พระราชบัญญัติ การประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 |
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2535 เป็นปีที่ 47 ในรัชกาลปัจจุบัน |
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศ ว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์และ ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทำหน้าที่รัฐสภา ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และ ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535"
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นหกสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้น ไป
มาตรา 3 ให้ยกเลิกบทนิยามคำว่า "ธุรกิจหลักทรัพย์" "กิจการนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์""กิจการ ค้าหลักทรัพย์" "กิจการที่ปรึกษาการลงทุน" "กิจการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์" "กิจการจัดการลงทุน" และ "บริษัทหลักทรัพย์" ในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุนธุรกิจหลักทรัพย์ และ ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ.2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ การประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ.2522 พ.ศ.2526
มาตรา 4 ให้ยกเลิกความในบทนิยามว่า "บริษัท" และ "ใบอนุญาต" ในมาตรา 4 แห่ง พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ.2522 ซึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ.2522 พ.ศ.2526 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน ""บริษัท" หมายความว่า บริษัทเงินทุนหรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ "ใบอนุญาต" หมายความว่า ใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจเงินทุนหรือธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์"
มาตรา 5 ให้ยกเลิกความใน (3) ของมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ.2522 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "(3) ออกกฎกระทรวงกำหนดกิจการอื่นใดให้เป็นธุรกิจเงินทุนหรือธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์"
มาตรา 6 ให้ยกเลิกวรรคสองของมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุนธุรกิจ หลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ.2522
มาตรา 7 ให้ยกเลิกความในวรรคสองของมาตรา 10 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจ เงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ.2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกำหนด แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ.2522 (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2528 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "มิให้นำมาตรา 13 และมาตรา 52 มาใช้บังคับแก่ผู้ได้รับอนุญาตตามวรรคหนึ่ง"
มาตรา 8 ให้ยกเลิกหมวด 3 บริษัทหลักทรัพย์ มาตรา 39 มาตรา 40 มาตรา 41 มาตรา 42 มาตรา 43 มาตรา 44 มาตรา 45 มาตรา 46 มาตรา 47 มาตรา 48 และมาตรา 49 แห่ง พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ.2522
มาตรา 9 ให้ยกเลิกความใน (3) ของมาตรา 68 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ.2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกำหนดแก้ไข เพิ่มเติมพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์พ.ศ. .2522 (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2528 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "(3) เข้าไปในสถานที่ใด ๆ ที่มีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการทำอันเป็นความผิดตามมาตรา 11 หรือมาตรา 50 หรือมีหลักฐานหรือเอกสารที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตามมาตราดังกล่าวเพื่อ ตรวจสอบได้ในเวลาระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตก"
มาตรา 10 ให้ยกเลิกความในมาตรา 70 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจ หลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ.2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ.2522 (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2528 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "มาตรา 70 บริษัทใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 10 มาตรา 12 มาตรา 14 วรรคหนึ่ง มาตรา 15 มาตรา 17 มาตรา 18 มาตรา 19 มาตรา 20 มาตรา 21 มาตรา 22 ทวิมาตรา 23 วรรคหนึ่ง วรรคสอง หรือวรรคสาม มาตรา 23 ทวิ วรรคหนึ่ง มาตรา 24 มาตรา 25 มาตรา 26 ทวิ วรรคหนึ่ง หรือวรรคสี่ มาตรา 26 ตรี วรรคหนึ่ง มาตรา 27 มาตรา 28 มาตรา 29 วรรคหนึ่ง มาตรา 30 วรรคหนึ่ง หรือวรรคสอง มาตรา 31 มาตรา 32 มาตรา 34 มาตรา 35 วรรคหนึ่ง มาตรา 37 มาตรา 51 มาตรา 53 มาตรา 54 มาตรา 55 หรือฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม