พระราชบัญญัติ คุ้มครองการดำเนินงานขององค์การห้ามอาวุธเคมี พ.ศ. 2545 |
ภูมิพลอดุยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2545 เป็นปีที่ 57 ในรัชกาลปัจจุบัน |
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรให้มีกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองการดำเนินงานขององค์การห้ามอาวุธเคมี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานขององค์การ ห้ามอาวุธเคมี พ.ศ. 2545 "
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
มาตรา 3 ในพระราชบัญญัตินี้ " อนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี" หมายความว่า อนุสัญญาว่าด้วยการห้ามพัฒนา ผลิต สะสม และใช้อาวุธเคมี และว่าด้วยการทำลายอาวุธเหล่านี้ ซึ่งทำขึ้นเมื่อวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2536 "องค์การ" หมายความว่า องค์การห้ามอาวุธเคมีที่จัดตั้งขึ้นตามอนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี
มาตรา 4 เพื่อคุ้มครองการดำเนินงานในประเทศไทยขององค์การให้บรรลุตามความมุ่งประสงค์ ( 1 ) ให้ยอมรับนับถือว่าองค์การเป็นนิติบุคคล และให้ถือว่ามีภูมิลำเนาในประเทศไทย ( 2 ) ให้องค์การ ผู้แทนของรัฐภาคีรวมทั้งผู้แทนสำรองและที่ปรึกษา ผู้แทนที่ได้รับการแต่งตั้ง ในคณะมนตรีบริหารรวมทั้งผู้แทนสำรองและที่ปรึกษา ผู้อำนวยการใหญ่ พนักงานขององค์การ พนักงาน งานของสำนักงานเลขาธิการฝ่ายวิชาการ ผู้ตรวจ ผู้ช่วยการตรวจ สมาชิกของคณะผู้ตรวจและผู้สังเกตการณ์ รวมตลอดถึงที่พักอาศัยและสถานที่ของสำนักงานที่ครอบครองโดยคณะผู้ตรวจที่ดำเนินการตรวจตาม อนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี กระดาษเอกสารและหนังสือโต้ตอบรวมทั้งบันทึกของคณะผู้ตรวจ สารตัวอย่าง และเครื่องมือที่ได้รับการรับรองที่สมาชิกของคณะผู้ตรวจนำมาตามที่ระบุไว้ในอนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี ได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มกันตามที่กำหนดไว้ในอนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี ทั้งนี้ ในระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่ ในประเทศไทยหรือเข้ามาในประเทศไทยเพื่อปฏิบัติหน้าที่หรือในการปฏิบัติภารกิจเกี่ยวกับองค์การ
มาตรา 5 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ ผู้สนองพระบรมราชโองการ พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี |
หมายเหตุ เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ประเทศไทยได้ลงนามในอนุสัญญาว่าด้วย การห้ามพัฒนา ผลิต สะสม และใช้อาวุธเคมี และว่าด้วยการทำลายอาวุธเหล่านี้ ที่ทำขึ้นเมื่อวันที่ 13 มกราคม พ.ศ.2536 ซึ่งอนุสัญญาดังกล่าวกำหนดให้องค์การห้ามอาวุธเคมีเป็นผู้ดำเนินงานและปฏิบัติภารกิจอันเป็นหน้าที่ ขององค์การให้เป็นไปตามอนุสัญญา และกำหนดพันธกรณีให้รัฐภาคีต้องกำหนดดมาตรการที่จำเป็นเพื่อให้เอกสิทธิ์ และความคุ้มกันแก่องค์การ เจ้าหน้าที่ขององค์การ ผู้สังเกตการณ์ เอกสาร สถานที่ รวมทั้งสารตัวอย่าง อุปกรณ์ และเครื่องใช้ที่จำเป็นต่อการปฎิบัติหน้าที่ในการดำเนินงานและการปฎิบัติงานขององค์การในประเทศไทย ดังนั้น เพื่อที่ ประเทศไทยจะเข้าเป็นภาคีของอนุสัญญาดังกล่าว จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 119 ตอนที่ 95 ก หน้า 1-3 วันที่ 27 กันยายน 2545 |