พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรด เกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการควบคุมยาง พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพ ของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๕ มาตรา ๓๖ มาตรา ๔๘ และมาตรา ๕๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติ แห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและ ยินยอมของรัฐสภาดังต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติควบคุมยาง พ.ศ. ๒๕๔๒"
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๓ ให้ยกเลิก (๑) พระราชบัญญัติควบคุมยาง พุทธศักราช ๒๔๘๑ (๒) พระราชบัญญัติควบคุมยาง (ฉบับที่ ๒) พุทธศักราช ๒๔๘๓ (๓) พระราชบัญญัติควบคุมยาง (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๔๙๐
มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้ "ต้นยาง" หมายความว่า ต้นยางพารา (Hevea brasiliensis) และหมายความรวมถึงต้นยางชนิดอื่นซึ่งรัฐมนตรีประกาศกำหนดให้เป็นต้นยางที่อยู่ภายใต้ การควบคุมตามพระราชบัญญัตินี้ "ต้นยางพันธุ์ดี" หมายความว่า ต้นยางที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดว่า เป็นต้นยางพันธุ์ที่เหมาะสมที่จะใช้ปลูกเป็นสวนยาง "ยาง" หมายความว่า น้ำยางสด ยางก้อน เศษยาง น้ำยางข้น ยางแผ่น ยางแท่ง ยางเครพ หรือยางในลักษณะอื่นใดอันผลิตขึ้นหรือได้มาจากส่วนใด ๆ ของต้นยาง และหมายความรวมถึงยางผสมไม่ว่าในสภาพของแข็งหรือของเหลวซึ่งมียางธรรมชาติ ผสมกับสารเคมีหรือสารอื่น แต่ไม่รวมถึงวัตถุประดิษฐ์สำเร็จรูปจากยาง "เนื้อยาง" หมายความว่า เนื้อยางที่มีอยู่ในน้ำยางหรือยางแต่ละชนิด โดยคำนวณเป็นน้ำหนักตามกรรมวิธีที่กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำหนด "สวนยาง" หมายความว่า ที่ดินซึ่งมีต้นยางปลูกอยู่ในเนื้อที่ไม่น้อยกว่าหนึ่งไร่ แต่ละไร่มีต้นยางไม่น้อยกว่าสิบต้น หรือในกรณีที่มีเนื้อที่ปลูกยางติดต่อกันมากกว่าหนึ่งไร่ ต้องมีส่วนเฉลี่ยไม่น้อยกว่าไร่ละยี่สิบห้าต้นของจำนวนเนื้อที่ทั้งหมด "ทำสวนยาง" หมายความว่า ปลูกต้นยางในสภาพที่เป็นสวนยาง บำรุง รักษาต้นยาง กรีดต้นยาง หรือทำน้ำยางสดให้เป็นยางก้อน เศษยาง หรือยางแผ่นดิบ "เขตควบคุมการขนย้ายยาง" หมายความว่า เขตพื้นที่ที่รัฐมนตรีประกาศ กำหนดเป็นเขตควบคุมการขนย้ายยาง "โรงทำยาง" หมายความว่า สถานที่ที่ใช้น้ำยางสด ยางก้อน เศษยาง หรือยางแผ่นดิบ มาแปรรูปเป็นน้ำยางข้น ยางผึ่งแห้ง ยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง ยางเครพ ยางดิบชนิดอื่น ๆ อย่างหนึ่งอย่างใดหรือหลายอย่างรวมกัน และหมายความรวมถึงสถานที่ ที่ผลิตยางผสม แต่ไม่รวมถึงสถานที่ที่ทำยางแผ่นดิบ "ปริมาณควบคุมเนื้อยาง" หมายความว่า ปริมาณเนื้อยางที่รัฐมนตรีประกาศ กำหนดให้ผู้ทำสวนยางทำการผลิตเนื้อยางได้ตามปริมาณและระยะเวลาที่รัฐมนตรีประกาศ กำหนด "ปริมาณจัดสรรเนื้อยาง" หมายความว่า ปริมาณเนื้อยางที่รัฐมนตรีประกาศ จัดสรรให้ผู้นำยางเข้าหรือผู้ส่งยางออก นำเนื้อยางเข้ามาในหรือส่งเนื้อยางออกไป นอกราชอาณาจักรได้ ตามปริมาณและระยะเวลาที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด "มาตรฐานยาง" หมายความว่า ลักษณะของยางแต่ละชนิดหรือชั้นตามที่ รัฐมนตรีประกาศกำหนด "วิธีการมัดยางและการบรรจุหีบห่อยาง" หมายความว่า วิธีการมัดยาง และการบรรจุหีบห่อยางตามวิธีการที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด "ค้ายาง" หมายความว่า ซื้อ ขาย หรือแลกเปลี่ยนยาง และหมายความ รวมถึงซื้อยาง ขายยางตามตราสารที่บุคคลหนึ่งบุคคลใดเป็นผู้ออกตราสารนั้นหรือโดย ประการอื่น แต่ไม่รวมถึงกรณีที่ผู้ทำสวนยางขายน้ำยางสด ยางก้อน