พระราชบัญญัติ ควบคุมการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2530 |
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2530 เป็นปีที่ 42 ในรัชกาลปัจจุบัน |
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการประกอบโรคศิลปะ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของ รัฐสภา ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติควบคุมการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2530"
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ยกเลิกบทนิยามคำว่า "การประกอบโรคศิลปะแผนโบราณ" ในมาตรา 4 แห่ง พระราชบัญญัติควบคุมการประกอบโรคศิลปะ พุทธศักราช 2479 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งของ คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 38 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2519 และให้ใช้ความ ต่อไปนี้แทน ""การประกอบโรคศิลปะแผนโบราณ" หมายความว่าการประกอบโรคศิลปะแผนโบราณทั่วไป และการประกอบโรคศิลปะแผนโบราณแบบประยุกต์"
มาตรา 4 ให้เพิ่มบทนิยามคำว่า "การประกอบโรคศิลปะแผนโบราณทั่วไป" และ "การ ประกอบโรคศิลปะแผนโบราณแบบประยุกต์" ต่อจากบทนิยามคำว่า "การประกอบโรคศิลปะแผน โบราณ" ของมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมการประกอบโรคศิลปะ พุทธศักราช 2479 ซึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 38 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2519 ""การประกอบโรคศิลปะแผนโบราณทั่วไป" หมายความว่าการประกอบโรคศิลปะ แผนโบราณซึ่งศึกษาโดยอาศัยความรู้จากตำราหรือการเรียนสืบต่อกันมา อันมิใช่การศึกษาตาม หลักวิทยาศาสตร์ "การประกอบโรคศิลปะแผนโบราณแบบประยุกต์" หมายความว่า การประกอบ โรคศิลปะแผนโบราณซึ่งศึกษาโดยอาศัยหลักวิทยาศาสตร์ประกอบและไม่ใช้เครื่องมือทาง วิทยาศาสตร์การแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและรักษา นอกจากที่กำหนดให้ในกฎกระทรวง และเป็น การศึกษาจากสถานศึกษาที่คณะกรรมการควบคุมการประกอบโรคศิลปะรับรอง"
มาตรา 5 ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสามของมาตรา 6 แห่ง พระราชบัญญัติควบคุมการประกอบโรคศิลปะ พุทธศักราช 2479 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งของ คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 38 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2519 และให้ใช้ความ ต่อไปนี้แทน "มาตรา 6 ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียก "คณะกรรมการควบคุมการประกอบโรคศิลปะ" ประกอบด้วยปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน ผู้แทนกระทรวงกลาโหมสามคน ผู้แทน กระทรวงสาธารณสุขสี่คน ผู้แทนทบวงมหาวิทยาลัยสี่คน ผู้แทนแพทยสภาสองคน และผู้แทนสภา การพยาบาลสองคน เป็นกรรมการ และกรรมการซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ประกอบโรคศิลปะแผน ปัจจุบันสาขาทันตกรรม เภสัชกรรมกายภาพบำบัด เทคนิคการแพทย์ สาขาละสองคน ผู้ประกอบ โรคศิลปะแผนโบราณทั่วไปสองคน และผู้ประกอบโรคศิลปะแผนโบราณแบบประยุกต์สองคน ให้คณะกรรมการเลือกกรรมการคนใดคนหนึ่งเป็นรองประธาน กรรมการตามวรรคหนึ่งนอกจากประธาน ต้องเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะตามพระราชบัญญัติ หรือผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพเวชกรรม หรือเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ การพยาบาลหรือเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ หรือเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและ การผดุงครรภ์ตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ และให้อยู่ในตำแหน่ง คราวละสองปี กรรมการซึ่งพ้นจากตำแหน่งอาจได้รับแต่ตั้งอีกได้"
