พระราชบัญญัติ                   โอนกรรมสิทธิ์ที่วัด วัดแหลมฉบัง ตำบลทุ่งสุขลา                   อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ให้แก่การท่าเรือ                              แห่งประเทศไทย                               พ.ศ. 2534

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.                     ให้ไว้ ณ วันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2534                         เป็นปีที่  46 ในรัชกาลปัจจุบัน

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ ประกาศว่า    โดยที่เป็นการสมควรโอนกรรมสิทธิ์ที่วัด วัดแหลมฉบัง ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ให้แก่การท่าเรือแห่งประเทศไทย    จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้    มาตรา 1  พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า  "พระราชบัญญัติโอนกรรมสิทธิ์ที่วัด วัดแหลมฉบัง ตำบล ทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ให้แก่การท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2534"    มาตรา 2  พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป    มาตรา 3 ให้โอนกรรมสิทธิ์ที่วัด วัดแหลมฉบัง ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เนื้อที่ 49 ไร่ 1 งาน 39 ตารางวา ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชบัญญัติ นี้ ให้แก่การท่าเรือแห่งประเทศไทย    มาตรา 4  ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อานันท์  ปันยารชุน นายกรัฐมนตรี

หมายเหตุ:-เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากการท่าเรือแห่ง ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องใช้ที่ดินในท้องที่ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา และตำบล บางละมุง อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เพื่อก่อสร้างท่าเรือพาณิชย์แหลมฉบัง เพื่อประโยชน์ แก่กิจการขนส่งคนโดยสารและสินค้ารวมทั้งกิจการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อันเป็นกิจการ สาธารณูปโภค และได้ทำการสำรวจแล้ว ปรากฏว่า แนวเขตที่ดินที่ต้องใช้ก่อสร้างท่าเรือพาณิชย์ ดังกล่าว ถูกที่ธรณีสงฆ์ วัดแหลมฉบัง ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เนื้อที่ 49 ไร่ 1 งาน 39 ตารางวา ตามโฉนดที่ดินเลขที่ 14169 การท่าเรือแห่งประเทศไทย ได้กำหนดค่าผาติกรรมให้แล้ว และได้ติดต่อกับกรมการศาสนาเพื่อขอโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ ดังกล่าวให้แก่การท่าเรือแห่งประเทศไทย ซึ่งกรมการศาสนาได้นำเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณา แล้วไม่ขัดข้อง และการท่าเรือแห่งประเทศไทยได้ชำระค่าผาติกรรมเป็นค่าทดแทนแล้ว สมควร โอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ดังกล่าวให้แก่การท่าเรือแห่งประเทศไทย จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ (ร.จ. เล่ม 108 ตอนที่ 170 หน้าที่ 5 วันที่ 27 กันยายน 2534)