พระราชบัญญัติ
               จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ 5)
                             พ.ศ. 2536
                          ---------------
   ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
                  ให้ไว้ ณ วันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2536
                      เป็นปีที่ 48 ในรัชกาลปัจจุบัน
   พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการ
โปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า
          โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฏหมายว่าด้วยการจัดระเบียบราชการกระ
ทรวงกลาโหม
          จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและ
ยินยอมของรัฐสภาดังต่อไปนี้

          มาตรา ๑  พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการ
กระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. 2536"

          มาตรา ๒  พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศใน
ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

          มาตรา ๓  ให้ยกเลิกความในวรรคสองของมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติ
จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. ๒๕๐๓ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติ
จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๑๙ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
          "การใช้กำลังทหารเพื่อปฏิบัติการตามความในวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามที่
กระทรวงกลาโหมกำหนด เว้นแต่การใช้กำลังทหารเพื่อการปราบปรามการจลาจลให้เป็นไป
ตามที่กระทรวงกลาโหมกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี"

          มาตรา ๔  ให้ยกเลิกความในมาตรา ๘ แห่งพระราชบัญญัติจัดระเบียบ
ราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. ๒๕๐๓ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
         "มาตรา ๘  กระทรวงกลาโหมมีส่วนราชการ ดังนี้
          (๑) สำนักงานเลขานุการรัฐมนตรี
          (๒) สำนักงานปลัดกระทรวง
          (๓) กรมราชองครักษ์
          (๔) กองบัญชาการทหารสูงสุด"

          มาตรา ๕  ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา ๑๐ ทวิ แห่งพระราชบัญญัติ
จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. ๒๕๐๓
          "มาตรา ๑๐ ทวิ  กรมราชองครักษ์มีหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยราชองครักษ์
และกฎหมายว่าด้วยนายตำรวจราชสำนัก มีสมุหราชองครักษ์เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ"

          มาตรา ๖  ให้ยกเลิกความในมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติจัดระเบียบ
ราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. ๒๕๐๓ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจัดระเบียบ
ราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
          "มาตรา ๑๗  ให้สำนักงานปลัดกระทรวง กรมราชองครักษ์ กองบัญชาการ
ทหารสูงสุด กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ เป็นนิติบุคคล"

          มาตรา ๗  ให้ยกเลิกความในมาตรา ๑๙ แห่งพระราชบัญญัติจัดระเบียบ
ราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. ๒๕๐๓ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจัดระเบียบ
ราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๑๙ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
          "มาตรา ๑๙  ให้มี "สภากลาโหม" ประกอบด้วยสมาชิก ดังต่อไปนี้
          (๑) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
          (๒) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม
          (๓) ปลัดกระทรวงกลาโหม
          (๔) รองปลัดกระทรวงกลาโหม
          (๕) สมุหราชองครักษ์
          (๖) รองสมุหราชองครักษ์
          (๗) ผู้บัญชาการทหารสูงสุด
          (๘) รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด
          (๙) เสนาธิการทหาร
         (๑๐) รองเสนาธิการทหาร
         (๑๑) ผู้บัญชาการทหารบก
         (๑๒) รองผู้บัญชาการทหารบก
         (๑๓) ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก
         (๑๔) เสนาธิการทหารบก
         (๑๕) ผู้บัญชาการทหารเรือ
         (๑๖) รองผู้บัญชาการทหารเรือ
         (๑๗) ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ
         (๑๘) เสนาธิการทหารเรือ
         (๑๙) ผู้บัญชาการทหารอากาศ
         (๒๐) รองผู้บัญชาการทหารอากาศ
         (๒๑) ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ
         (๒๒) เสนาธิการทหารอากาศ
         (๒๓) นายทหารยศชั้นนายพลขึ้นไป ผู้เคยดำรงตำแหน่งหรือมีความดี
ความชอบในราชการทหารมาแล้ว ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะได้แต่งตั้ง
จำนวนไม่เกินสามนาย
          รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะเชิญบุคคลอื่นเข้าชี้แจงต่อสภากลาโหม
เฉพาะเรื่องใดก็ได้"
ผู้สนองพระบรมราชโองการ
     ชวน  หลีกภัย
     นายกรัฐมนตรี
   หมายเหตุ :-เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากการใช้กำลัง
ทหารเพื่อปฏิบัติการปราบปรามการจลาจลเป็นภารกิจสำคัญซึ่งเกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่
ของเจ้าหน้าที่ตามกฏหมายต่าง ๆ และมีผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน ดังนั้น
เพื่อให้การสั่งใช้กำลังทหารเพื่อปฏิบัติการดังกล่าวเป็นไปด้วยความรอบครอบยิ่งขึ้น สมควร
กำหนดให้ใช้กำลังทหารเพื่อการปราบปรามการจลาจลเป็นไปตามที่กระทรวงกลาโหมกำ
หนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี และนอกจากนี้เพื่อให้กรมราชองครักษ์สามารถปฏิ
บัติภารกิจต่อสภาบันพระมหากษัตริย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สมควรกำหนดให้
กรมองครักษ์เป็นส่วนราชการขึ้นตรงต่อกระทรวงกลาโหมและมีฐานะเป็น นิติบุคคล มีหน้า
ที่ตามกฏหมายว่าด้วยราชองครักษ์และกฏหมายว่าด้วยนายตำรวจราชสำนัก รวมทั้งกำหนด
ให้สมุหราชองครักษ์และรองสมุหราชองครักษ์เป็นสมาชิกสภากลาโหม จึงจำเป็นต้องตราพระ
ราชบัญญัตินี้
(ร.จ. ฉบับพิเศษ เล่ม 110 ตอนที่ 112 หน้า 4 วันที่ 16  สิงหาคม 2536)