พระราชบัญญัติ โอนที่วัด วัดธรรมสังเวช ตำบลหัวไผ่ อำเภอเมืองสิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. 2533 |
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2533 เป็นปีที่ 45 ในรัชกาลปัจจุบัน |
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรโอนที่วัด วัดธรรมสังเวช ตำบลหัวไผ่ อำเภอเมืองสิงห์บุรี จังหวัด สิงห์บุรี ให้แก่กรมชลประทาน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของ รัฐสภา ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติโอนที่วัดวัดธรรมสังเวช ตำบลหัวไผ่ อำเภอเมืองสิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. 2533"
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้โอนที่วัด วัดธรรมสังเวช ตำบลหัวไผ่ อำเภอเมืองสิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี เนื้อที่ 3 งาน 8 ตารางวา ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชบัญญัตินี้ ให้แก่กรมชลประทาน
มาตรา 4 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ นายกรัฐมนตรี |
หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากกรมชลประทาน ได้ก่อสร้างคลองส่งน้ำสาย 3 ซ้าย เพื่อประโยชน์แก่การชลประทานตามโครงการมหาราช ที่ ตำบลหัวไผ่ อำเภอเมืองสิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี และได้ทำการสำรวจแล้วปรากฏว่า แนวเขต คลองส่งน้ำสายนี้ตอน กม. ที่ 18.500 ถูกที่วัด วัดธรรมสังเวช ตำบลหัวไผ่ อำเภอ เมืองสิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี เนื้อที่ 3 งาน 8 ตารางวา ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3) สารบบเลขที่ 13 คณะกรรมการจัดซื้อและกำหนดค่าทดแทนทรัพย์สินเพื่อการชลประทาน จังหวัดสิงห์บุรี ได้กำหนดค่าผาติกรรมให้แล้ว กรมชลประทานจึงได้ติดต่อกับกรมการศาสนา เพื่อ ขอโอนที่วัดดังกล่าวให้แก่กรมชลประทาน ซึ่งกรมการศาสนาได้นำเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณา แล้วไม่ขัดข้อง และกรมชลประทานได้ชำระค่าผาติกรรมเป็นค่าทดแทนแล้ว สมควรโอนที่วัด ดังกล่าวให้แก่กรมชลประทาน จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ (แผนที่ท้ายพระราชบัญญัตินี้ดูได้จาก ร.จ.เล่ม 107 ตอนที่ 218 หน้า 35 29 ตุลาคม 2533) |