พระราชบัญญัติ
                       ลูกเสือ (ฉบับที่ 4)
                         พ.ศ. 2530
   ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
              ให้ไว้ ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2530
                   เป็นปีที่ 42 ในรัชกาลปัจจุบัน
   พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้
ประกาศว่า
   โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยลูกเสือ
   จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของ
รัฐสภา ดังต่อไปนี้

   มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติลูกเสือ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2530"

   มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เป็นต้นไป

   มาตรา 3 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 49 ตรี และมาตรา49 จัตวา แห่งพระราชบัญญัติ
ลูกเสือ พ.ศ. 2507
   "มาตรา 49 ตรี ให้มีเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นสิริยิ่งรามกีรติลูกเสือสดุดีชั้นพิเศษ ไว้
สำหรับพระราชทานแก่ผู้ที่ได้รับพระราชทานเหรียญลูกเสือสดุดี ชั้นที่ 1 และได้มีอุปการคุณ
ช่วยเหลือกิจการลูกเสืออย่างต่อเนื่องมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นับแต่วันที่ได้รับพระราชทาน
เหรียญสดุดี ชั้นที่ 1

   มาตรา 49 จัตวา เครื่องราชอิสริยาภรณ์ตามมาตรา 49 ตรี เป็นดวงตรา ด้านหน้ามี
ลักษณะเป็นรูปไข่ พื้นลงยาสีน้ำเงิน ขนาดกว้าง 2.5 เซนติเมตร ยาว 3.3 เซนติเมตร กลาง
ดวงตรามีตราหน้าเสือประกอบวชิระเงินล้อมด้วยเม็ดไข่ปลาสีทองและมีรัศมีเงินโดยรอบแปดแฉก
คั่นด้วยกระจังสีทอง เบื้องบนมีพระมหามงกุฎรัศมีมีฉลุโปร่งและเลข "9" สีทอง ด้านหลังกลาง
ดวงตราเป็นดุม พื้นลงยาสีม่วง มีรูปตราของคณะลูกเสือโลก เบื้องล่างมีอักษรสีเงินว่า "เราจะ
ทำนุบำรุงกิจการลูกเสือสืบไป" ที่ขอบส่วนบนของดวงตรามีห่วงห้อยแพรแถบสำหรับคล้องคอขนาด
กลาง 4 เซนติเมตร มีริ้วสีเหลืองกว้าง 2.2 เซนติเมตร อยู่กลางริมทั้งสองข้างมีริ้วสีขาว
กว้าง 3 มิลลิเมตร และริ้วสีดำกว้าง 6 มิลลิเมตร"

   มาตรา 4 ให้ยกเลิกความในมาตรา 50 และมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติลูกเสือ พ.ศ.
2507 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
   "มาตรา 50 เมื่อคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติพิจารณาเห็นว่า ผู้ใดสมควรได้
รับพระราชทานเหรียญลูกเสือสรรเสริญ เหรียญลูกเสือสดุดี และเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นสิริ
ยิ่งรามกีรติ ลูกเสือสดุดีชั้นพิเศษ ให้นำความขึ้นกราบบังคมทูลขอรับพระราชทานต่อไป
   มาตรา 51 เหรียญลูกเสือสรรเสริญ เหรียญลูกเสือสดุดี และเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็น
สิริยิ่งรามกีรติ ลูกเสือสดุดีชั้นพิเศษพระราชทานให้เป็นกรรมสิทธิ์ เมื่อผู้ได้รับพระราชทาน
วายชนม์ให้ทายาทโดยธรรมรักษาไว้เป็นที่ระลึก"
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก ป. ติณสูลานนท์
นายกรัฐมนตรี
   หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องในโอกาศครบรอบ 75
ปี แห่งการที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทาน
กำเนิดกิจการลูกเสือไทย ใน พ.ศ. 2529 และเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบ
คณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติจึงขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตสร้าง
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นสิริยิ่งรามกีรติ ลูกเสือสดุดีชั้นพิเศษ สำหรับพระราชทานแก่ผู้ที่ได้
รับพระราชทานเหรียญลูกเสือสดุดีชั้นที่ 1 และได้มีอุปการคุณช่วยเหลือกิจการลูกเสืออย่างต่อ
เนื่องมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นับแต่วันที่ได้รับพระราชทานเหรียญลูกเสือสดุดีชั้นที่ 1 ทั้งนี้ เพื่อ
ส่งเสริมกำลังใจแก่ผู้อุทิศตนให้กิจการลูกเสืออย่างแท้จริง จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
(ร.จ. เล่ม 104 ตอนที่ 245 หน้า 1  30 พฤศจิกายน 2530)