พระราชบัญญัติ
            แก้ไขเพิ่มเติมประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 103
             ลงวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2515 (ฉบับที่ 1)
                         พ.ศ. 2533
   ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
               ให้ไว้ ณ วันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2533
                   เป็นปีที่ 45 ในรัชกาลปัจจุบัน
   พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้
ประกาศว่า
   โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 103 ลงวันที่ 16 มีนาคม
พ.ศ. 2515
   จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของ
รัฐสภา ดังต่อไปนี้

   มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประกาศของคณะปฏิวัติ
ฉบับที่ 103 ลงวันที่ 16 มีนาคมพ.ศ. 2515 (ฉบับที่ 1) พ.ศ. 2533"

   มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เป็นต้นไป

   มาตรา 3 ให้ยกเลิกความในข้อ 3 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 103 ลงวันที่ 16
มีนาคม พ.ศ. 2515 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
           "ข้อ 3 ให้มีกองทุนเงินทดแทนในสำนักงานประกันสังคม เพื่อเป็นทุนให้มีการ
จ่ายเงินทดแทนแก่ลูกจ้างแทนนายจ้าง ในกรณีที่นายจ้างต้องจ่ายตามข้อ 2 (6) เฉพาะประเภท
และขนาดของกิจการในท้องที่ตามที่กระทรวงมหาดไทยกำหนด กองทุนเงินทดแทนให้ประกอบด้วย
เงินที่นายจ้างจ่ายสมทบ เงินอุดหนุนจากรัฐบาล เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้ และเงินรายได้
อื่น ๆ เงินดังกล่าวให้เป็นกรรมสิทธิ์ของสำนักงานประกันสังคมและไม่ต้องนำส่งกระทรวงการคลัง
           ให้มีสำนักงานกองทุนเงินทดแทนในสำนักงานประกันสังคมเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับ
กองทุนเงินทดแทน และให้มีคณะกรรมการเรียกว่า คณะกรรมการกองทุนเงินทดแทน ประกอบ
ด้วยเลขาธิการสำนักงานประกันสังคมเป็นประธานกรรมการและกรรมการอื่นซึ่งรัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงมหาดไทยแต่งตั้งมีจำนวนไม่น้อยกว่าสี่คนแต่ไม่เกินแปดคน ซึ่งต้องมีผู้แทนฝ่ายนายจ้าง
และฝ่ายลูกจ้างอยู่ด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้คำปรึกษาแก่กระทรวงมหาดไทยถึงประเภทของกิจการที่ควร
ให้นายจ้างจ่ายเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนและอัตราที่จะต้องจ่าย
           ให้กระทรวงมหาดไทยมีอำนาจกำหนดอัตราเงินสมทบไม่เกินร้อยละสิบของค่าจ้าง
ที่นายจ้างจ่ายแต่ละปี อัตราเงินฝากไม่เกินร้อยละยี่สิบห้าของเงินสมทบแต่ละปี ตลอดจนวิธีการ
เรียกเก็บเงินดังกล่าวจากนายจ้าง และกำหนดการสิ้นสุดของกรรมการกองทุนเงินทดแทน
ระเบียบวิธีการอันจำเป็นเพื่อให้สำนักงานกองทุนเงินทดแทนดำเนินการตามวัตถุประสงค์รวมถึง
การอุทธรณ์คำสั่งหรือวินิจฉัยของสำนักงานกองทุนเงินทดแทน"

   มาตรา 4 ให้ยกเลิกความในข้อ 10 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 103 ลงวันที่ 16
มีนาคม พ.ศ. 2515 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
           "ข้อ 10 ให้เลขาธิการสำนักงานประกันสังคมมีอำนาจออกคำสั่งเป็นหนังสือให้ยึด
อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ไม่จ่ายเงินสมทบและหรือเงินเพิ่ม
           วิธีการยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินดังกล่าวในวรรคหนึ่ง ให้ปฏิบัติตาม
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งโดยอนุโลม
           เงินที่ได้จากการขายทอดตลาดดังกล่าวแล้ว ให้หักไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการยึด
อายัด และขายทอดตลาด และชำระเงินสมทบและเงินเพิ่มที่ค้างจ่าย ถ้ามีเงินเหลือให้คืนแก่
เจ้าของทรัพย์สิน"