เศษยาง หรือยางแผ่นดิบ ซึ่งเป็นผลิตผลจากสวนยางของตน "ผู้อนุญาต" หมายความว่า อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย "คณะกรรมการ" หมายความว่า คณะกรรมการควบคุมยางตามพระราชบัญญัตินี้ "พนักงานเจ้าหน้าที่" หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการ ตามพระราชบัญญัตินี้ "อธิบดี" หมายความว่า อธิบดีกรมวิชาการเกษตร "รัฐมนตรี" หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รักษาการ ตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจดังต่อไปนี้ (๑) ออกกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตราท้ายพระราชบัญญัตินี้ ลดค่าธรรมเนียม ยกเว้นค่าธรรมเนียม และกำหนดกิจการอื่น (๒) ออกประกาศ (๓) แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวงหรือประกาศนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้ บังคับได้
มาตรา ๖ เพื่อประโยชน์ในการผลิตยาง การค้ายาง การนำยางเข้า และการส่งยางออก ให้รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของคณะกรรมการมีอำนาจประกาศ ในราชกิจจานุเบกษากำหนด (๑) ต้นยางชนิดอื่นเป็นต้นยางที่อยู่ภายใต้การควบคุมตามพระราชบัญญัตินี้ (๒) ต้นยางพันธุ์ดี (๓) เขตทำสวนยาง (๔) การแจ้งเนื้อที่สวนยาง จำนวนต้นยาง และพันธุ์ของต้นยางที่ปลูก ในสวนยาง รวมทั้งปริมาณเนื้อยางที่ผู้ทำสวนยางทำได้ในแต่ละปี (๕) เขตห้ามปลูกต้นยาง (๖) วิธีการทำสวนยางในบางท้องที่ (๗) เขตควบคุมการขนย้ายยาง (๘) ปริมาณควบคุมเนื้อยาง ปริมาณจัดสรรเนื้อยาง ตามความเหมาะสม แก่สถานการณ์ยางของประเทศ (๙) การจัดตั้งตลาดกลางแลกเปลี่ยนยางธรรมชาติ รวมทั้งวิธีดำเนินงาน อำนาจหน้าที่ และการควบคุมตลาดกลางแลกเปลี่ยนยางธรรมชาติดังกล่าว (๑๐) มาตรฐานยางและวิธีการมัดยางและการบรรจุหีบห่อยางเพื่อการส่งออก การประกาศตามวรรคหนึ่ง รัฐมนตรีจะมอบอำนาจให้อธิบดีเป็นผู้ประกาศแทนก็ได้
มาตรา ๗ เมื่อได้มีประกาศของรัฐมนตรีกำหนดให้ผู้ทำสวนยางแจ้งเนื้อที่ สวนยาง จำนวนต้นยาง พันธุ์ของต้นยางที่ปลูกในสวนยาง และปริมาณเนื้อยางที่ทำได้ ในแต่ละปีตามมาตรา ๖ (๔) แล้ว ผู้ทำสวนยางต้องแจ้งข้อมูลดังกล่าวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ภายในระยะเวลาที่ได้กำหนดไว้ในประกาศ การแจ้งข้อมูลตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด
มาตรา ๘ ในกรณีที่มีโรคระบาดเกี่ยวกับยางเกิดขึ้นในท้องที่ใดแล้ว รัฐมนตรี มีอำนาจประกาศกำหนดเขตห้ามปลูกต้นยางตามมาตรา ๖ (๕) เมื่อได้มีประกาศกำหนดเขตห้ามปลูกต้นยางตามวรรคหนึ่งแล้ว ห้ามมิให้ผู้ใด ปลูกต้นยางขึ้นอีกในเขตดังกล่าว ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องทำลายต้นยางในเขตห้ามปลูกต้นยางตามวรรคหนึ่ง ให้อธิบดีมีอำนาจสั่งให้ผู้ทำสวนยางทำลายต้นยางที่เห็นว่าเอื้อต่อการระบาดของโรคตาม วิธีการที่อธิบดีกำหนด
มาตรา ๙ เมื่อได้มีประกาศของรัฐมนตรีกำหนดเขตทำสวนยาง วิธีการ ทำสวนยางในท้องที่หนึ่งท้องที่ใดตามมาตรา ๖ (๓) หรือ (๖) แล้ว ผู้ทำสวนยางในท้องที่ ดังกล่าวต้องปลูกต้นยางพันธุ์ดีที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดว่าเหมาะสมที่จะปลูกในท้องที่ดังกล่าว และต้องทำสวนยางตามวิธีการที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด
มาตรา ๑๐ เมื่อได้จัดตั้งตลาดกลางแลกเปลี่ยนยางธรรมชาติขึ้นตามประกาศ ของรัฐมนตรีตามมาตรา ๖ (๙) แล้ว ผู้ค้ายางและผู้นำยางเข้าหรือผู้ส่งยางออกต้องปฏิบัติ ตามหลักเกณฑ์การค้ายางที่ตลาดกลางแลกเปลี่ยนยางธรรมชาติกำหนด
