พระราชบัญญัติ
                จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดราชบุรี
                            พ.ศ. 2537
                             -------
   ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
                 ให้ไว้ ณ วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2537
                     เป็นปีที่ ๔๙ ในราชกาลปัจจุบัน
   พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรด
เกล้า ฯ ให้ประกาศว่า
          โดยที่เป็นการสมควรจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดราชบุรี
          จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและ
ยินยอมของรัฐสภาดังต่อไปนี้

          มาตรา ๑  พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชน
และครอบครัวจังหวัดราชบุรี พ.ศ. 2537"

          มาตรา ๒  พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศใน
ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

          มาตรา ๓  ให้จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดขึ้นในจังหวัดราชบุรี
เรียกว่า "ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดราชบุรี" และจะเปิดทำการเมื่อใด ให้
ประกาศโดยพระราชกฤษฎีกา

          มาตรา ๔  ให้ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดราชบุรีมีเขตอำนาจ
ตลอดจังหวัดราชบุรี
          ในระหว่างที่ยังไม่ได้เปิดทำการศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดราชบุรี
ตามพระราชกฤษฎีกาที่ออกตามมาตรา ๓ ให้ศาลจังหวัดราชบุรีและศาลแขวงราชบุรี
มีเขตอำนาจตลอดถึงเขตศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดราชบุรีด้วย
          บรรดาคดีที่อยู่ในอำนาจศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดราชบุรีที่ค้าง
พิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดราชบุรีหรือศาลแขวงราชบุรี ในวันเปิดทำการศาลเยาวชน
และครอบครัวจังหวัดราชบุรีนั้น ให้ศาลจังหวัดราชบุรีหรือศาลแขวงราชบุรีพิจารณาพิพากษา
ต่อไปจนเสร็จ แต่ถ้าศาลจังหวัดราชบุรีหรือศาลแขวงราชบุรีเห็นสมควรจะให้โอนคดีนั้น
ไปให้ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดราชบุรีพิจารณาพิพากษาก็ให้โอนไปได้

          มาตรา ๕  ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
ชวน  หลีกภัย
นายกรัฐมนตรี
   หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากรัฐบาลได้
เตรียมการจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดขึ้นในจังหวัดราชบุรี และโดยที่มาตรา 10
วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชน
และครอบครัว พ.ศ. 2534 กำหนดให้การจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนอกจาก
ที่ได้จัดตั้งตามมาตรา 8 ให้กระทำโดยพระราชบัญญัติ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
(ร.จ. เล่ม 111  ตอนที่ 26ก  หน้า 9   วันที่ 21 มิถุนายน 2537)