พระราชบัญญัติ เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย เพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๒ สายตาก-ขอนแก่น ตอนเลี่ยงอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย พ.ศ. ๒๕๔๐ |
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๐ เป็นปีที่ ๕๒ ในรัชกาลปัจจุบัน |
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรด เกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรให้เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย เพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๒ สายตาก- ขอนแก่น ตอนเลี่ยงอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและ ยินยอมของรัฐสภาดังต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติเวนคืนอสังหา ริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย เพื่อสร้าง ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๒ สายตาก-ขอนแก่น ตอนเลี่ยงอุทยานประวัติศาสตร์ สุโขทัย พ.ศ. ๒๕๔๐"
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๓ ให้อธิบดีกรมทางหลวงเป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๔ ให้เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอ เมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชบัญญัตินี้ ซึ่งปรากฏ รายชื่อเจ้าของหรือผู้ครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้ให้แก่ กรมทางหลวง เพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๒ สายตาก-ขอนแก่น ตอนเลี่ยง อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
มาตรา ๕ ให้เจ้าหน้าที่เวนคืนเข้าใช้อสังหาริมทรัพย์ที่เวนคืนตาม มาตรา ๔ ภายในระยะเวลาหนึ่งปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
มาตรา ๖ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรักษาการตาม พระราชบัญญัตินี้ (แผนที่ท้ายพระราชบัญญัติดูจาก ร.จ. เล่ม ๑๑๔ ตอนที่ ๖๖ ก หน้า ๑๐) |
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากกรม ทางหลวงได้ทำการสำรวจที่ที่จะต้องเวนคืนเพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๒ สายตาก-ขอนแก่น ตอนเลี่ยงอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ตามที่ได้มีการกำหนด แนวทางหลวงที่จะสร้างไว้แล้วตามพระราชกฤษฎีกากำหนดแนวทางหลวงที่จะสร้าง ทางหลวงจังหวัดหมายเลข ๑๒ สายจังหวัดตาก-จังหวัดสุโขทัย-จังหวัดพิษณุโลก -อำเภอหล่มสัก-อำเภอชุมแพ-จังหวัดขอนแก่น ตอนเลี่ยงอุทยานประวัติศาสตร์ สุโขทัย พ.ศ. ๒๕๒๗ เสร็จแล้ว สมควรเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวต่อไป จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ (ร.จ. เล่ม ๑๑๔ ตอนที่ ๖๖ ก หน้า ๑๐ วันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๔๐) |