มาตรา ๑๑ ให้มีคณะกรรมการควบคุมยางคณะหนึ่ง ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มอบหมายเป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นรองประธานกรรมการ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เลขาธิการสำนักงาน การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง ผู้อำนวยการองค์การสวนยาง อธิบดีกรมศุลกากร อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม อธิบดี กรมการค้าต่างประเทศ ที่ปรึกษากฎหมายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นกรรมการ กับกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งอีกเจ็ดคน ในจำนวนนี้จะต้องแต่งตั้งจากผู้แทน สถาบันเกษตรกรที่เป็นนิติบุคคลสี่คน เจ้าของโรงทำยาง เจ้าของโรงงานผลิตภัณฑ์ยาง และผู้ค้ายาง ประเภทละหนึ่งคน ให้อธิบดีกรมวิชาการเกษตรเป็นกรรมการและเลขานุการ และผู้อำนวยการสถาบันวิจัยยางกรมวิชาการเกษตรเป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
มาตรา ๑๒ ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอยู่ในตำแหน่งคราวละสองปี กรรมการ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งอาจได้รับการแต่งตั้งอีกได้
มาตรา ๑๓ นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระตามมาตรา ๑๒ กรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่ง เมื่อ (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) รัฐมนตรีให้ออก (๔) ไม่ได้เป็นผู้แทนสถาบันเกษตรกรที่เป็นนิติบุคคล เจ้าของโรงทำยาง เจ้าของโรงงานผลิตภัณฑ์ยาง หรือผู้ค้ายาง (๕) เป็นบุคคลล้มละลาย (๖) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ (๗) ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับ ความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ ในกรณีที่กรรมการพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ รัฐมนตรีอาจแต่งตั้งผู้อื่นเป็น กรรมการแทนได้ และให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทนอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระ ที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งตนแทน
มาตรา ๑๔ การประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่า กึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุม หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองประธานกรรมการเป็นประธานในที่ประชุม ถ้าประธาน กรรมการและรองประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้กรรมการ ที่มาประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่ง ในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่ง เป็นเสียงชี้ขาด
มาตรา ๑๕ ให้คณะกรรมการมีหน้าที่ให้คำแนะนำหรือความเห็นแก่รัฐมนตรี หรือผู้อนุญาต แล้วแต่กรณี ในเรื่องดังต่อไปนี้ (๑) การออกประกาศตามมาตรา ๖ (๒) การออกกฎกระทรวงตามมาตรา ๒๙ มาตรา ๓๐ มาตรา ๓๑ วรรคสอง มาตรา ๓๕ วรรคสอง และมาตรา ๔๒ วรรคสอง (๓) การพักใช้ใบอนุญาตหรือการเพิกถอนใบอนุญาตตามมาตรา ๓๒ (๔) การวินิจฉัยอุทธรณ์ตามมาตรา ๓๔ (๕) เรื่องอื่น ๆ ตามที่รัฐมนตรีมอบหมายหรือผู้อนุญาตร้องขอ (๖) การปฏิบัติตามสนธิสัญญา ข้อผูกพัน และโครงการระหว่างประเทศ ที่เกี่ยวกับยาง
มาตรา ๑๖ ให้คณะกรรมการมีอำนาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณา หรือปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่คณะกรรมการมอบหมาย และให้นำความในมาตรา ๑๔ มาใช้บังคับแก่การประชุมของคณะอนุกรรมการโดยอนุโลม
มาตรา ๑๗ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้คณะกรรมการมีอำนาจ ออกคำสั่งเป็นหนังสือเรียกบุคคลใดมาให้ถ้อยคำ หรือให้ส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หรือสิ่งใดมาเพื่อประกอบการพิจารณาได้
