พระราชบัญญัติ
เงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง (ฉบับที่ 2)
พ.ศ. 2543
   ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2543
เป็นปีที่ 55 ในรัชกาลปัจจุบัน
   พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้
ประกาศว่า
        โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง
        จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา
ดังต่อไปนี้
        มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า ?พระราชบัญญัติเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง (ฉบับที่ 2)
พ.ศ. 2543?
        มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เป็นต้นไป
        มาตรา 3 ให้ยกเลิกความในมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง
พ.ศ. 2538 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
        ?มาตรา 3 ในพระราชบัญญัตินี้
        ?ข้าราชการ? หมายความว่า ข้าราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการประเภทต่าง ๆ
เว้นแต่ข้าราชการตุลาการและดะโต๊ะยุติธรรมตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม
        ?คณะกรรมการบริหารงานบุคคล? หมายความว่า คณะกรรมการข้าราชการตามกฎหมายว่าด้วย
ระเบียบข้าราชการประเภทต่าง ๆ เว้นแต่คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบ
ข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม?
        มาตรา 4 ให้ยกเลิกความในมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง
พ.ศ. 2538 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
        ?มาตรา 5 ให้มีคณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติคณะหนึ่ง เรียกโดยย่อว่า ?กงช.?
ประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธาน ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงการคลัง
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ปลัดกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ
เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เลขาธิการสถิติแห่งชาติ ผู้ว่าการธนาคาร
แห่งประเทศไทย ผู้แทนคณะกรรมการข้าราชการทหาร ผู้แทนคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ผู้แทน
คณะกรรมการข้าราชการครู ผู้แทนคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย ผู้แทนคณะกรรมการ
ข้าราชการฝ่ายรัฐสภา และผู้แทนคณะกรรมการอัยการ คณะละหนึ่งคน และบุคคลซึ่งนายกรัฐมนตรี
แต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ทางการบริหารในภาครัฐหรือภาคเอกชน และมีความรู้ ความสามารถ
และประสบการณ์ด้านระบบเศรษฐกิจ เงินเดือนและค่าจ้าง จำนวนห้าคน เป็นกรรมการ

        ให้เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนเป็นกรรมการและเลขานุการและอธิบดีกรมบัญชีกลาง
เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ?
        มาตรา 5 ให้ยกเลิกความในมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง
พ.ศ. 2538 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
        ?มาตรา 11? อัตราเงินเดือนข้าราชการพลเรือน ข้าราชการทหาร ทหารกองประจำการ นักเรียน
ในสังกัดกระทรวงกลาโหม ข้าราชการตำรวจ ข้าราชการอัยการ ข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง และ
อัตราตำแหน่งและเงินเดือนข้าราชการการเมืองให้เป็นไปตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้?
        มาตรา 6 ให้ยกเลิกความในมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติเงินเดือนและ
เงินประจำตำแหน่ง พ.ศ. 2538 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
        ?มาตรา 12 อัตราเงินประจำตำแหน่งและการรับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการพลเรือน
ข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย ข้าราชการครู ผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารซึ่งไม่เป็นข้าราชการพลเรือน
ในมหาวิทยาลัยหรือข้าราชการครูในสถาบันการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ข้าราชการทหาร
ข้าราชการตำรวจ ข้าราชการอัยการ ข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมืองและข้าราชการการเมือง ให้เป็นไป
ตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้?
        มาตรา 7 ให้ยกเลิกบัญชีอัตราเงินเดือนข้าราชการตุลาการ บัญชีอัตราเงินเดือนประจำตำแหน่ง
ข้าราชการตุลาการ บัญชีอัตราเงินเดือนดะโต๊ะยุติธรรม และบัญชีอัตราเงินประจำตำแหน่งดะโต๊ะยุติธรรม
ท้ายพระราชบัญญัติเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง พ.ศ. 2538
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
            ชวน  หลีกภัย
            นายกรัฐมนตรี
   (รจ.เล่ม 117 ตอนที่ 44 ก หน้า 46     18 พฤษภาคม 2543)
หมายเหตุ  : -  เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา 253 ของรัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย บัญญัติว่า เงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอื่นของผู้พิพากษาและตุลาการ
ให้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ ทั้งนี้ จะนำระบบบัญชีเงินเดือนหรือเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการพลเรือน
มาใช้บังคับมิได้ ประกอบกับปัจจุบันก็ได้มีการตรากฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม
กำหนดเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการตุลาการขึ้นใช้บังคับแล้ว อีกทั้งได้มีการตรากฎหมายว่าด้วย
ระเบียบบริหารราชการศาลยุติธรรมเพื่อให้เป็นไปตาม 275 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่บัญญัติ
ให้ศาลยุติธรรมมีหน่วยธุรการของศาลยุติธรรมที่เป็นอิสระ ซึ่งได้มีการกำหนดเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งของ
ข้าราชการศาลยุติธรรมซึ่งเป็นข้าราชการในสำนักงานศาลยุติธรรมไว้แล้ว ดังนั้น เพื่อเป็นการรองรับบทบัญญัติของ
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและกฎหมายที่ได้ตราขึ้นตามมาตรา 275 ดังกล่าว สมควรแก้ไขเพิ่มเติม
กฎหมายว่าด้วยเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งเพื่อให้สอดคล้องกัน จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัติฉบับนี้