พระราชบัญญัติ
                          การผังเมือง (ฉบับที่ 3)
                              พ.ศ. 2535
   ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
                 ให้ไว้ ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535
                      เป็นปีที่  47 ในรัชกาลปัจจุบัน
   พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ประกาศว่า
   โดยที่เป็นการสทควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง
   จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของ
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทำหน้าที่รัฐสภา ดังต่อไปนี้

   มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติการผังเมือง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535"

   มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

   มาตรา 3 ให้ยกเลิกความในมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติการผังเมืองพ.ศ. 2518 และให้ใช้
ความต่อไปนี้แทน
   "มาตรา 19 เมื่อสำนักผังเมืองจะวางหรือจัดทำผังเมืองรวมของท้องที่ใด ให้สำนักผังเมืองแจ้งให้
เจ้าพนักงานท้องถิ่นของท้องที่นั้นทราบ และให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นนั้นมาแสดงความคิดเห็นต่อสำนัก
ผังเมืองด้วย
   ในการวางและจัดทำผังเมืองรวมใด ให้สำนักผังเมืองหรือเจ้าพนักงานท้องถิ่นแล้วแต่กรณีจัดให้มี
การโฆษณาให้ประชาชนทราบ แล้วจัดการประชุมไม่น้อยกว่าหนึ่งครั้ง เพื่อรับฟังข้อคิดเห็นของประชาชน
ในท้องที่ที่จะมีการวางและจัดทำผังเมืองรวมนั้น ในการรับฟังข้อคิดเห็นนี้จะกำหนดเฉพาะให้ผู้แทนของ
ประชาชนเข้าร่วมการประชุมตามความเหมาะสมก็ได้ หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการโฆษณา
การประชุม และการแสดงข้อคิดเห็น ให้กำหนดโดยกฎกระทรวง"

   มาตรา 4 ให้ยกเลิกความในมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติการผังเมืองพ.ศ. 2518 และให้ใช้
ความต่อไปนี้แทน
   "มาตรา 21 เมื่อมีการวางและจัดทำยังเมืองรวมขึ้นไนท้องที่ของจังหวัดใดให้ผู้ว่าราชการจังหวัด
แห่งจังหวัดนั้นแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาผังเมืองรวมขึ้นคณะหนึ่งในแต่ละท้องที่ที่วางผังเมืองรวมนั้น ประกอบ
ด้วยผู้แทนองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ผู้แทนสำนักผังเมือง ผู้แทนส่วนราชการต่าง ๆ ในท้องที่ที่วาง
ผังเมืองรวมนั้น และบุคคลอื่นที่เห็นสมควร มีจำนวนรวมทั้งสิ้นไม่น้อยกว่าสิบห้าคนและไม่เกินยี่สิบเอ็ดคน
มีหน้าที่ให้คำปรึกษาและความคิดเห็นเกี่ยวกับผังเมืองรวมที่สำนักผังเมืองหรือเจ้าพนักงานท้องถิ่นวาง
และจัดทำขึ้น
   ในกรณีที่เป็นการวางและจัดทำผังเมืองรวมขึ้นในท้องที่คาบเกี่ยวกันตั้งแต่สองจังหวัดขึ้นไปให้
คณะกรรมการผังเมืองเป็นผู้แต่งตั้งคณะที่ปรึกษาผังเมืองรวม
   ให้รัฐมนตรีวางระเบียบเกี่ยวกับการแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาผังเมืองรวมและการปฏิบัติหน้าที่ของ
คณะที่ปรึกษาผังเมืองรวมดังกล่าว
   ให้นำบทบัญญัติว่าด้วยการประชุมในหมวด 1 มาใช้บังคับแก่การประชุมของคณะที่ปรึกษาผังเมืองรวม
โดยอนุโลม