มาตรา ๑๘ ผู้ใดจะนำเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งต้นยาง ดอก เมล็ด หรือตาของต้นยาง หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของต้นยางที่อาจใช้เพาะพันธุ์ได้ ต้องได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต
มาตรา ๑๙ ผู้นำเข้าและผู้ส่งออกซึ่งต้นยาง ดอก เมล็ด หรือตาของต้นยาง หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของต้นยางที่อาจใช้เพาะพันธุ์ได้ ต้องนำเข้าหรือส่งออกทางด่านศุลกากร ที่ระบุไว้ในใบอนุญาต
มาตรา ๒๐ เมื่อได้มีประกาศของรัฐมนตรีกำหนดเขตควบคุมการขนย้ายยาง ตามมาตรา ๖ (๗) ในท้องที่หนึ่งท้องที่ใดแล้ว ผู้ใดจะขนย้ายยางเข้าใน ผ่าน หรือออกจาก เขตดังกล่าวต้องได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต
มาตรา ๒๑ ผู้ใดจะขยายพันธุ์ต้นยางเพื่อการค้า ต้องได้รับใบอนุญาตจาก ผู้อนุญาต และผู้รับใบอนุญาตต้องขยายพันธุ์ต้นยางจากต้นยางพันธุ์ดี
มาตรา ๒๒ ผู้ใดจะค้ายาง ต้องได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต
มาตรา ๒๓ ผู้ค้ายางจะต้องทำบัญชีการซื้อยาง บัญชีการจำหน่ายยางและปริมาณ ยางคงเหลือของทุก ๆ เดือน และจัดส่งบัญชีดังกล่าวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายในวันที่สิบของ เดือนถัดไป บัญชีการซื้อยาง บัญชีการจำหน่ายยาง และบัญชีปริมาณยางคงเหลือตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด
มาตรา ๒๔ ในการค้ายางแต่ละครั้ง ผู้ซื้อยาง ผู้ขายยาง หรือผู้แลกเปลี่ยนยาง ต้องตรวจใบอนุญาตค้ายาง จดเลขที่ใบอนุญาตค้ายางของแต่ละฝ่าย และจดปริมาณยางที่ซื้อขาย หรือแลกเปลี่ยนกันไว้เพื่อเป็นหลักฐานในการทำบัญชีตามมาตรา ๒๓
มาตรา ๒๕ ผู้ใดจะตั้งโรงทำยาง ต้องได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต
มาตรา ๒๖ ผู้ใดจะนำยางเข้ามาในหรือส่งยางออกไปนอกราชอาณาจักร ต้องได้รับใบอนุญาตเป็นผู้นำยางเข้าหรือผู้ส่งยางออกจากผู้อนุญาต เว้นแต่เป็นการนำยางเข้ามา ในหรือส่งยางออกไปนอกราชอาณาจักรเพื่อเป็นตัวอย่างและมีน้ำหนักไม่เกินห้ากิโลกรัม
มาตรา ๒๗ ในการนำยางเข้ามาในหรือส่งยางออกไปนอกราชอาณาจักรแต่ละครั้ง ผู้นำยางเข้าหรือผู้ส่งยางออกจะต้องได้รับใบผ่านด่านศุลกากรจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และจะต้อง นำยางเข้าหรือส่งยางออกทางด่านศุลกากรที่ระบุไว้ในใบผ่านด่านศุลกากร
มาตรา ๒๘ ในการส่งยางออกไปนอกราชอาณาจักร ผู้ส่งยางออกต้องส่งยาง ที่ได้มาตรฐานและต้องจัดให้มีการมัดและบรรจุหีบห่อยางที่ส่งออก ทั้งนี้ ตามที่รัฐมนตรีประกาศ กำหนดตามมาตรา ๖ (๑๐)
มาตรา ๒๙ ผู้ใดจะจัดให้มีการวิเคราะห์หรือการทดสอบคุณภาพยางต้องได้รับ ใบอนุญาตจากผู้อนุญาต และผู้รับใบอนุญาตต้องใช้เครื่องมือเครื่องใช้สำหรับการวิเคราะห์ หรือการทดสอบคุณภาพยางรวมทั้งผู้ปฏิบัติงาน ทั้งนี้ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ความในวรรคหนึ่งไม่ใช้บังคับแก่การวิเคราะห์หรือการทดสอบคุณภาพยาง ซึ่งกระทำโดยหน่วยงานของรัฐ
มาตรา ๓๐ การขออนุญาตและการออกใบอนุญาตตามมาตรา ๑๘ มาตรา ๒๐ มาตรา ๒๑ มาตรา ๒๒ มาตรา ๒๕ มาตรา ๒๖ และมาตรา ๒๙ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง ในการออกใบอนุญาต ผู้อนุญาตจะกำหนดเงื่อนไขไว้ในใบอนุญาตให้ผู้ขอรับ ใบอนุญาตต้องปฏิบัติด้วยก็ได้
