พระราชบัญญัติ
         ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ๒)
                            พ.ศ. ๒๕๔๒
   ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
                ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๒
                     เป็นปีที่ ๕๔ ในรัชกาลปัจจุบัน
   พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรด
เกล้า ฯ ให้ประกาศว่า
          โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยธนาคารเพื่อการส่งออก
และนำเข้าแห่งประเทศไทย
          จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและ
ยินยอมของรัฐสภาดังต่อไปนี้

          มาตรา ๑  พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติธนาคารเพื่อการส่งออก
และนำเข้าแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๒"

          มาตรา ๒  พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศ
ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

          มาตรา ๓  ให้เพิ่มบทนิยามคำว่า "ผู้ลงทุน" และ "ธนาคารของผู้ลงทุน"
ระหว่างบทนิยามคำว่า "ธนาคารของผู้ซื้อ" และคำว่า "เงินกองทุน" ในมาตรา ๓
แห่งพระราชบัญญัติธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๓๖
          ""ผู้ลงทุน" หมายความว่า
          (๑) ผู้ประกอบกิจการในประเทศที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออกซึ่งสินค้าหรือ
บริการจากประเทศไทย กิจการที่ได้มาหรือสนับสนุนการได้มาซึ่งเงินตราต่างประเทศ
หรือกิจการที่ลดการสูญเสียเงินตราต่างประเทศ
          (๒) ผู้ประกอบกิจการในต่างประเทศ ซึ่งมีผู้ลงทุนหรือร่วมลงทุนดังต่อไปนี้
              (ก) เป็นผู้มีสัญชาติไทย หรือ
              (ข) เป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทยซึ่งมีทุนเกินกึ่งหนึ่งของ
นิติบุคคลนั้นถือโดยบุคคลตาม (ก) หรือนิติบุคคลซึ่งมีบุคคลตาม (ก) ลงทุนมีมูลค่าเกินกึ่งหนึ่ง
ของทุนทั้งหมดในนิติบุคคลนั้น และเป็นผู้มีอำนาจตามกฎหมาย หรือข้อบังคับหรือตามข้อตกลง
ในการแต่งตั้งกรรมการ ส่วนใหญ่ของจำนวนกรรมการทั้งหมดหรือในการออกคะแนนเสียง
ข้างมากเพื่อกำหนดนโยบายการดำเนินงานของนิติบุคคลนั้น
          "ธนาคารของผู้ลงทุน" หมายความว่า ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงิน
หรือองค์กรอื่นใดที่ให้สินเชื่อ ค้ำประกัน หรือให้บริการทางการเงินอื่นที่เกี่ยวกับการลงทุน
แก่ผู้ลงทุน"

          มาตรา ๔  ให้ยกเลิกความในมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติธนาคารเพื่อ
การส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๓๖ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
          "มาตรา ๗  ให้ธนาคารมีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบธุรกิจอันเป็นการส่งเสริม
และสนับสนุนการส่งออก การนำเข้า และการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้
เพื่อการพัฒนาประเทศ โดยการให้สินเชื่อ ค้ำประกัน รับประกันความเสี่ยง หรือให้บริการ
ที่จำเป็นอื่นตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้"

          มาตรา ๕  ให้ยกเลิกความใน (๒) ของมาตรา ๘ แห่งพระราชบัญญัติ
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๓๖ และให้ใช้ความ
ต่อไปนี้แทน
          "(๒) ให้สินเชื่อแก่ธนาคารของผู้ส่งออก ผู้ส่งออก ธนาคารของผู้ซื้อ ผู้ซื้อ
ธนาคารของผู้ลงทุน หรือผู้ลงทุน"

          มาตรา ๖  ให้ยกเลิกความใน (๔) และ (๕) ของมาตรา ๘
แห่งพระราชบัญญัติธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๓๖
และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
          "(๔) ให้สินเชื่อหรือบริการทางการเงินในรูปอื่นที่เป็นประเพณีปฏิบัติของ
ธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินอื่นในด้านธุรกิจการค้าระหว่างประเทศและด้าน
การลงทุน
          (๕) ค้ำประกันหนี้ ในกรณีที่ผู้ส่งออก ผู้ซื้อ หรือผู้ลงทุนได้รับสินเชื่อจาก
ธนาคารของผู้ส่งออก ธนาคารของผู้ซื้อ หรือธนาคารของผู้ลงทุน แล้วแต่กรณี"

          มาตรา ๗  ให้ยกเลิกความใน (๗) และ (๘) ของมาตรา ๘
แห่งพระราชบัญญัติธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๓๖
และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
          "(๗) รับประกันความเสี่ยงในการลงทุนในต่างประเทศของผู้ลงทุน
ตามมาตรา ๓ (๒) เฉพาะกิจการที่ธนาคารให้การสนับสนุนด้านสินเชื่อ แต่ถ้าเป็น
การรับประกันความเสี่ยงทางการเมืองต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข
ที่กำหนดโดยกฎกระทรวง
          (๘) เข้าร่วมลงทุนหรือให้สินเชื่อเพื่อการลงทุนในกิจการในต่างประเทศ
ที่จะมีผลเป็นการสนับสนุนการนำเข้าหรือส่งออกซึ่งสินค้าและบริการของประเทศไทย
หรือจะมีผลเป็นการส่งเสริมการประกอบกิจการในต่างประเทศของผู้ลงทุน และเข้าร่วม
ลงทุนในกิจการในประเทศเพื่อสนับสนุนการส่งออกหรือการพัฒนาประเทศ"

          มาตรา ๘  ให้ยกเลิกความใน (๕) ของมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติ
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๓๖ และให้ใช้ความ
ต่อไปนี้แทน
          "(๕) กำหนดคุณสมบัติ ประเภทสินค้า บริการ และลักษณะการประกอบการ
ของผู้ส่งออก ผู้ซื้อ และผู้ลงทุนที่สมควรได้รับการสนับสนุน"

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
     ชวน  หลีกภัย
     นายกรัฐมนตรี
   หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่สมควรแก้ไขเพิ่ม
เติมวัตถุประสงค์และอำนาจของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยเกี่ยว
กับการส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุนให้ชัดเจนและกว้างขวางขึ้น โดยให้มีอำนาจให้สินเชื่อ
ให้บริการทางการเงินในรูปอื่น ค้ำประกันหนี้และรับประกันความเสี่ยง ตลอดจนให้มีอำนาจ
เข้าร่วมลงทุนหรือให้สินเชื่อเพื่อการลงทุนในกิจการใด ๆ ในต่างประเทศ อันเป็นผลดีต่อ
การนำเขาและส่งออก ซึ่งสินค้าและบริการของประเทศไทยหรือมีผลดีต่อผู้ลงทุนไทยที่ลงทุน
หรือประกอบกิจการในต่างประเทศทั้งนี้ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของนักลงทุน ทั้งแต่ผู้
ลงทุนไทยที่ต้องการขยายการลงทุนในต่างประเทศ และแก่ผู้ลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ
ที่ต้องการลงทุนหรือประกอบกิจการในประเทศ โดยให้คณะกรรมการธนาคารเพื่อการส่งออก
และนำเข้าแห่งประเทสไทยมีอำนาจกำหนดประเภทและลักษณะการประกอบกิจการของผู้ลงทุน
ที่สมควรได้รับการสนับสนุนดังกล่าว จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
(ร.จ. เล่ม ๑๑๖  ตอนที่ ๑๒๓ ก  หน้า  ๑๖  วันที่  ๔ ธันวาคม  ๒๕๔๒)