พระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย พ.ศ. 2544 พ.ศ. 2544 |
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ 22 กันยายน พ.ศ.2544 เป็นปีที่ 56 ในรัชกาลปัจจุบัน |
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งตามมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 48 มาตรา 50 และมาตรา 87 ของรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา ดังต่อไปนี้ มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า ?พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดบรรษัทบริหาร สินทรัพย์ไทย พ.ศ. 2544 พ.ศ. 2544 ? มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป มาตรา 3 ให้ยกเลิกความในวรรคสามของมาตรา 45 แห่งพระราชกำหนดบรรษัทบริหาร สินทรัพย์ไทย พ.ศ. 2544 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน ?การประเมินมูลค่าทรัพย์สินที่เป็นหลักประกัน ในกรณีสถาบันการเงินเป็นผู้โอน ให้เป็นไป ตามหลักเกณฑ์การประเมินมูลค่าหลักประกันที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด และในกรณีบริษัท บริหารสินทรัพย์เป็นผู้โอน ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำหนด? ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี |
( รจ. เล่ม 118 ตอนที่ 84ก หน้า 1 25 กันยายน 2544 ) หมายเหตุ : เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากบทบัญญัติของพระราชกำหนดบรรษัท บริหารสินทรัพย์ไทย พ.ศ. 2544 ในเรื่องการประเมินมูลค่าหลักประกันของสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่บรรษัทบริหาร สินทรัพย์ไทยจะรับโอน ในกรณีของที่ดินให้ใช้ราคาประเมินทุนทรัพย์ของกรมที่ดิน ซึ่งมิได้มีราคาประเมินตามหลัก ราคาตลาดเป็นรายแปลงของที่ดินทุกแปลง การจะขอให้กรมที่ดินประเมินราคาที่ดินตามหลักการดังกล่าวของแต่ละแปลง ต้องใช้เวลามาก ทำให้เกิดความล่าช้าในการรับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ อันเป็นเหตุให้การแก้ไขปัญหาสินทรัพย์ ด้อยคุณภาพในระบบสถาบันการเงินต้องเนิ่นช้าออกไป และจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ และโดยที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์การประเมินมูลค่าหลักประกันไว้ให้สถาบันการเงิน ถือปฏิบัติอยู่แล้ว จึงสมควรให้หลักเกณฑ์การประเมินมูลค่าหลักประกันของธนาคารแห่งประเทศไทยมาใช้บังคับแทน จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ |