พระราชบัญญัติ
                  โอนที่ดินซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
         ในท้องที่ตำบลสันทราย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
                        ให้แก่การเคหะแห่งชาติ
                            พ.ศ. ๒๕๔๑
   ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
                  ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๑
                     เป็นปีที่ ๕๓ ในรัชกาลปัจจุบัน
   พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรด
เกล้า ฯ ให้ประกาศว่า
         โดยที่เป็นการสมควรโอนที่ดินซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ในท้องที่
ตำบลสันทราย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ให้แก่การเคหะแห่งชาติ
เพื่อแลกเปลี่ยนกับที่ดินของการเคหะแห่งชาติ
          จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและ
ยินยอมของรัฐสภาดังต่อไปนี้

         มาตรา ๑  พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติโอนที่ดินซึ่งเป็น
สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ในท้องที่ตำบลสันทราย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
ให้แก่การเคหะแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๑"

         มาตรา ๒  พระราชบัญญัตินี้ให้ใชับังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศใน
ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

         มาตรา ๓  ให้โอนที่ดินซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ในท้องที่ตำบลสันทราย
อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เนื้อที่ประมาณ ๙ ไร่ ๑ งาน ๘๕ ตารางวา
ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชบัญญัตินี้ ให้แก่การเคหะแห่งชาติ

         มาตรา ๔  ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
     ชวน  หลักภัย
     นายกรัฐมนตรี
(แผนที่ท้ายพระราชบัญญัติฉบับนี้กรุณาดูจาก ร.จ. เล่ม ๑๑๕ ตอนที่ ๗๘ ก หน้า ๘)
   หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากลำเหมือง
สาธารณะซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลสันทราย
อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เนื้อที่ประมาณ ๙ ไร่ ๑ งาน ๘๕ ตารางวา
อยู่คั่นกลางระหว่างที่ดินของการเคหะแห่งชาติ ซึ่งกำลังดำเนินการจัดสร้างตามโครงการ
เคหะชุมชนจังหวัดเชียงราย ทำให้ที่ดินตามโครงการไม่ติดต่อเป็นผืนเดียวกัน และปัจจุบัน
ลำเหมืองสาธารณะดังกล่าวตื้นเขินซึ่งหมดสภาพการใช้ประโยชน์ร่วมกันแล้ว การเคหะ
แห่งชาติจึงมีความประสงค์จะนำที่ดินซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินดังกล่าวไปดำเนินการ
จัดสร้างเป็นเคหะชุมชน โดยได้จัดหาที่ดินซึ่งเป็นของการเคหะแห่งชาติ เนื้อที่ประมาณ
๑๔ ไร่ ๑๑ ตารางวา ซึ่งอยู่ในท้องที่เดียวกันมาแลกเปลี่ยนเพื่อทำเป็นทางสาธารณ
ประโยชน์สำหรับให้พลเมืองใช้ร่วมกันแทนแล้ว สมควรโอนที่ดินซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของ
แผ่นดินดังกล่าให้แก่การเคหะแห่งชาติ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
(ร.จ. เล่ม ๑๑๕  ตอนที่ ๗๘ ก  หน้า ๘  วันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๔๑)