พระราชบัญญัติ
                   โอนที่ธรณีสงฆ์ วัดศรีบุญเรือง
            ตำบลวังยาง อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร
                      ให้แก่กรมชลประทาน
                         พ.ศ. 2530
   ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
              ให้ไว้ ณ วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2530
                   เป็นปีที่ 42 ในรัชกาลปัจจุบัน
   พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้
ประกาศว่า
   โดยที่เป็นการสมควรโอนที่ธรณีสงฆ์ วัดศรีบุญเรือง ตำบลวังยาง อำเภอพรรณานิคม จังหวัด
สกลนคร ให้แก่กรมชลประทาน
   จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้ โดยคำแนะนำและยินยอมของ
รัฐสภา ดังต่อไปนี้

   มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติโอนที่ธรณีสงฆ์ วัดศรีบุญเรือง ตำบล
วังยาง อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. 2530"

   มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เป็นต้นไป

   มาตรา 3 ให้โอนที่ธรณีสงฆ์ วัดศรีบุญเรือง ตำบลวังยาง อำเภอพรรณานิคม จังหวัด
สกลนคร เนื้อที่ 6 ไร่ 20 ตารางวา ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชบัญญัตินี้ ให้แก่
กรมชลประทาน

   มาตรา 4 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก ป. ติณสูลานนท์
นายกรัฐมนตรี
   หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากกรมชลประทานได้
ขุดคลองส่งน้ำสายขวา - 7 ซ้าย - 1 ซ้าย เพื่อประโยชน์แก่การชลประทานตามโครงการ
น้ำอูน ที่ตำบลวังยาง อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร และได้ทำการสำรวจแล้วปรากฏว่า
แนวเขตคลองส่งน้ำสายนี้ตอนกม. ที่ 1.359 ถูกที่ธรณีสงฆ์ วัดศรีบุญเรือง ตำบลวังยาง อำเภอ
พรรณานิคมจังหวัดสกลนคร เนื้อที่ 6 ไร่ 20 ตารางวา ตาม น.ศ. 3 ก. เลขที่ 2266 ซึ่ง
คณะกรรมการจัดซื้อและกำหนดค่าทดแทนทรัพย์สินเพื่อการชลประทานจังหวัดสกลนคร ได้ชำระ
ค่าผาติกรรมเป็นค่าทดแทนแล้ว กรมชลประทานจึงได้ติดต่อกับกรมการศาสนาเพื่อขอโอน
ที่ธรณีสงฆ์ดังกล่าวให้แก่กรมชลประทาน และกรมการศาสนาได้นำเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณา
แล้วไม่ขัดข้อง สมควรโอนที่ธรณีสงฆ์ดังกล่าวให้แก่กรมชลประทาน จึงจำเป็นต้องตรา
พระราชบัญญัตินี้
(แผนที่ท้ายพระราชบัญญัตินี้ดูได้จาก ร.จ. เล่ม 104 ตอนที่ 153 หน้า 10
10 สิงหาคม 2530