พระราชบัญญัติ
สถาบันพระปกเกล้า (ฉบับที่ 2)
พ.ศ. 2543
   ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543
เป็นปีที่ 55 ในรัชกาลปัจจุบัน
   พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้
ประกาศว่า
        โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยสถาบันพระปกเกล้า
        พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่ง
มาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัย
อำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
        จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา
ดังต่อไปนี้
        มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า ?พระราชบัญญัติสถาบันพระปกเกล้า (ฉบับที่ 2)
พ.ศ. 2543 ?
        มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เป็นต้นไป
        มาตรา 3 ให้ยกเลิกความในมาตรา (2) ของมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติสถาบันพระปกเกล้า
พ.ศ. 2541 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
        ?(2) ให้ประกาศนียบัตร ประกาศนียบัตรชั้นสูง ประกาศนียบัตรกิตติมศักดิ์ ประกาศนียบัตร
ชั้นสูงกิตติมศักดิ์ สัมฤทธิบัตร และวุฒิบัตร ได้ดังนี้
                (ก) ประกาศนียบัตร ออกให้แก่ผู้สำเร็จการศึกษาอบรมกลุ่มวิชาใดกลุ่มวิชาหนึ่ง
                (ข) ประกาศนียบัตรชั้นสูง ออกให้แก่ผู้สำเร็จการศึกษาอบรมกลุ่มวิชาใดกลุ่มวิชาหนึ่ง
ที่ได้รับปริญญาชั้นใดชั้นหนึ่งหรือเทียบเท่าแล้ว
                (ค) ประกาศนียบัตรกิตติมศักดิ์ และประกาศนียบัตรชั้นสูงกิตติมศักดิ์ ออกให้แก่
ผู้ทรงคุณวุฒิ และคุณธรรมอันควรแก่การยกย่อง

                (ง) สัมฤทธิบัตร ออกให้แก่ผู้ผ่านการอบรมและการทดสอบเฉพาะวิชา
                (จ) วุฒิบัตร ออกให้แก่ผู้ผ่านการอบรมเฉพาะเรื่อง
        ทั้งนี้ ตามข้อบังคับของสถาบัน?
        มาตรา 4 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (3 ทวิ) ของมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติสถาบัน
พระปกเกล้า พ.ศ. 2541
        ?(3 ทวิ) รับสถานศึกษาหรือหน่วยงานอื่นเข้าสมทบในสถาบัน  และให้ประกาศนียบัตร
ประกาศนียบัตรชั้นสูง สัมฤทธิบัตร และวุฒิบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษาอบรมจากสถานศึกษาหรือ
หน่วยงานอื่นนั้นได้ ทั้งนี้  ตามข้อบังคับของสถาบัน?
        มาตรา 5 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคสองของมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติสถาบัน
พระปกเกล้า พ.ศ. 2541
        ?ข้อบังคับตามวรรคหนึ่งเมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้บังคับได้?
        มาตรา 6 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 8 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติสถาบันพระปกเกล้า
พ.ศ. 2541
        ?มาตรา 8 ทวิ ในกรณีที่ตำแหน่งตามมาตรา 8 ว่างลงไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ และยังมิได้มีผู้ดำรง
ตำแหน่งดังกล่าวแทนตำแหน่งที่ว่าง ให้สภาสถาบันพระปกเกล้า ประกอบด้วยผู้ดำรงตำแหน่งตาม
มาตรา 8 ที่เหลืออยู่ ในกรณีที่ตำแหน่งที่ว่างเป็นตำแหน่งตามมาตรา 8 (1) ให้รองประธานสภา
สถาบันทำหน้าที่เป็นประธานสภาสถาบัน?
        มาตรา 7 ให้ยกเลิกความใน (7) ของมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติสถาบันพระปกเกล้า
พ.ศ. 2541 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
        ?(7) อนุมัติให้ประกาศนียบัตร ประกาศนียบัตรชั้นสูง ประกาศนียบัตรกิตติมศักดิ์ ประกาศนียบัตร
ชั้นสูงกิตติมศักดิ์ สัมฤทธิบัตร และวุฒิบัตรของสถาบัน?