   มาตรา 5 ให้โอนกองทุนเงินทดแทนตามข้อ 3 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 103
ลงวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2515 ในกรมแรงงาน กระทรวงมหาดไทย รวมตลอดถึงสิทธิ หน้าที่
และความผูกพันต่าง ๆ ที่กองทุนดังกล่าวมีอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับไปเป็นของ
สำนักงานประกันสังคม กระทรวงมหาดไทย

   มาตรา 6 ให้โอนบรรดาอำนาจหน้าที่ของกรมแรงงาน กระทรวงมหาดไทย และของ
เจ้าหน้าที่ของกรมแรงงาน กระทรวงมหาดไทยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับสำนักงานกองทุน
เงินทดแทนและงานกองทุนเงินทดแทนในสำนักงานแรงงานจังหวัด ไปเป็นของสำนักงาน
ประกันสังคม กระทรวงมหาดไทย หรือของเจ้าหน้าที่ของสำนักงานประกันสังคมกระทรวง
มหาดไทย แล้วแต่กรณี

   มาตรา 7 ให้โอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้ ข้าราชการลูกจ้าง และเงินงบประมาณ
ของกรมแรงงาน กระทรวงมหาดไทยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับสำนักงานกองทุนเงินทดแทนและ
งานกองทุนเงินทดแทนในสำนักงานแรงงานจังหวัด ไปเป็นของสำนักงานประกันสังคม
กระทรวงมหาดไทย

   มาตรา 8 บทบัญญัติแห่งกฎหมาย ประกาศ ข้อกำหนดระเบียบหรือคำสั่งใดในส่วนที่เกี่ยวกับ
กองทุนเงินทดแทนหรือที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 103 ลงวันที่ 16
มีนาคม พ.ศ. 2515 ที่อ้างถึงสำนักงานกองทุนเงินทดแทนในกรมแรงงาน หรือกรมแรงงาน
กระทรวงมหาดไทย หรืออ้างถึงอธิบดีกรมแรงงาน ให้ถือว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ประกาศ
ข้อกำหนดระเบียบหรือคำสั่งนั้น อ้างถึงสำนักงานกองทุนเงินทดแทนในสำนักงานประกันสังคม
หรือสำนักงานประกันสังคม กระทรวงมหาดไทย หรืออ้างถึงเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม
แล้วแต่กรณี

   มาตรา 9 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ
นายกรัฐมนตรี
   หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากได้มีกฎหมาย
จัดตั้งสำนักงานประกันสังคมขึ้นในกระทรวงมหาดไทยเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับโครงการ
ประกันสังคม และโดยที่กองทุนเงินทดแทนตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 103 ลงวันที่ 16
มีนาคม พ.ศ. 2515 ข้อ 3 ของกรมแรงงานกระทรวงมหาดไทย เป็นการประกันประเภทหนึ่ง
ของโครงการประกันสังคมสมควรแก้ไขประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 103 ลงวันที่ 16 มีนาคม
พ.ศ. 2515 โดยโอนกองทุนเงินทดแทนในกรมแรงงาน กระทรวงมหาดไทย และโอนบรรดา
อำนาจหน้าที่ของกรมแรงงาน กระทรวงมหาดไทย และของเจ้าหน้าที่ของกรมแรงงาน
กระทรวงมหาดไทย เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับสำนักงานกองทุนเงินทดแทนและงาน
กองทุนเงินทดแทนในสำนักงานแรงงานจังหวัด ตลอดจนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้
ข้าราชการ ลูกจ้าง และเงินงบประมาณของกรมแรงงาน กระทรวงมหาดไทย เฉพาะในส่วนที่
เกี่ยวกับสำนักงานกองทุนเงินทดแทนและงานกองทุนเงินทดแทนในสำนักงานแรงงานจังหวัด ไป
เป็นของสำนักงานประกันสังคม กระทรวงมหาดไทย จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
(ร.จ.เล่ม 107 ตอนที่ 163 หน้า 11  2 กันยายน 2533)