พระราชบัญญัติ
                การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล (ฉบับที่ ๙)
                            พ.ศ. ๒๕๓๘
   ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
                  ให้ไว้ ณ วันที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๘
                     เป็นปีที่ ๕๐ ในรัชกาลปัจจุบัน
   พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรด
เกล้า ฯ ให้ประกาศว่า
          โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิก
สภาเทศบาล
          จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและ
ยินยอมของรัฐสภาดังต่อไปนี้

          มาตรา ๑  พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิก
สภาเทศบาล (ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๓๘"

          มาตรา ๒  พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศ
ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

          มาตรา ๓  ให้ยกเลิกความในมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง
สมาชิกสภาเทศบาล พุทธศักราช ๒๔๘๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง
สมาชิกสภาเทศบาล (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๒๓ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
          "มาตรา ๑๗  บุคคลผู้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
           (๑) มีสัญชาติไทย แต่บุคคลผู้มีสัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติ ต้องได้
สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่าสิบปี
           (๒) มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ในวันที่ ๑ มกราคม ของปีที่มีการเลือกตั้ง
และ
           (๓) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันจนถึงวันเลือกตั้ง
ไม่น้อยกว่าเก้าสิบวัน"

          มาตรา ๔  ให้ยกเลิกมาตรา ๑๗ ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง
สมาชิกสภาเทศบาล พุทธศักราช ๒๔๘๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง
สมาชิกสภาเทศบาล (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๒๓

          มาตรา ๕  ให้ยกเลิกความในมาตรา ๒๐ แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง
สมาชิกสภาเทศบาล พุทธศักราช ๒๔๘๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง
สมาชิกสภาเทศบาล (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๒๓ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
          "มาตรา ๒๐  บุคคลผู้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ เป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
           (๑) มีสัญชาติไทยโดยการเกิด แต่บุคคลผู้มีสัญชาติไทยซึ่งบิดาเป็น
คนต่างด้าวต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิก
สภาผู้แทนราษฎรอีกด้วย
           (๒) มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบห้าปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง และ
           (๓) มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตเทศบาลที่สมัครเป็นเวลาติดต่อกันจนถึงวันสมัคร
ไม่น้อยกว่าหกเดือน หรือได้เสียภาษีตามกฎหมายว่าด้วยภาษีโรงเรือนและที่ดินหรือตาม
กฎหมายว่าด้วยภาษีบำรุงท้องที่ให้กับเทศบาลนั้นในปีที่สมัคร หรือในปีก่อนปีที่สมัครหนึ่งปี"

          มาตรา ๖  ให้ยกเลิกมาตรา ๒๐ ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง
สมาชิกสภาเทศบาล พุทธศักราช ๒๔๘๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง
สมาชิกสภาเทศบาล (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๒๓

          มาตรา ๗  ให้ยกเลิกความในวรรคสามของมาตรา ๓๔ แห่งพระราชบัญญัติ
การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พุทธศักราช ๒๔๘๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติ
การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๒๓ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
          "ในการคัดรายชื่อผู้เลือกตั้งตามวรรคสอง ถ้าปรากฏว่ามีบุคคลสัญชาติไทย
ผู้ใดมีสัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติ และมีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ในวันที่ ๑ มกราคม
ของปีที่มีการจัดทำบัญชีรายชื่อผู้เลือกตั้ง ให้เป็นหน้าที่ของเทศบาลทำการตรวจสอบว่าบุคคลนั้น
เป็นผู้เลือกตั้งหรือไม่ ถ้าเป็นก็ให้บันทึกไว้เป็นหลักฐานและคัดชื่อลงในบัญชีรายชื่อผู้เลือกตั้ง
ในกรณีมีความจำเป็นต้องสอบถามบุคคลดังกล่าวให้เทศบาลส่งเจ้าหน้าที่ไปสอบถามบุคคลนั้น
ณ บ้านที่ปรากฏตามทะเบียน"

          มาตรา ๘  ในกรณีที่มีการประกาศให้เลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลแล้ว
ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ การรับสมัครเลือกตั้งและการดำเนินการต่าง ๆ ให้ปฏิบัติ
ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พุทธศักราช ๒๔๘๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ สำหรับบัญชีรายชื่อผู้เลือกตั้งที่จัดทำตามบทกฎหมายดังกล่าว
จะมีผลใช้ได้เมื่อได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้ว แต่ถ้า
พระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับก่อนมีการประกาศบัญชีรายชื่อผู้เลือกตั้ง ให้ดำเนินการจัดทำ
บัญชีรายชื่อผู้เลือกตั้งขึ้น โดยมีรายชื่อผู้เลือกตั้งที่เป็นไปตามมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติ
การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พุทธศักราช ๒๔๘๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้
และประกาศก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการตรวจคะแนนประชุมกัน
เป็นครั้งแรกก่อนวันเลือกตั้งเจ็ดวัน ให้ผู้ที่ประสงค์ขอให้เติมชื่อลงในบัญชีหรือถอนชื่อจากบัญชี
ร้องขอต่อคณะกรรมการตรวจคะแนนในวันดังกล่าว
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
บรรหาร  ศิลปอาชา
นายกรัฐมนตรี
   หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่รัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม
(ฉบับที่ ๕) พุทธศักราช ๒๕๓๘ มาตรา ๑๐๙ ได้แก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับสัญชาติ
และอายุของผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยบัญญัติให้บุคคลผู้มีสัญชาติไทยเป็น
ผู้มีสิทธิเลือกตั้งโดยไม่จำกัดว่าบุคคลผู้มีสัญชาติไทยนั้นจะมีบิดาเป็นคนต่างด้าวหรือไม่ และ
กำหนดเงื่อนไขของผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งเป็นผู้มีสัญชาติไทย โดยการแปลงสัญชาติว่าจะต้อง
ได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่าสิบปี กับบัญญัติให้ผู้มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ในวันที่
๑ มกราคม ของปีที่มีการเลือกตั้งเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และมาตรา ๑๙๘ วรรคสาม ของ
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยดังกล่าว ได้บัญญัติให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภา
ท้องถิ่นอย่างน้อยต้องมีคุณสมบัติตามมาตรา ๑๑๑ (๑) และ (๒) กล่าวคือ ต้องเป็นผู้มี
สัญชาติไทยโดยการเกิด แต่บุคคลผู้มีสัญชาติไทยซึ่งบิดาเป็นคนต่างด้าวต้องมีคุณสมบัติ
ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรด้วย และต้องมี
อายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบห้าปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง สมควรแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการ
เลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พุทธศักราช ๒๔๘๒ ให้สอดคล้องกัน จึงจำเป็นต้องตรา
พระราชบัญญัตินี้
(ร.จ. เล่ม ๑๑๒  ตอนที่ ๔๓ ก  หน้า ๔  วันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๓๘)