มาตรา ๓๑ ใบอนุญาตตามมาตรา ๒๑ มาตรา ๒๒ มาตรา ๒๕ มาตรา ๒๖ และมาตรา ๒๙ มีอายุหนึ่งปีนับแต่วันออกใบอนุญาต ถ้าผู้รับใบอนุญาตประสงค์จะขอต่ออายุ ใบอนุญาตให้ยื่นคำขอก่อนใบอนุญาตสิ้นอายุ เมื่อได้ยื่นคำขอดังกล่าวแล้วจะประกอบกิจการต่อไป ก็ได้จนกว่าผู้อนุญาตจะสั่งไม่อนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตนั้น การขอต่ออายุใบอนุญาตและการอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๓๒ เมื่อปรากฏว่าผู้รับใบอนุญาตผู้ใดไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกฎกระทรวง หรือประกาศ หรือเงื่อนไขในใบอนุญาต หรือเมื่อมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่า ผู้รับใบอนุญาตได้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ผู้อนุญาตโดยคำแนะนำของคณะกรรมการ มีอำนาจสั่งพักใช้ใบอนุญาตได้โดยมีกำหนดครั้งละไม่เกินเก้าสิบวัน หรือจะสั่งเพิกถอนใบอนุญาต ก็ได้ ทั้งนี้แล้วแต่ความร้ายแรงของการกระทำความผิด และในกรณีที่มีการฟ้องผู้รับใบอนุญาต ต่อศาลว่าได้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ผู้อนุญาตจะสั่งพักใช้ใบอนุญาตไว้รอคำพิพากษา อันถึงที่สุดก็ได้ ผู้รับใบอนุญาตซึ่งถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตต้องหยุดประกอบกิจการตามใบอนุญาตนั้น และในระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตจะขอรับใบอนุญาตใด ๆ ตามพระราชบัญญัตินี้ไม่ได้ ผู้ถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาตจะขอรับใบอนุญาตใด ๆ ตามพระราชบัญญัตินี้อีกไม่ได้ จนกว่าจะพ้นกำหนดสองปีนับแต่วันที่ถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาต
มาตรา ๓๓ คำสั่งพักใช้ใบอนุญาตและคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตให้ทำเป็นหนังสือ แจ้งให้ผู้รับใบอนุญาตทราบ ถ้าไม่สามารถส่งคำสั่งให้ผู้รับใบอนุญาตได้ หรือผู้รับใบอนุญาต ไม่ยอมรับคำสั่งดังกล่าว ให้ปิดคำสั่งไว้ในที่เปิดเผยเห็นได้ง่าย ณ สถานที่ที่ระบุไว้ในใบอนุญาต หรือที่เคหสถานของผู้รับใบอนุญาต และให้ถือว่าผู้รับใบอนุญาตได้ทราบคำสั่งนั้นแล้วตั้งแต่วันที่ ปิดคำสั่ง
มาตรา ๓๔ ในกรณีที่ผู้อนุญาตไม่ออกใบอนุญาต หรือไม่อนุญาตให้ต่ออายุ ใบอนุญาต หรือมีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาต หรือคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาต ผู้ขอรับใบอนุญาต หรือผู้ขอต่ออายุใบอนุญาต หรือผู้ถูกพักใช้ใบอนุญาตหรือผู้ถูกเพิกถอนใบอนุญาต มีสิทธิอุทธรณ์ เป็นหนังสือต่อรัฐมนตรีภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้ทราบถึงการไม่ออกใบอนุญาต หรือการ ไม่อนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตหรือการพักใช้ใบอนุญาต หรือการเพิกถอนใบอนุญาต แล้วแต่กรณี คำวินิจฉัยของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด ในกรณีที่ผู้อนุญาตไม่อนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาต เมื่อได้ยื่นอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรี ตามวรรคหนึ่งแล้ว ผู้อุทธรณ์จะประกอบกิจการต่อไปก็ได้จนกว่ารัฐมนตรีจะวินิจฉัยอุทธรณ์ ไม่ต่ออายุใบอนุญาต
มาตรา ๓๕ ในกรณีที่ใบอนุญาตตามมาตรา ๒๑ มาตรา ๒๒ มาตรา ๒๕ มาตรา ๒๖ และมาตรา ๒๙ สูญหายหรือถูกทำลายในสาระสำคัญ ให้ผู้รับใบอนุญาตแจ้งต่อ พนักงานเจ้าหน้าที่และยื่นคำขอรับใบแทนใบอนุญาตภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับทราบ ถึงการสูญหาย หรือถูกทำลายดังกล่าว การขอรับใบแทนใบอนุญาตและการออกใบแทนใบอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๓๖ ผู้รับใบอนุญาตตามมาตรา ๒๑ มาตรา ๒๒ มาตรา ๒๕ มาตรา ๒๖ และมาตรา ๒๙ ต้องแสดงใบอนุญาตหรือใบแทนใบอนุญาต แล้วแต่กรณี ไว้ในที่เปิดเผยเห็นได้ง่าย ณ สถานที่ที่ระบุไว้ในใบอนุญาตหรือใบแทนใบอนุญาต ในกรณีที่มีสถานที่ระบุไว้มากกว่าหนึ่งแห่ง ให้แสดงภาพถ่ายของใบอนุญาตหรือใบแทนใบอนุญาตไว้ในสถานที่ดังกล่าวทุกแห่ง
