พระราชบัญญัติ           เงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของตุลาการ                      รัฐธรรมนูญ (ฉบับที่ 2)                          พ.ศ. 2533

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.                ให้ไว้ ณ วันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2533                    เป็นปีที่ 45 ในรัชกาลปัจจุบัน

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ ประกาศว่า    โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทน อย่างอื่นของตุลาการรัฐธรรมนูญ    จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของ รัฐสภา ดังต่อไปนี้    มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ ตอบแทนอย่างอื่นของตุลาการรัฐธรรมนูญ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2533"    มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป    มาตรา 3 ให้ยกเลิกความในมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ ตอบแทนอย่างอื่นของตุลาการรัฐธรรมนูญพ.ศ. 2523 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน    "มาตรา 3 ประธานตุลาการรัฐธรรมนูญให้ได้รับเงินประจำตำแหน่งเดือนละสองหมื่นบาท และตุลาการรัฐธรรมนูญให้ได้รับเงินประจำตำแหน่งเดือนละหนึ่งหมื่นห้าพันบาท ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ รัฐสภาแต่งตั้งตุลาการรัฐธรรมนูญจากผู้ทรงคุณวุฒิ"    มาตรา 4 ให้ผู้ดำรงตำแหน่งประธานตุลาการรัฐธรรมนูญและตุลาการรัฐธรรมนูญอยู่ในวันที่ พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ได้รับเงินประจำตำแหน่งตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 3 แห่ง พระราชบัญญัติเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของตุลาการรัฐธรรมนูญพ.ศ. 2523 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ตั้งแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ    มาตรา 5 ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ นายกรัฐมนตรี

หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากอัตรา เงินประจำตำแหน่งของประธานตุลาการรัฐธรรมนูญ และตุลาการรัฐธรรมนูญตามที่กำหนดไว้ใน มาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของ ตุลาการรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2523 ไม่เหมาะสมกับสถานภาพของตำแหน่ง สมควรปรับปรุงอัตรา เงินประจำตำแหน่งของประธานตุลาการรัฐธรรมนูญและตุลาการรัฐธรรมนูญเสียใหม่ จึงจำเป็น ต้องตราพระราชบัญญัตินี้ (ร.จ.เล่ม 107 ตอนที่ 165 หน้า 1  5 กันยายน 2533)