พระราชบัญญัติ โอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ ในท้องที่ตำบลน้ำตาล อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ของวัดโพธิ์ศรี ตำบลอินทร์บุรี อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. 2534 |
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2534 เป็นปีที่ 46 ในรัชกาลปัจจุบัน |
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ ในท้องที่ตำบลน้ำตาล อำเภอ อินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ของวัดโพธิ์ศรี ตำบลอินทร์บุรี อำเภออินทร์บุรีจังหวัดสิงห์บุรี ให้แก่กรมชลประทาน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติโอนกรรมสิทธ์ที่ธรณีสงฆ์ ในท้องที่ ตำบลน้ำตาล อำเภอ อินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ของวัดโพธิ์ศรี ตำบลอินทร์บุรี อำเภอ อินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. 2534"
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้โอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ ในท้องที่ตำบลน้ำตาล อำเภออินทร์บุรี จังหวัด สิงห์บุรี เนื้อที่ 3 ไร่ 3 งาน 50 ตารางวา ของวัดโพธิ์ศรี ตำบลอินทร์บุรี อำเภอ อินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชบัญญัตินี้ ให้แก่กรมชลประทาน
มาตรา 4 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อานันท์ ปันยารชุน นายกรัฐมนตรี |
หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากกรมชลประทานได้ ก่อสร้างถนนสายกระทุ่มปี่ - ทองเอน เพื่อประโยชน์แก่การชลประทานตามโครงการก่อสร้าง ทางชลประทานที่ 6 ที่ตำบลน้ำตาล อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี และได้ทำการสำรวจ แล้วปรากฏว่า แนวเขตถนนสายนี้ตอน กม.ที่ 1.200 ถูกที่ธรณีสงฆ์ ที่ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบล น้ำตาล อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ของวัดโพธิ์ศรี ตำบลอินทร์บุรี อำเภอ อินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี เนื้อที่ 3 งาน 50 ตารางวา ตามโฉนดที่ดิน เลขที่ 337 คณะกรรมการจัดซื้อและกำหนดค่าทดแทนทรัพย์สินเพื่อการชลประทาน จังหวัดสิงห์บุรีได้กำหนด ค่าผาติกรรมให้แล้ว กรมชลประทานจึงได้ติดต่อกับกรมการศาสนาเพื่อขอโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ ดังกล่าวให้แก่กรมชลประทานซึ่งกรมการศาสนาได้นำเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณาแล้วไม่ขัดข้อง และกรมชลประทานได้ชำระค่าผาติกรรมเป็นค่าทดแทนแล้ว สมควรโอนที่วัดดังกล่าวให้แก่ กรมชลประทาน จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ (ร.จ. เล่ม 108 ตอนที่ 226 หน้า 25 วันที่ 20 ธันวาคม 2534) |