พระราชบัญญัติ องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2530 |
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2530 เป็นปีที่ 42 ในรัชกาลปัจจุบัน |
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของ รัฐสภา ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2530"
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (7) ของมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติองค์การโทรศัพท์ แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2497 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 284 ลงวันที่ 24 พฤศจิกายนพ.ศ. 2515 "(7) จัดทำ จัดพิมพ์ โฆษณา จำหน่าย หรือเผยแพร่รายชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ของผู้เช่า โทรศัพท์ขององค์การโทรศัพท์"
มาตรา 4 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 22 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติองค์การโทรศัพท์ แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2497 "มาตรา 22 ทวิ ให้องค์การโทรศัพท์มีสิทธิแต่ผู้เดียวในการจัดทำ จัดพิมพ์โฆษณา จำหน่าย หรือเผยแพร่รายชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ของผู้เช่าโทรศัพท์ขององค์การโทรศัพท์ ผู้ใดกระทำการตามวรรคหนึ่งโดยไม่ได้รับอนุญาตจากองค์การโทรศัพท์ ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ บทบัญญัติมาตรานี้มิให้ใช้ความแก่หน่วยงานของรัฐซึ่งจัดทำหรือจัดพิมพ์รายชื่อและหมายเลข โทรศัพท์ของผู้เช่าโทรศัพท์ขององค์การโทรศัพท์เพื่อใช้ในราชการ และเอกชน ซึ่งจัดทำหรือจัด พิมพ์รายชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ของผู้เช่าโทรศัพท์ขององค์การโทรศัพท์เพื่อใช้ในกิจการของตน" ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ป. ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรี |
หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่การจัดทำ จัดพิมพ์ โฆษณา จำหน่าย และเผยแพร่รายชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ของผู้เช่าโทรศัพท์เป็นสิ่งจำเป็นใน การให้บริการและการใช้บริการโทรศัพท์ในปัจจุบันและรายชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ของผู้เช่า โทรศัพท์ดังกล่าวย่อมต้องมีการจัดทำจัดพิมพ์ ฯลฯ เปลี่ยนแปลงและเพิ่มเติมอยู่เสมอ สมควร กำหนดให้กิจการดังกล่าวเป็นอำนาจและเป็นสิทธิขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยแต่ผู้เดียว จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ (ร.จ. เล่ม 104 ตอนที่ 254 หน้า 48 7 ธันวาคม 2530) |