มาตรา 6 ให้ยกเลิกความใน (4) ของมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมการประกอบ โรคศิลปะ พุทธศักราช 2479 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับ ที่ 38 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2519 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "(4) สำหรับผู้ประกอบโรคศิลปะแผนโบราณ (ก) ผู้ประกอบโรคศิลปะแผนโบราณทั่วไปต้องเป็นผู้ซึ่งได้รับการอบรมศึกษาจาก ผู้ประกอบโรคศิลปะแผนโบราณซึ่งได้ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาตแล้วตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และ เงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง และคณะกรรมการควบคุมการประกอบโรคศิลปะได้สอบความรู้ เป็นที่พอใจแล้ว (ข) ผู้ประกอบโรคศิลปะแผนโบราณแบบประยุกต์ ต้องเป็นผู้ซึ่งได้รับการอบรม ศึกษาการประกอบโรคศิลปะแผนโบราณ โดยอาศัยหลักวิทยาศาสตร์ประกอบและไม่ใช้เครื่องมือ ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและรักษา นอกจากที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงจาก สถานศึกษาในประเทศไทยที่คณะกรรมการควบคุมการประกอบโรคศิลปะรับรองและได้รับ ประกาศนียบัตรหรือใบรับรองการศึกษาของสถานศึกษานั้น และคณะกรรมการควบคุมการประกอบ โรคศิลปะได้สอบความรู้เป็นที่พอใจแล้ว"
มาตรา 7 ให้ผู้ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะแผนโบราณตาม พระราชบัญญัติควบคุมการประกอบโรคศิลปะ พุทธศักราช 2479 อยู่แล้ว ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้ บังคับเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะแผนโบราณทั่วไปตามพระราชบัญญัติควบคุมการประกอบโรคศิลปะ พุทธศักราช 2479 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 8 ในระหว่างที่ยังมิได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการควบคุมประกอบโรคศิลปะ พุทธศักราช 2479 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ ให้คณะกรรมการควบคุมการประกอบ โรคศิลปะซึ่งได้รับแต่งตั้งอยู่แล้วก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะได้ แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นใหม่ ซึ่งต้องไม่เกินเก้าสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ในระหว่างที่ยังมิได้มีผู้ประกอบโรคศิลปะแผนโบราณแบบประยุกต์ที่จะได้รับแต่งตั้งให้เป็น กรรมการควบคุมการประกอบโรคศิลปะ ให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็น กรรมการแทน ซึ่งต้องไม่เกินหนึ่งปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
มาตรา 9 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พิชัย รัตตกุล รองนายกรัฐมนตรี |
หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากในปัจจุบันได้มี การศึกษาค้นคว้า และนำเอาหลักวิทยาศาสตร์มาใช้กับการประกอบโรคศิลปะแผนโบราณ จน ทำให้การประกอบโรคศิลปะแผนโบราณเจริญก้าวหน้าขึ้นมาก แต่พระราชบัญญัติควบคุมการ ประกอบโรคศิลป พุทธศักราช 2479 ซึ่งใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันกำหนดให้ผู้ประกอบโรคศิลปะแผน โบราณต้องเป็นผู้ได้รับการศึกษาอบรมจากผู้ประกอบโรคศิลปะแผนโบราณที่ได้ขึ้นทะเบียนและรับ อนุญาตแล้วตามกำหนดเวลา และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวงอันเป็นการจำกัดการศึกษา ค้นคว้าของผู้ประกอบโรคศิลปะแผนโบราณในอันที่จะนำวิทยาการสมัยใหม่มาส่งเสริมความรู้ ความสามารถในวิชาชีพนี้ สมควรกำหนดให้มีการประกอบโรคศิลปะแผนโบราณแบบประยุกต์ ซึ่ง ศึกษาโดยอาศัยหลักวิทยาศาสตร์ประกอบและไม่ใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์การแพทย์เพื่อ การวินิจฉัยและรักษานอกจากที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง พร้อมทั้งกำหนดความรู้ในวิชาชีพของผู้ ประกอบโรคศิลปะแผนโบราณเสียใหม่ตลอดจนแก้ไของค์ประกอบของคณะกรรมการควบคุมการ ประกอบโรคศิลปะให้สอดคล้องกัน จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ (ร.จ. เล่ม 104 ตอนที่ 220 หน้า 4 2 พฤศจิกายน 2530) |