พระราชบัญญัติ
            แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 10)
                         พ.ศ. 2532
   ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
               ให้ไว้ ณ วันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2532
                   เป็นปีที่ 44 ในรัชกาลปัจจุบัน
   พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ
ให้ประกาศว่า
   โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา
   จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอม
ของรัฐสภา ดังต่อไปนี้

   มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา
(ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2532"

   มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เป็นต้นไป

   มาตรา 3 ให้ยกเลิกความในวรรคสองของมาตรา 56 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
      "เงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติของผู้กระทำความผิดนั้น ศาลอาจกำหนดข้อเดียว
หรือหลายข้อ ดังต่อไปนี้
      (1) ให้ไปรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานที่ศาลระบุไว้เป็นครั้งคราว เพื่อ
เจ้าพนักงานจะได้สอบถาม แนะนำ ช่วยเหลือ หรือตักเตือนตามที่เห็นสมควรในเรื่อง
ความประพฤติและการประกอบอาชีพหรือจัดให้กระทำกิจกรรมบริการสังคมหรือ
สาธารณประโยชน์ตามที่เจ้าพนักงานและผู้กระทำความผิดเห็นสมควร
      (2) ให้ฝึกหัดหรือทำงานอาชีพอันเป็นกิจจะลักษณะ
      (3) ให้ละเว้นการคบหาสมาคมหรือการประพฤติใดอันอาจนำไปสู่การกระทำ
ความผิดในทำนองเดียวกันอีก
      (4) ให้ไปรับการบำบัดรักษาการติดยาเสพติดให้โทษความบกพร่องทางร่างกาย
หรือจิตใจ หรือความเจ็บป่วยอย่างอื่น ณ สถานที่และตามระยะเวลาที่ศาลกำหนด
      (5) เงื่อนไขอื่น ๆ ตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนดเพื่อแก้ไข ฟื้นฟู หรือป้องกันมิให้
ผู้กระทำความผิดกระทำหรือมีโอกาสกระทำความผิดขึ้นอีก"

   มาตรา 4 ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของมาตรา 58 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
   "มาตรา 58 เมื่อความปรากฏแก่ศาลเอง หรือความปรากฏตามคำแถลงของโจทก์
หรือเจ้าพนักงานว่า ภายในเวลาที่ศาลกำหนดตามมาตรา 56 ผู้ที่ถูกศาลพิพากษาได้
กระทำความผิดอันมิใช่ความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ และศาล
พิพากษาให้ลงโทษจำคุกสำหรับความผิดนั้น ให้ศาลที่พิพากษาคดีหลังกำหนดโทษที่รอการ
กำหนดไว้ในคดีก่อนบวกเข้ากับโทษคดีหลัง หรือบวกโทษที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนเข้า
กับโทษในคดีหลัง แล้วแต่กรณี"
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ
นายกรัฐมนตรี
   หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้คือ โดยที่การกำหนด
เงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติของผู้กระทำความผิดที่ศาลพิพากษาให้รอการกำหนดโทษไว้
หรือรอการลงโทษไว้ตามประมวลกฎหมายอาญาในปัจจุบันนั้นยังไม่เหมาะสมแก่การแก้ไข
ให้ผู้กระทำความผิดนั้นกลับตัวได้อย่างได้ผลดีสมควรปรับปรุงเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติ
ของผู้กระทำความผิดในกรณีดังกล่าวให้มีขอบเขตกว้างขวางขึ้น เพื่อที่ศาลจะสามารถใช้
ดุลพินิจได้โดยเหมาะสมแก่กรณี นอกจากนี้เพื่อให้บทบัญญัติของประมวลกฎหมายอาญาที่
กำหนดให้นำโทษของผู้กระทำความผิดที่ถูกคุมความประพฤติในคดีที่รอการกำหนดโทษไว้
หรือรอการลงโทษไว้ในคดีก่อนมาบวกเข้ากับโทษในคดีหลังของผู้กระทำความผิดผู้นั้นด้วย
บังเกิดผลในการใช้บังคับตามความประสงค์อย่างแท้จริง สมควรกำหนดให้ศาลนำโทษที่รอ
ไว้ดังกล่าวมาบวกกับโทษในคดีหลัง โดยให้ศาลกระทำได้ไม่ว่าเมื่อความปรากฏแก่ศาล
เอง หรือความปรากฏตามคำแถลงของพนักงานอัยการหรือพนักงานควบคุมความประพฤติ
จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
(ร.จ.เล่ม 106 ตอนที่ 127 หน้า 1 11 สิงหาคม 2532)