พระราชบัญญัติ
จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ 6)
พ.ศ. 2543
   ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543
เป็นปีที่ 55 ในรัชกาลปัจจุบัน
   พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ  ให้
ประกาศว่า
        โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม
        จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ  ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา
ดังต่อไปนี้
        มาตรา 1  พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า  ?พระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม
(ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2543?
        มาตรา 2  พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เป็นต้นไป
        มาตรา 3  ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของมาตรา 4  แห่งพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการ
กระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2503  ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวง
กลาโหม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2519  และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
        ?มาตรา 4  กระทรวงกลาโหมมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการป้องกันและรักษาความมั่นคง
ของราชอาณาจักรจากภัยคุกคามทั้งภายนอกและภายในประเทศ  โดยจัดให้มีกำลังทหารไว้เพื่อการรบ
หรือการสงคราม เพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์  เพื่อการปราบปรามการกบฎและการจลาจล
เพื่อช่วยการพัฒนาประเทศ และเพื่อรักษาประโยชน์ของชาติในประการอื่นตามที่กฎหมายกำหนด
ตลอดจนดำเนินกิจการอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการป้องกันประเทศและพลังงานทหาร  เพื่อประโยชน์
ในการป้องกันและรักษาความมั่นคงของราชอาณาจักรและรักษาประโยชน์ของชาติด้วย?
        มาตรา 4  ให้ยกเลิกความในวรรคห้าของมาตรา 6  แห่งพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการ
กระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2503  ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวง
กลาโหม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2528  และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

        ?อำนาจในการสั่ง การอนุญาต การอนุมัติ การปฏิบัติราชการ หรือการปฏิบัติหน้าที่ที่รัฐมนตรี
ว่าการกระทรวงกลาโหมพึงปฏิบัติหรือดำเนินการตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่งใด ๆ
หรือมติของสภากลาโหม หรือมติของคณะรัฐมนตรีในเรื่องใด  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
จะมอบอำนาจโดยทำเป็นหนังสือให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงกลาโหม
สมุหราชองครักษ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ หรือผู้บัญชาการ
ทหารอากาศ ทำการแทนในนามของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก็ได้?
        มาตรา 5  ให้ยกเลิกความในมาตรา 19  แห่งพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวง
กลาโหม พ.ศ. 2503  ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม
(ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2503 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
        ?มาตรา 19  ให้มี ?สภากลาโหม?  ประกอบด้วยสมาชิก  ดังต่อไปนี้
        (1) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
        (2) รัฐมนตรีช่วยว่าการะทรวงกลาโหม
        (3) จเรทหารทั่วไป
        (4) ปลัดกระทรวงกลาโหม
        (5) รองปลัดกระทรวงกลาโหม
        (6) สมุหราชองครักษ์
        (7) รองสมุหราชองครักษ์ (อัตราจอมพล จอมพลเรือ หรือจอมพลอากาศ)
        (8) เสนาธิการกรมราชองครักษ์
        (9) ผู้บัญชาการทหารสูงสุด
        (10) รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด
        (11) เสนาธิการทหาร

        (12) ผู้บัญชาการทหารบก
        (13) รองผู้บัญชาการทหารบก
        (14) ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก
        (15) เสนาธิการทหารบก
        (16) ผู้บัญชาการทหารเรือ
        (17) รองผู้บัญชาการทหารเรือ
        (18) ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ
        (19) เสนาธิการทหารเรือ
        (20) ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ
        (21) ผู้บัญชาการทหารอากาศ
        (22) รองผู้บัญชาการทหารอากาศ
        (23) ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ
        (24) เสนาธิการทหารอากาศ
        (25) ผู้บัญชาการกองบัญชาการยุทธทางอากาศ
        (26) นายทหารยศชั้นนายพลขึ้นไปผู้เคยดำรงตำแหน่งหรือมีความดีความชอบในราชการทหาร
มาแล้ว  ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะได้แต่งตั้งจำนวนไม่เกินสามนายโดยความเห็นชอบของ
ที่ประชุมสมาชิกสภากลาโหมตาม (1) ถึง (25)
        รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะเชิญบุคคลอื่นเข้าชี้แจงต่อสภากลาโหมเฉพาะเรื่องใดก็ได้?
        มาตรา 6  ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 19 ทวิ  และมาตรา 19 ตรี  แห่งพระราชบัญญัติ
จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2503

        ?มาตรา 19 ทวิ  สมาชิกสภากลาโหมตามมาตรา 19 (26)  มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ
สองปีนับแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้ง และอาจได้รับแต่งตั้งอีกได้  แต่ไม่เกินสองวาระ
        ในกรณีสมาชิกสภากลาโหมตามมาตรา 19 (26)  พ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ  รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงกลาโหมอาจแต่งตั้งผู้อื่นแทนได้  และให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างอยู่ในตำแหน่ง
เท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของสมาชิกซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว
        มาตรา 19 ตรี  นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ  สมาชิกสภากลาโหมตามมาตรา 19 (26)
พ้นจากตำแหน่งเมื่อ
        (1)  ตาย
        (2)  ลาออก
        (3)  เป็นบุคคลล้มละลาย
        (4)  เป็นคนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
        (5)  ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกเว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำ
โดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
        (6)  สมาชิกสภากลาโหมมีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนสมาชิก
สภากลาโหมทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ให้พ้นจากตำแหน่ง  เนื่องจากกระทำการหรือมีพฤติการณ์ไม่เหมาะสม
ในการปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภากลาโหม?
        มาตรา 7  ให้สมาชิกสภากลาโหมตามมาตรา 19 (23)  แห่งพระราชบัญญัติจัดระเบียบ
ราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2503  ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ประกาศใน
ราชกิจจานุเบกษา คงเป็นสมาชิกสภากลาโหมตามมาตรา 19 (26)  แห่งพระราชบัญญัติจัดระเบียบ
ราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2503  ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ต่อไป  โดยให้เริ่มนับ
วาระการดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับเป็นต้นไป

        มาตรา 8  ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
ชวน  หลีกภัย
นายกรัฐมนตรี
   หมายเหตุ:-  เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้  คือ  เนื่องจากในปัจจุบันสมควรที่กระทรวงกลาโหม
จะนำศักยภาพในด้านการอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการป้องกันประเทศและพลังงานทหารที่มีอยู่  มาช่วยในการเสริมสร้าง
ความเข้มแข็งของกองทัพและพัฒนาประเทศ  สมควรกำหนดให้กระทรวงกลาโหมดำเนินกิจการอุตสาหกรรมเกี่ยวกับ
การป้องกันประเทศและการพลังงานทหาร  ทั้งนี้  เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและรักษาความมั่นคงของราชอาณาจักร
และรักษาประโยชน์ของชาติ  นอกจากนี้โดยที่ได้มีการปรับปรุงส่วนราชการในกระทรวงกลาโหม  โดยกำหนดให้
กรมราชองครักษ์เป็นส่วนราชการขึ้นตรงต่อกระทรวงกลาโหม  จึงควรกำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
สามารถมอบอำนาจให้สมุหราชองครักษ์ทำการแทนได้เช่นเดียวกับหัวหน้าส่วนราชการอื่นๆ  ในระดับเดียวกัน  และ
สมควรปรับปรุงองค์ประกอบของสภากลาโหมให้เหมาะสมยิ่งขึ้น  จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
( รจ. เล่ม 117  ตอนที่ 15 ก  หน้า 1  6 มีนาคม 2543 )