พระราชบัญญัติ
                     โอนที่วัด วัดสระฉัททันต์
              ตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
                      ให้แก่กรมชลประทาน
                         พ.ศ. 2533
   ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
              ให้ไว้ ณ วันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2533
                   เป็นปีที่ 45 ในรัชกาลปัจจุบัน
   พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้
ประกาศว่า
   โดยที่เป็นการสมควรโอนที่วัด วัดสระฉัททันต์ ตำบลสันโป่งอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
ให้แก่กรมชลประทาน
   จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของ
รัฐสภา ดังต่อไปนี้

   มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติโอนที่วัดวัดสระฉัททันต์ ตำบลสันโป่ง
อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. 2533"

   มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เป็นต้นไป

   มาตรา 3 ให้โอนที่วัด วัดสระฉัททันต์ ตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เนื้อที่
2 ไร่ 2 งาน 36 ตารางวา ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชบัญญัตินี้ ให้แก่
กรมชลประทาน

   มาตรา 4 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ
นายกรัฐมนตรี
   หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากกรมชลประทาน
ได้ขุดคลองส่งน้ำสายใหญ่ เพื่อประโยชน์แก่การชลประทานตามโครงการแม่แตง ที่ตำบลสันโป่ง
อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ และได้ทำการสำรวจแล้วปรากฏว่า แนวเขตคลองส่งน้ำสายนี้
ตอน กม. ที่ 24.700 ถูกที่วัดวัดสระฉัททันต์ ตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
เนื้อที่ 2 ไร่2 งาน 36 ตารางวา ตามแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค. 1) เลขที่ 96
คณะกรรมการจัดซื้อและกำหนดค่าทดแทนทรัพย์สินเพื่อการชลประทานจังหวัดเชียงใหม่ได้กำหนด
ค่าผาติกรรมให้แล้ว กรมชลประทานจึงได้ติดต่อกับกรมการศาสนาเพื่อขอโอนที่วัดดังกล่าวให้แก่
กรมชลประทาน ซึ่งกรมการศาสนาได้นำเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณาแล้วไม่ขัดข้อง และ
กรมชลประทานได้ชำระค่าผาติกรรมเป็นค่าทดแทนแล้ว สมควรโอนที่วัดดังกล่าวให้แก่
กรมชลประทาน จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
(แผนที่ท้ายพระราชบัญญัตินี้ดูได้จาก ร.จ.เล่ม 107 ตอนที่ 218 หน้า 1
29 ตุลาคม 2533)