เงื่อนไขหรือคำสั่งที่กำหนดตามมาตรา 9 คี่ 10 มาตรา 20 (1) (2) (4) (5) (6) (8)หรือ (11) มาตรา 22 ตรี มาตรา 23 ทวิ มาตรา 26 ทวิ วรรคหนึ่ง หรือวรรคสอง มาตรา 26 ตรี วรรคสอง มาตรา 26 จัตวา มาตรา 29 วรรคสาม หรือวรรคสี่ มาตรา 29 ทวิ มาตรา 35 วรรคหนึ่ง หรือวรรคสี่ มาตรา 37 มาตรา 54 (1) (4) (5) (6) (8) หรือ (9) มาตรา 55 มาตรา 57 มาตรา 57 ทวิ มาตรา 57 ตรี หรือมาตรา 65 หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือ เงื่อนไขในกฎกระทรวงตามมาตรา 7 วรรคสาม ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทและปรับอีกไม่ เกินวันละสามพันบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่หรือจนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง"
มาตรา 11 ให้ยกเลิกความในมาตรา 71 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจ หลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ.2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ.2522 พ.ศ.2526 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "มาตรา 71 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 11 หรือมาตรา 50 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงห้าปีและ ปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงห้าแสนบาท และปรับอีกไม่เกินวันละหนึ่งหมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่"
มาตรา 12 ให้ยกเลิกความในมาตรา 72 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจ หลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ.2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ.2522 (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2528 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "มาตรา 72 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 10 ทวิ มาตรา 13 หรือมาตรา 52 หรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ กำหนดตามมาตรา 10 ทวิ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสามปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึง สามแสนบาท และปรับอีกไม่เกินวันละสองพันบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่"
มาตรา 13 ให้ยกเลิกความในมาตรา 75 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจ หลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ.2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มโดยพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ.2522 พ.ศ. 2526 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "มาตรา 75 ในกรณีที่บริษัทใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 10 มาตรา 14 วรรคหนึ่งมาตรา 22 ทวิ มาตรา 23 วรรคหนึ่ง วรรคสอง หรือวรรคสาม มาตรา 24 มาตรา 25 มาตรา 37 หรือ มาตรา 53 กรรมการ หรือผู้จัดการของบริษัทนั้น หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของบริษัท นั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินสามแสนบาท เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนมิได้มีส่วน ในการกระทำความผิดของบริษัทนั้นด้วย ในกรณีที่บริษัทใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 20 มาตรา 23 ทวิ มาตรา 26 ทวิ วรรคหนึ่ง หรือวรรคสี่ มาตรา 26 ตรี วรรคหนึ่ง มาตรา 28 มาตรา 29 วรรคหนึ่ง มาตรา 30 วรรคหนึ่ง หรือวรรคสอง มาตรา 32 มาตรา 35 วรรคหนึ่ง มาตรา 20 (1) (2) (4) (6) หรือ (11) มาตรา 22 ตรี มาตรา 23 ทวิ มาตรา 26 วรรคสอง มาตรา 26 ทวิ วรรคหนึ่ง หรือวรรคสอง มาตรา 29 วรรคสาม หรือวรรคสี่ มาตรา 29 ทวิ มาตรา 35 มาตรา 54 (1) (4) (5) (6) หรือ (9) มาตรา 55 หรือมาตรา 57 วรรคหนึ่ง หรือวรรคสอง กรรมการหรือผู้จัดการของบริษัทนั้น หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของบริษัทนั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงห้าปี และ ปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงห้าแสนบาทเว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนมิได้มีส่วนในการกระทำความผิดของบริษัท นั้นด้วย" ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อานันท์ ปันยารชุน นายกรัฐมนตรี |
หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ในปัจจุบันการควบคุม ดูแลเรื่องตลาดทุนและธุรกิจเกี่ยวกับหลักทรัพย์อยู่ภายใต้กฎหมายหลายฉบับ ทางราชการจึงได้ตรา พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ขึ้นใช้บังคับ เพื่อรวบรวมบทบัญญัติครอบคลุมถึง การประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ซึ่งในขณะนี้อยู่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ.2522 สมควรยกเลิกบทบัญญัติในเรื่องดังกล่าวเพื่อ มิให้ซ้ำซ้อนกัน จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ ( ร.จ. เล่ม 109 ตอนที่ 43 หน้า 1 วันที่ 8 เมษายน 2535) |