พระราชบัญญัติ
                โอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ วัดจันทาราม
             ตำบลบ้านทาน อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี
                      ให้แก่กรมชลประทาน
                         พ.ศ. 2531
   ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
              ให้ไว้ ณ วันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2531
                   เป็นปีที่ 43 ในรัชกาลปัจจุบัน
   พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้
ประกาศว่า
   โดยที่เป็นการสมควรโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ วัดจันทาราม ตำบลบ้านทาน อำเภอบ้านลาด
จังหวัดเพชรบุรี ให้แก่กรมชลประทาน
   จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของ
รัฐสภา ดังต่อไปนี้

   มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ วัดจันทาราม
ตำบลบ้านทาน อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. 2531"

   มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เป็นต้นไป

   มาตรา 3 ให้โอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ วัดจันทาราม ตำบลบ้านทาน อำเภอบ้านลาด จังหวัด
เพชรบุรี จำนวน 2 แปลง คือ แปลงที่ 1 เนื้อที่ 4 ไร่ 30 ตารางวา และแปลงที่ 2 เนื้อที่
2 ไร่ 2 งาน 5 ตารางวา รวมเนื้อที่ 6 ไร่ 2 งาน 35 ตารางวา ภายในแนวเขตตามแผนที่
ท้ายพระราชบัญญัตินี้ ให้แก่กรมชลประทาน

   มาตรา 4 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลตรี ชาติชาย ชุณหะวัณ
นายกรัฐมนตรี
   หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากกรมชลประทานได้
ก่อสร้างพนังสาย 8 บ้านทาน เพื่อประโยชน์แก่การชลประทานตามโครงการก่อสร้างทาง
ชลประทานที่ 11 ที่ตำบลบ้านทาน อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี และได้ทำการสำรวจแล้ว
ปรากฏว่า แนวเขตพนังสายนี้ ตอน กม. ที่ 3.000 ถูกที่ธรณีสงฆ์ วัดจันทาราม ตำบลบ้านทาน
อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี จำนวน 2 แปลง รวมเนื้อที่ 6 ไร่ 2 งาน 35 ตารางวา
ตามโฉนดที่ดินเลขที่ 18390 และเลขที่ 16727 คณะกรรมการจัดซื้อและกำหนดค่าทดแทน
ทรัพย์สินเพื่อการชลประทานจังหวัดเพชรบุรีได้กำหนดค่าผาติกรรมให้แล้ว กรมชลประทานจึงได้
ติดต่อกับกรมการศาสนาเพื่อขอโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ดังกล่าวให้แก่กรมชลประทาน ซึ่ง
กรมการศาสนาได้นำเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณาแล้วไม่ขัดข้อง และกรมชลประทานได้ชำระ
ค่าผาติกรรมเป็นค่าทดแทนแล้วสมควรโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ดังกล่าวให้แก่ กรมชลประทาน จึง
จำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
(แผนที่ท้ายพระราชบัญญัตินี้ดูได้จาก ร.จ. เล่ม 105 ตอนที่ 214 หน้า 37
14 ธันวาคม 2531)