มาตรา ๓๗ ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาถึงแก่ความตาย และใบอนุญาตยังไม่สิ้นอายุ ถ้าทายาทซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้วหรือผู้จัดการมรดกของผู้รับใบอนุญาต ประสงค์จะประกอบกิจการนั้นต่อไป ก็ให้ประกอบกิจการต่อไปได้จนกว่าใบอนุญาตจะสิ้นอายุ แต่ต้องแจ้งให้ผู้อนุญาตทราบภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ผู้รับใบอนุญาตตาย
มาตรา ๓๘ ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตโอนกิจการให้บุคคลอื่น และใบอนุญาต ยังไม่สิ้นอายุ ผู้รับโอนต้องยื่นคำขอรับใบอนุญาตต่อผู้อนุญาตภายในหกสิบวันนับแต่วันที่รับโอน และให้ประกอบกิจการนั้นต่อไปได้จนกว่าจะได้รับใบอนุญาตใหม่
มาตรา ๓๙ ผู้รับใบอนุญาตซึ่งประสงค์จะย้ายสถานที่ประกอบกิจการของตน ต้องแจ้งการย้ายสถานที่ดังกล่าวเป็นหนังสือต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ย้าย
มาตรา ๔๐ ผู้รับใบอนุญาตผู้ใดเลิกกิจการที่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ ต้องแจ้งการเลิกกิจการเป็นหนังสือต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายในสิบห้าวันนับแต่วันเลิกกิจการ และให้ถือว่าใบอนุญาตสิ้นอายุตั้งแต่วันเลิกกิจการตามที่แจ้งไว้นั้น
มาตรา ๔๑ ในการปฏิบัติหน้าที่ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจดังนี้ (๑) เข้าไปในสวนยางหรือแปลงเพาะพันธุ์ต้นยางในระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกเพื่อตรวจสอบเนื้อที่สวนยาง จำนวนต้นยาง พันธุ์ต้นยาง วิธีการทำสวนยาง และเข้าไปในร้านค้ายาง สถานที่เก็บยาง โรงทำยาง โรงงานผลิตภัณฑ์ยาง สถานที่ที่ใช้ ในการวิเคราะห์และการตรวจสอบคุณภาพยางในระหว่างเวลาทำการเพื่อตรวจสอบใบอนุญาต ปริมาณและคุณภาพของยาง เครื่องมือเครื่องใช้ และวิธีการในการผลิตยาง การวิเคราะห์ และการตรวจสอบคุณภาพยาง จำนวนและประวัติของลูกจ้างของผู้รับใบอนุญาต ตลอดจนเอกสาร หลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การเป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ (๒) นำต้นยางหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของต้นยางหรือยางในปริมาณพอสมควร ไปเป็นตัวอย่างเพื่อการตรวจสอบหรือวิเคราะห์ (๓) เข้าไปในสถานที่หรือยานพาหนะใด ๆ ในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยว่า มีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้เพื่อตรวจสอบพันธุ์ต้นยางและยาง และยึดหรืออายัด ต้นยางหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของต้นยาง ยาง ภาชนะบรรจุยาง เครื่องมือเครื่องใช้ และเอกสาร หลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดได้ (๔) ในกรณีมีความจำเป็นที่จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ทำสวนยางหรือธุรกิจ การยาง ให้มีหนังสือสอบถามหรือเรียกผู้ทำสวนยางหรือผู้รับใบอนุญาต หรือตัวแทนหรือลูกจ้าง ของบุคคลดังกล่าวมาให้ถ้อยคำหรือคำชี้แจงเกี่ยวกับการทำสวนยางหรือกิจการที่ได้รับอนุญาต หรือให้ส่งเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้ทำสวนยางหรือผู้รับใบอนุญาตหรือผู้ซึ่ง เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกตามสมควร
มาตรา ๔๒ ในการปฏิบัติหน้าที่ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แสดงบัตรประจำตัว ต่อผู้ทำสวนยางหรือผู้รับใบอนุญาต หรือผู้ซึ่งเกี่ยวข้อง บัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้เป็นไปตามแบบที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๔๓ ต้นยาง หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของต้นยาง ยาง ภาชนะบรรจุยาง เครื่องมือเครื่องใช้ หรือเอกสารหลักฐานที่ได้ยึดหรืออายัดไว้ตามมาตรา ๔๑ (๓) ถ้าไม่ปรากฏเจ้าของหรือผู้ครอบครอง หรือพนักงานอัยการสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดี หรือศาล โดยคำพิพากษาถึงที่สุดไม่ให้ริบ และผู้เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองมิได้ร้องขอรับคืนภายใน เก้าสิบวันนับแต่วันที่ยึดหรืออายัด หรือวันที่ทราบคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดี หรือวันที่ศาลพิพากษา ถึงที่สุด แล้วแต่กรณี ให้ตกเป็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
