเห็นชอบในโครงการนั้นแล้ว จะได้ให้ดำเนินการตัดถนนและขุดคลองใหม่จะจัดการขนส่งสินค้าข้าวประกอบกับการตั้งฉาง
จะจัดการควบคุมการนำร่องคือ ให้เรือเข้าออกในท่ากรุงเทพฯ ต้องมีนำร่องของรัฐบาลจะจัดการเรื่องทะเบียนเรือยนต์เรือกลไฟและเรือเล็กซึ่งเวลานี้ยังบกพร่องอยู่มากเสียใหม่โดยทั่วไป