พระราชบัญญัติ เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างทางพิเศษสายพญาไท - ศรีนครินทร์ ในท้องที่เขตบางกะปิ และเขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร พ.ศ. ๒๕๔๓ |
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๓ เป็นปีที่ ๕๕ ในรัชกาลปัจจุบัน |
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรด เกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรให้เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างทางพิเศษสายพญาไท - ศรีนครินทร์ ในท้องที่เขตบางกะปิ และเขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติเกี่ยวกับการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๙ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัย อำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและ ยินยอมของรัฐสภาดังต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างทางพิเศษสายพญาไท - ศรีนครินทร์ ในท้องที่เขตบางกะปิ และเขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร พ.ศ. ๒๕๔๓"
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๓ ให้ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าหน้าที่เวนคืน ตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๔ ให้เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่เขตบางกะปิ และเขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชบัญญัตินี้ ซึ่งปรากฏรายชื่อเจ้าของ หรือผู้ครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้ ให้แก่การทางพิเศษ แห่งประเทศไทย เพื่อสร้างทางพิเศษสายพญาไท - ศรีนครินทร์
มาตรา ๕ ให้เจ้าหน้าที่เวนคืนเข้าใช้อสังหาริมทรัพย์ที่เวนคืนตามมาตรา ๔ ภายในระยะเวลาสามปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
มาตรา ๖ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
ชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี |
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เเนื่องจากการทางพิเศษ แห่งประเทศไทยได้ทำการสำรวจที่ที่จะต้องเวนคืน เพื่อสร้างทางพิเศษสายพญาไท - ศรีนครินทร์ ในท้องที่เขตบางกะปิ และเขตสวนหลวงกรุงเทพมหานคร ตามพระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่เขตดุสิต เขตราชเทวี เขตปทุมวัน เขต บางกะปิ และเขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร พ.ศ. ๒๕๓๘ เสร็จแล้ว สมควรเวนคืน อสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวต่อไป จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัติฉบับนี้ (ร.จ. เล่ม ๑๑๗ ตอนที่ ๑๐ ก หน้า ๒๒ วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๓) |