   มาตรา 5 ให้ยกเลิกความในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. 2518 และให้ใช้
ความต่อไปนี้แทน
   "มาตรา 26 การใช้บังคับผังเมืองรวมให้กระทำโดยกฎกระทรวง
   กฎกระทรวงตามวรรคหนึ่งต้องมีรายการตามมาตรา 17 และให้ใช้บังคับได้ไม่เกินห้าปี
   ในระหว่างที่กฎกระทรวงตามวรรคหนึ่งให้บังคับ ถ้าสำนักผังเมืองหรือเจ้าพนักงานท้องถิ่น
เห็นสมควร จะกำหนดให้แก้ไขปรับปรุงผังเมืองรวมเสียใหม่ให้เหมาะสมกับสภาพการณ์และสิ่งแวดล้อมที่
เปลี่ยนแปลงไป หรือเพื่อประโยชน์แห่งรัฐก็ได้ โดยให้นำความในมาตรา 22 มาตรา 23 มาตรา 24
และมาตรา 25 มาให้บังคับโดยอนุโลม
   ภายในหนึ่งปีก่อนระยะเวลาการใช้บังคับกฎกระทรวงตามวรรคหนึ่งสิ้นสุดลง ให้สำนักผังเมืองหรือ
เจ้าพนักงานท้องถิ่น แล้วแต่กรณี สำรวจว่าสภาพการณ์และสิ่งแวดล้อมในการใช้ผังเมืองรวมดังกล่าวมร
การเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ ถ้าเห็นว่าสภาพการณ์และสิ่งแวดล้อมไม่มีการเปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญ ให้
สำนักผังเมืองหรือเจ้าพนักงานท้องถิ่น แล้วแต่กรณี จัดให้มีการประชุมเพื่อรับพึงความคิดเห็นของ
ประชาชนในท้องที่ที่ใช้บังคับผังเมืองรวมนั้นตามมาตรา19 วรรคสอง และถ้าไม่มีผู้ใดคัดคร้าน ก็ให้
สำนักผังเมืองหรือเจ้าพนักงานท้องถิ่น โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการผังเมืองขยายระยะเวลา
การใช้บังคับกฎกระทรวงตามวรรคหนึ่งได้อีกห้าปี แต่ในกรณีที่เห็นว่าสภาพการณ์และสิ่งแวดล้อมมีการ
เปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญ ก็ให้สำนักผังเมืองหรือเจ้าพนักงานท้องถิ่นดำเนินการแก้ไขปรับปรุงผังเมือง
รวมเสียใหม่ให้เหมาะสมได้
   ในกรณีที่ไม่อาจดำเนินการแก้ไขผังเมืองรวมได้ทันภายในระยะเวลาที่กฎกระทรวงตามวรรคหนึ่งใช้
บังคับ ให้สำนักผังเมืองหรือเจ้าพนักงานท้องถิ่นโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการผังเมืองขยาย
ระยะเวลาการใช้บังคับกฎกระทรวงตาววรรคหนึ่งได้อีกสองครั้งครั้งละไม่เกินหนึ่งปี
   การขอขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวมตามวรรคห้า ให้กระทำโดยกฎกระทรวง"

   มาตรา 6 ให้ยกเลิกความในมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติการผังเมืองพ.ศ. 2518 และให้ใช้
ความต่อไปนี้แทน
   "มาตรา 29 เมื่อได้มีกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ณท้องที่ใดแล้ว ถ้าเจ้าพนักงานท้องถิ่น
ของท้องที่นั้นเห็นสมควรจะจัดให้มีการวางและจัดทำผังเมืองเฉพาะขึ้น หรือจะขอให้สำนักผังเมืองเป็นผู้
วางและจัดทำผังเมืองเฉพาะก็ได้ ผังเมืองเฉพาะจะต้องสอดคล้องกับผังเมืองรวม
   ถ้าท้องที่ใดยังไม่มีกฎกระทรวงให้ใช้บังคับเมืองรวม รัฐมนตรี จะสั่งให้สำนักผังเมืองหรือ
เจ้าพนักงานท้องถิ่นวางและจัดทำผังเมืองเฉพาะก็ได้
   ในกรณีเจ้าพนักงานท้องถิ่นวางและจัดทำผังเมืองเฉพาะ ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นเสนอหลักการที่จะ
วางและจัดทำผังเมืองเฉพาะให้คณะกรรมการผังเมืองพิจารณาเห็นชอบก่อน ในการนี้เจ้าพนักงาน
ท้องถิ่นจะมาแสดงความคิดเห็นหรือขอคำแนะนำเกี่ยวกับการวางและจัดทำผังเมืองเฉพาะต่อสำนัก
ผังเมืองก็ได้"
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
อานันท์  ปันยานชุน
นายกรัฐมนตรี
   หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรเพิ่มบทบัญญัติให้
เจ้าพนักงานท้องถิ่นและสำนักผังเมืองสามารถแก้ไขปรับปรุงและขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมือง
รวม กับเพิ่มจำนวนและหน้าที่ของคณะที่ปรึกษาผังเมืองรวมให้มากขึ้นรวมทั้งแก้ไขบทบัญญัติเพื่อให้
เจ้าพนักงานท้องถิ่นสามารถให้ดุลพินิจในการวางและจัดทำผังเมืองเฉพาะได้อย่างเหมาะสม ทั้งนี้ เพื่อ
ให้การวาง จัดทำ และแก้ไขปรับปรุงผังเมืองรวมเป็นไปตามวัตถุประสงค์ตของการผังเมืองได้อย่าง
กว้างขวาง รวดเร็ว และสอดคล้องกับสภาพการณ์และสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป อันจะก่อให้เกิดผลดี
แก่การผังเมืองยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
(ร.จ. เล่ม 109 ตอนที่ 10  หน้า 1 วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2535)