พระราชบัญญัติ
                 ระเบียบข้าราชการพลเรือน (ฉบับที่ ๓)
                            พ.ศ. ๒๕๓๘
   ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
                  ให้ไว้ ณ วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๘
                     เป็นปีที่ ๕๐ ในรัชกาลปัจจุบัน
   พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรด
เกล้า ฯ ให้ประกาศว่า
         โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน
          จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและ
ยินยอมของรัฐสภาดังต่อไปนี้

         มาตรา ๑  พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน
(ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๓๘"

         มาตรา ๒  พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ เป็นต้นไป

         มาตรา ๓  ให้ยกเลิกความในมาตรา ๓๑ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ
พลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
         "มาตรา ๓๑  อัตราเงินเดือน อัตราเงินประจำตำแหน่งและการรับเงินประจำ
ตำแหน่งของข้าราชการพลเรือน ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง
         การจ่ายเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งให้แก่ข้าราชการพลเรือนให้เป็นไป
ตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น"

         มาตรา ๔  ให้ยกเลิกความในมาตรา ๔๕ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ
ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
         "มาตรา ๔๕  ให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินเดือนตามตำแหน่ง
         ผู้ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งใด ระดับใด จะได้รับเงินเดือนในอันดับใด
ตามกฎหมายว่าด้วยเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง ให้เป็นไปตามที่ ก.พ. กำหนด
โดยให้ได้รับในขั้นต่ำของอันดับ ในกรณีที่จะให้ได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือต่ำกว่าขั้นต่ำ
หรือสูงกว่าขั้นสูงของอันดับ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎ ก.พ."

         มาตรา ๕  ให้ยกเลิกบัญชีอัตราเงินเดือนข้าราชการพลเรือน และบัญชี
อัตราเงินประจำตำแหน่งข้าราชการพลเรือนท้ายพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน
พ.ศ. ๒๕๓๕
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
ชวน  หลีกภัย
นายกรัฐมนตรี
   หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ได้มีการแยกบัญชี
อัตราเงินเดือนและบัญชีอัตราเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนไปบัญญัติไว้ใน
กฎหมายว่าด้วยเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งซึ่งเป็นกฎหมายเฉพาะแล้ว สมควร
แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนให้สอดคล้องกัน จึงจำเป็นต้อง
ตราพระราชบัญญัตินี้
(ร.จ. เล่ม ๑๑๒  ตอนที่ ๑ ก  หน้า ๓๔   วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๓๘)