พระราชบัญญัติ เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร พ.ศ. ๒๕๓๘ |
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๘ เป็นปีที่ ๕๐ ในรัชกาลปัจจุบัน |
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรด เกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรให้เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่แขวงคลองสาม ประเวศ เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร เพื่อประโยชน์ในการสร้างสถานีบรรจุและ แยกสินค้ากล่องรวมทั้งกิจการที่เกี่ยวเนื่องเพื่อรองรับการขนถ่ายสินค้านำเข้าและส่งออก สำหรับท่าเรือพาณิชย์แหลมฉบังและท่าเรืออื่น จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและ ยินยอมของรัฐสภาดังต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร พ.ศ. ๒๕๓๘"
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๓ ให้ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าหน้าที่เวนคืน ตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๔ ให้เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชบัญญัตินี้ ซึ่งปรากฏรายชื่อเจ้าของหรือผู้ครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้ ให้แก่การรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อประโยชน์ในการสร้างสถานีบรรจุและแยกสินค้า กล่องรวมทั้งกิจการที่เกี่ยวเนื่องเพื่อรองรับการขนถ่ายสินค้านำเข้าและส่งออก สำหรับ ท่าเรือพาณิชย์แหลมฉบังและท่าเรืออื่น
มาตรา ๕ ให้เจ้าหน้าที่เวนคืนเข้าใช้อสังหาริมทรัพย์ที่เวนคืนตาม มาตรา ๔ ภายในระยะเวลาสองปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
มาตรา ๖ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ บรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรี |
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากการรถไฟ แห่งประเทศไทยได้ทำการสำรวจที่ที่จะต้องเวนคืน เพื่อสร้างสถานีบรรจุและแยกสินค้า กล่องรวมทั้งกิจการที่เกี่ยวเนื่องเพื่อรองรับการขนถ่ายสินค้านำเข้าและส่งออก สำหรับ ท่าเรือพาณิชย์แหลมฉบังและท่าเรืออื่น ตามที่ได้มีการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะ เวนคืนไว้แล้วตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่เขต ลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร พ.ศ. ๒๕๓๔ เสร็จแล้ว สมควรดำเนินการเพื่อเวนคืน อสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวต่อไป จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ (ร.จ. เล่ม ๑๑๒ ตอนที่ ๕๐ ก หน้า ๓ วันที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๓๘) (แผนที่ท้ายพระราชบัญญัติ ฉบับนี้กรุณาดูกจาก ร.จ. เล่ม ๑๑๒ ตอนที่ ๕๐ ก หน้า ๓ |