พระราชบัญญัติ โอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ ในท้องที่ตำบลห้วยโป่ง อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ของวัดมาบตาพุด ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ให้แก่การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2531 |
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2531 เป็นปีที่ 43 ในรัชกาลปัจจุบัน |
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ ในท้องที่ตำบลห้วยโป่ง อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ของวัดมาบตาพุด ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ให้แก่ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของ รัฐสภา ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ ในท้องที่ตำบล ห้วยโป่ง อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ของวัดมาบตาพุด ตำบลมาบตาพุด อำเภอ เมืองระยอง จังหวัดระยอง ให้แก่การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2531"
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้โอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ ในท้องที่ตำบลห้วยโป่งอำเภอเมืองระยอง จังหวัด ระยอง เนื้อที่ 8 ไร่ 2 งาน 18 ตารางวาของวัดมาบตาพุด ตำบลมาบตาพุด อำเภอ เมืองระยอง จังหวัดระยองภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชบัญญัตินี้ ให้แก่ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
มาตรา 4 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลตรี ชาติชาย ชุณหะวัณ นายกรัฐมนตรี |
หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจาก การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดเพื่อส่งเสริมให้มี การลงทุนภายในประเทศมากขึ้น ตามโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก ที่ตำบล ห้วยโป่ง และตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยองจังหวัดระยอง และได้ทำการสำรวจแล้ว ปรากฏว่า แนวเขตของนิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้ถูกที่ธรณีสงฆ์ที่ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลห้วยโป่ง อำเภอ เมืองระยอง จังหวัดระยอง ของวัดมาบตาพุด ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จังหวัด ระยองเนื้อที่ 8 ไร่ 2 งาน 18 ตารางวา ตามโฉนดที่ดิน เลขที่ 12689 คณะกรรมการสำรวจ และประเมินราคาเพื่อการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้กำหนดค่าผาติกรรมให้แล้ว การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจึงได้ติดต่อกับกรมการศาสนาเพื่อขอโอนกรรมสิทธิ์ ที่ธรณีสงฆ์ดังกล่าวให้แก่การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งกรมการศาสนาได้นำเสนอ มหาเถรสมาคมพิจารณาแล้วไม่ขัดข้องและการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้ชำระ ค่าผาติกรรมเป็นค่าทดแทนแล้วสมควรโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ดังกล่าวให้แก่การนิคมอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ (แผนที่ท้ายพระราชบัญญัตินี้ดูได้จาก ร.จ. เล่ม 105 ตอนที่ 214 หน้า 1 14 ธันวาคม 2531) |