มาตรา ๔๔ ในการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๔๕ ผู้ทำสวนยางผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๗ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษ ปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท
มาตรา ๔๖ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๘ วรรคสอง ต้องระวางโทษปรับเป็นรายต้นยาง ต้นละไม่เกินหนึ่งร้อยบาท และต้นยางที่ปลูกโดยการฝ่าฝืนนั้นให้ทำลายเสีย ผู้ใดไม่ทำลายต้นยางที่ปลูกโดยการฝ่าฝืนตามวรรคหนึ่งหรือไม่ทำลายต้นยางตาม คำสั่งของอธิบดีตามมาตรา ๘ วรรคสาม ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจทำลายต้นยางดังกล่าวได้ โดยผู้ฝ่าฝืนต้องเป็นผู้เสียค่าใช้จ่าย
มาตรา ๔๗ ผู้ทำสวนยางในท้องที่ที่ได้มีประกาศของรัฐมนตรีกำหนดเขต ทำสวนยาง วิธีการทำสวนยางตามมาตรา ๖ (๓) หรือ (๖) ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๙ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท และถ้าต้นยางที่ปลูกนั้นไม่ใช่ต้นยางพันธุ์ดีที่รัฐมนตรี ประกาศกำหนดว่าเหมาะสมที่จะปลูกในท้องที่ดังกล่าว ให้ทำลายเสีย ถ้าผู้ทำสวนยางไม่ทำลายต้นยางที่ไม่ใช่ต้นยางพันธุ์ดีตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงาน เจ้าหน้าที่มีอำนาจทำลายต้นยางดังกล่าวได้โดยผู้ทำสวนยางต้องเป็นผู้เสียค่าใช้จ่าย
มาตรา ๔๘ ผู้ค้ายางและผู้นำยางเข้าหรือผู้ส่งยางออกผู้ใดไม่ปฏิบัติตาม มาตรา ๑๐ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
มาตรา ๔๙ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๘ มาตรา ๒๐ หรือมาตรา ๒๕ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๕๐ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๒๑ มาตรา ๒๒ หรือมาตรา ๒๙ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
มาตรา ๕๑ ผู้ค้ายางผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๒๓ หรือมาตรา ๒๔ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท
มาตรา ๕๒ ผู้ใดนำยางเข้ามาในหรือส่งยางออกไปนอกราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้นำยางเข้าหรือผู้ส่งยางออกตามมาตรา ๒๖ ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๕๓ ผู้รับใบอนุญาตผู้ใดไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในใบอนุญาต ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท
มาตรา ๕๔ ผู้ส่งยางออกผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๒๘ ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๕๕ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๓๕ วรรคหนึ่ง มาตรา ๓๖ มาตรา ๓๗ มาตรา ๓๘ มาตรา ๓๙ หรือมาตรา ๔๐ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองพันบาท
มาตรา ๕๖ ผู้ใดไม่มาให้ถ้อยคำหรือไม่ส่งเอกสารหรือหลักฐานหรือสิ่งใด ตามคำสั่งของคณะกรรมการที่สั่งตามมาตรา ๑๗ หรือไม่อำนวยความสะดวกแก่พนักงาน เจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๔๑ วรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกิน สามพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๕๗ เมื่อมีการลงโทษตามมาตรา ๔๙ มาตรา ๕๐ มาตรา ๕๒ หรือมาตรา ๕๔ ให้ริบต้นยาง หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของต้นยาง ยาง เครื่องมือเครื่องใช้ รวมทั้งภาชนะและหีบห่อบรรจุยางที่เกี่ยวเนื่องกับความผิดในคดี และให้กระทรวงเกษตร และสหกรณ์จัดการทำลายเสียหรือจัดการอย่างอื่นตามที่เห็นสมควร