        มาตรา 8 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (8 ทวิ) ของมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติสถาบัน
พระปกเกล้า พ.ศ. 2541
        ?(8 ทวิ) ออกข้อบังคับว่าด้วยเครื่องแบบ  เครื่องแต่งกายของประธาน รองประธาน กรรมการ
สภาสถาบัน  รวมทั้งบุคลากร และผู้ศึกษาอบรม เข็มวิทยฐานะ ตรา เครื่องหมาย หรือสัญลักษณ์ของ
สถาบัน
        ข้อบังคับดังกล่าว ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา?
        มาตรา 9 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นหมวด 5 ทวิ บทกำหนดโทษ และมาตรา 28 ทวิ
และมาตรา 28 ตรี แห่งพระราชบัญญัติสถาบันพระปกเกล้า พ.ศ. 2541
?หมวด 5 ทวิ
บทกำหนดโทษ
        มาตรา 28 ทวิ ผู้ใดใช้เครื่องแบบ เครื่องแต่งกาย เข็มวิทยฐานะ ตรา เครื่องหมาย หรือ
สัญลักษณ์ของสถาบัน หรือสิ่งอื่นใดที่เลียนแบบสิ่งดังกล่าว โดยไม่มีสิทธิที่จะใช้หรือแสดงด้วยประการใด ๆ
ว่าตนมีประกาศนียบัตร ประกาศนียบัตรชั้นสูง ประกาศนียบัตรกิตติมศักดิ์ ประกาศนียบัตรชั้นสูง
กิตติมศักดิ์ สัมฤทธิบัตร หรือวุฒิบัตร หรือมีตำแหน่งใดในสถาบันโดยที่ตนไม่มีสิทธิ ถ้าได้กระทำ
เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิที่จะใช้ หรือมีวิทยฐานะ หรือตำแหน่งดังกล่าว ต้องระวางโทษจำคุก
ไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
        มาตรา 28 ตรี ผู้ใด
        (1) ปลอมหรือทำเลียนแบบซึ่งเครื่องแบบ เครื่องแต่งกาย เข็มวิทยฐานะ ตรา เครื่องหมาย
หรือสัญลักษณ์ของสถาบัน ไม่ว่าจะกระทำเป็นสีใด หรือทำด้วยวิธีใด ๆ
        (2) ใช้สิ่งที่ปลอมหรือทำเลียนแบบตาม (1)

        ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
        ถ้าผู้กระทำผิดตาม (1) เป็นผู้กระทำผิดตาม (2) ด้วย ให้ลงโทษกระทงเดียว?
        มาตรา 10 บรรดาประกาศนียบัตร ประกาศนียบัตรชั้นสูง ประกาศนียบัตรกิตติมศักดิ์ ประกาศ
นียบัตรชั้นสูงกิตติมศักดิ์ สัมฤทธิบัตร และวุฒิบัตร รวมทั้งเครื่องแบบ เครื่องแต่งกาย เข็มวิทยฐานะ
ตรา เครื่องหมาย หรือสัญลักษณ์ที่ได้มอบ ใช้ หรือทำขึ้นเพื่อใช้ตามวัตถุประสงค์ของสถาบันก่อนวันที่
พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 28 ทวิ และมาตรา 28 ตรี ของหมวด
5 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติสถาบันพระปกเกล้า พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ด้วย
        มาตรา 11 ให้ประธานรัฐสภารักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
        ชวน หลีกภัย
        นายกรัฐมนตรี
   (รจ. เล่ม 117 ตอนที่ 111 ก หน้า 10   29 พฤศจิกายน 2543)
หมายเหตุ:-  เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่กฎหมายว่าด้วยสถาบันพระปกเกล้าในปัจจุบัน
ยังไม่มีบทบัญญัติกำหนดให้สภาสถาบันพระปกเกล้าดำเนินงานต่อไปได้ในกรณีสภาผู้แทนราษฎรสิ้นอายุหรือถูกยุบ
หรือมีเหตุอื่นที่ทำให้องค์ประกอบของสภาสถาบันไม่ครบถ้วนตามกฎหมาย ประกอบกับอำนาจหน้าที่ของสถาบัน
พระปกเกล้าซึ่งเป็นสถาบันวิชาการในกำกับรัฐสภายังไม่อยู่ในมาตรฐานเดียวกันกับสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและเอกชน
โดยทั่วไป จึงมึความจำเป็นที่จะต้องแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยสถาบันพระปกเกล้า ให้สภาสถาบันพระปกเกล้า
ดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของสถาบันพระปกเกล้าให้อยู่ในมาตรฐานเดียวกับสถาบัน
อุดมศึกษาของรัฐและเอกชนโดยทั่วไป จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้