พระราชบัญญัติ
                 ให้อำนาจทหารเรือปราบปรามการกระทำความผิด
                       บางอย่างทางทะเล (ฉบับที่ 4)
                               พ.ศ.2534
   ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
                    ให้ไว้ ณ วันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ.2534
                        เป็นปีที่ 46 ในรัชกาลปัจจุบัน
   พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้
ประกาศว่า
   โดยที่เป็นการสมควรให้มีกฎหมายว่าด้วยบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมขนาดย่อม
   จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของ
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้

   มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติให้อำนาจทหารเรือปราบปรามการและ
ทำความผิดบางอย่างทางทะเล (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2534"

   มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้น
ไป

   มาตรา 3 ให้ยกเลิกความในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติให้อำนาจทหารเรือปราบปราม
การกระทำความผิดบางอย่างทางทะเล พ.ศ. 2490 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติให้
อำนาจทหารเรือปราบปรามการกระทำความผิดบางอย่างทางทะเล (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2525
และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
   "มาตรา 4 เมื่อปรากฏว่ามีการกระทำหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการกระทำเกี่ยวกับการนำ
ข้าวหรือสินค้าอื่นหรือยาเสพติดออกไปนอกหรือเข้ามาในราชอาณาจักร หรือการที่คนต่างด้าวเข้า
มาหรือนำคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร ทั้งนี้ โดยทางทะเล ทางลำน้ำซึ่งติดต่อกับ
ต่างประเทศ หรือทางลำน้ำซึ่งออกไปสู่ทะเลได้ หรือทำการประมงทางทะเลอันเป็นความผิดต่อ
กฎหมายว่าด้วยการสำรวจและห้ามกักกันข้าว กฎหมายว่าด้วยการควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภค
และของอื่น ๆ ในภาวะคับขันกฎหมายว่าด้วยการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาใน
ราชอาณาจักรซึ่งสินค้า กฎหมายว่าด้วยแร่ กฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด กฎหมายว่าด้วย
คนเข้าเมือง หรือกฎหมายเกี่ยวกับการประมง  ให้เจ้าหน้าที่ทหารเรือมีอำนาจสืบสวนและ
สอบสวนได้ และมีอำนาจทำการหรือสั่งให้ทำการเฉพาะหน้าเท่าที่จำเป็นดังต่อไปนี้
      (1) ตรวจ ค้น และบังคับผู้ควบคุมเรือและคนประจำเรือให้รื้อหรือขนสิ่งของในเรือ
เพื่อการตรวจค้น
      (2) จับเรือ และบังคับผู้ควบคุมเรือและคนประจำเรือให้พ่วงเรือ หรือให้ทำการอื่น
เพื่อให้เรือนั้นไปยังที่ซึ่งสะดวกแก่การตรวจค้นการสอบสวน หรือการดำเนินคดี
      (3) ยึดเรือที่จับไว้จนกว่าจะมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องผู้ต้องหา หรือจนกว่าศาลจะมีคำสั่ง
เป็นอย่างอื่นในกรณีที่ฟ้องผู้ต้องหา
      (4) จับและควบคุมผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดไว้ได้ไม่เกินเจ็ดวัน เมื่อพ้นกำหนด
ต้องปล่อยหรือส่งตัวให้พนักงานสอบสวนพร้อมด้วยสำนวนการสอบสวนเท่าที่ทำไว้"
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลตำรวจเอก เภา สารสิน
รองนายกรัฐมนตรี
   หมายเหตุ:-เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้คือเนื่องจากปรากฏว่าใน
ปัจจุบันมีการลักลอบนำเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งยาเสพติดโดยทางทะเลและ
ทางลำน้ำซึ่งติดต่อกับต่างประเทศ หรือทางลำน้ำซึ่งออกไปสู่ทะเลได้และมีการลักลอบทำ
การประมงทางทะเลอยู่เสมอ เจ้าหน้าที่ทหารเรือตรวจพบก็ไม่มีอำนาจที่จะปราบปรามได้
เพราะเจ้าหน้าที่ทหารเรือมิได้เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด หรือ
กฎหมายเกี่ยวกับการประมงทางทะเลเมื่อเจ้าหน้าที่ทหารเรือตรวจพบและดำเนินการจับกุม ก็
ไม่มีอำนาจควบคุมตัวไว้สอบสวนและยึดเรือไว้ได้ ต้องนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตาม
กฎหมายโดยทันที สมควรให้อำนาจทหารเรือปราบปรามการกระทำความผิดการตามกฎหมาย
เกี่ยวกับยาเสพติดและกฎหมายเกี่ยวกับการประมงทางทะเลได้ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัติ
นี้
(ร.จ. เล่ม 108 ตอนที่ 240 หน้า 73 วันที่ 29 ธันวาคม 2534)