บทเฉพาะกาล
มาตรา ๕๘ ผู้ใดประกอบกิจการเป็นผู้ค้ายาง เจ้าของโรงรีดยาง เจ้าของโรงรมยาง หรือผู้ส่งยางออกโดยได้รับใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติควบคุมยาง พุทธศักราช ๒๔๘๑ อยู่แล้วก่อนหรือในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ถ้าประสงค์จะประกอบ กิจการต่อไปต้องยื่นคำขอรับใบอนุญาตค้ายาง ใบอนุญาตจัดตั้งโรงทำยาง ใบอนุญาตเป็นผู้ส่ง ยางออก แล้วแต่กรณี ตามพระราชบัญญัตินี้ภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ ใช้บังคับ เมื่อได้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตแล้วให้ประกอบกิจการต่อไปได้จนกว่าจะได้รับแจ้งการ ไม่อนุญาตจากผู้อนุญาต แต่ถ้าไม่ประสงค์จะประกอบกิจการต่อไป ให้ประกอบกิจการได้ต่อไป จนกว่าใบอนุญาตจะสิ้นอายุ
มาตรา ๕๙ ผู้ใดประกอบกิจการขยายพันธุ์ต้นยางเพื่อการค้า หรือประกอบ กิจการทำน้ำยางข้น ยางผึ่งแห้ง ยางแท่ง หรือยางดิบชนิดอื่น ๆ หรือประกอบกิจการ เป็นผู้นำยางเข้า หรือประกอบกิจการเป็นผู้จัดให้มีการวิเคราะห์และการทดสอบคุณภาพยาง อยู่แล้วก่อนหรือในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ถ้าประสงค์จะประกอบกิจการต่อไป ต้องยื่น คำขอรับใบอนุญาตขยายพันธุ์ต้นยางเพื่อการค้า หรือใบอนุญาตจัดตั้งโรงทำยาง หรือใบอนุญาต เป็นผู้นำยางเข้า หรือใบอนุญาตเป็นผู้จัดให้มีการวิเคราะห์หรือการทดสอบคุณภาพยาง ตามพระราชบัญญัตินี้ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ เมื่อได้ยื่นคำขอรับ ใบอนุญาตแล้วให้ประกอบกิจการต่อไปได้จนกว่าจะได้รับแจ้งการไม่อนุญาตจากผู้อนุญาต
มาตรา ๖๐ ในกรณีที่ผู้ขอรับใบอนุญาตตามมาตรา ๕๘ และมาตรา ๕๙ ได้รับแจ้งการไม่ออกใบอนุญาตจากผู้อนุญาต ให้นำความในมาตรา ๓๔ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
มาตรา ๖๑ บรรดากฎกระทรวง ประกาศ หรือคำสั่งที่ออกตามพระราชบัญญัติ ควบคุมยาง พุทธศักราช ๒๔๘๑ ให้คงใช้บังคับได้ต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับบทแห่ง พระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ จนกว่าจะมีกฎกระทรวง ประกาศ หรือคำสั่งที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้ ใช้บังคับ
อัตราค่าธรรมเนียม
(๑) ใบอนุญาตนำเข้าซึ่งต้นยาง ดอก เมล็ด หรือตา ของต้นยาง หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของต้นยางที่อาจ ใช้เพาะพันธุ์ได้ ฉบับละ ๑,๐๐๐ บาท (๒) ใบอนุญาตส่งออกซึ่งต้นยาง ดอก เมล็ด หรือตา ของต้นยาง หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของต้นยางที่อาจ ใช้เพาะพันธุ์ได้ ฉบับละ ๑,๐๐๐ บาท (๓) ใบอนุญาตขยายพันธุ์ต้นยางเพื่อการค้า ฉบับละ ๑,๐๐๐ บาท (๔) ใบอนุญาตค้ายาง ฉบับละ ๑,๐๐๐ บาท (๕) ใบอนุญาตตั้งโรงทำยาง ฉบับละ ๕,๐๐๐ บาท (๖) ใบอนุญาตเป็นผู้นำยางเข้ามาในราชอาณาจักร ฉบับละ ๕,๐๐๐ บาท (๗) ใบอนุญาตเป็นผู้ส่งยางออกไปนอกราชอาณาจักร ฉบับละ ๕,๐๐๐ บาท (๘) ใบผ่านด่านศุลกากร (เก็บตามน้ำหนักของยาง ที่นำเข้าหรือส่งออก) กิโลกรัมละ ๐.๕๐ บาท (๙) ใบอนุญาตเป็นผู้จัดให้มีการวิเคราะห์หรือการ ทดสอบคุณภาพยาง ฉบับละ ๑,๐๐๐ บาท (๑๐) ใบอนุญาตนำยางเข้าใน ผ่าน หรือออกจาก เขตควบคุมการขนย้ายยาง ฉบับละ ๕๐๐ บาท (๑๑) ใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ ๒๐๐ บาท (๑๒) การต่ออายุใบอนุญาตครั้งละเท่ากับค่าธรรมเนียม สำหรับใบอนุญาตแต่ละฉบับ
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
ชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี |