พระราชบัญญัติ                   เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่ตำบลนาโฉง                     อำเภอเมืองสระบุรี  จังหวัดสระบุรี                              พ.ศ. 2529

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.                  ให้ไว้ ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2529                     เป็นปีที่ 41 ในรัชกาลปัจจุบัน

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ ประกาศว่า       โดยที่เป็นการสมควรให้เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่ตำบลนาโฉง อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี เพื่อประโยชน์ในการชลประทาน       จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของ รัฐสภา ดังต่อไปนี้       มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่ตำบล นาโฉง อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี พ.ศ. 2529"       มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป       มาตรา 3 ให้อธิบดีกรมชลประทานเป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ตามพระราชบัญญัตินี้       มาตรา 4 ให้เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่ตำบลนาโฉง อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรีภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชบัญญัตินี้ ซึ่งปรากฏรายชื่อเจ้าของหรือ ผู้ครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้ ให้แก่กรมชลประทาน       มาตรา 5 เงินค่าทดแทนที่ดินที่จะให้แก่เจ้าของหรือผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ที่ต้อง เวนคืน ให้จ่ายให้ในราคาไร่ละ 6,000 บาท       มาตรา 6 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ   พลเอก ป. ติณสูลานนท์      นายกรัฐมนตรี

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากกรมชลประทาน ได้ดำเนินการก่อสร้างการชลประทานโครงการสูบน้ำเสาไห้ ในท้องที่จังหวัดสระบุรี และจังหวัด พระนครศรีอยุธยา ปรากฏว่าในเขตคลองส่งน้ำสาย 2 ขวา ในท้องที่ตำบลนาโฉง อำเภอ เมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อและทำความตกลงกับราษฎรผู้เป็นเจ้าของ หรือผู้ครอบครองที่ดินที่ถูกเขตชลประทานเสร็จไปด้วยดีเกือบทุกราย ยกเว้นเจ้าของที่ดินจำนวน 6 ราย รวม 6 แปลง ที่ไม่ยินยอมรับเงินค่าทดแทนตามจำนวนที่คณะกรรมการจัดซื้อและกำหนด ค่าทดแทนทรัพย์สินที่ถูกเขตชลประทานกำหนดให้ และกรมชลประทานไม่อาจแก้ไขโครงการเป็น อย่างอื่นได้ จึงจำเป็นต้องทำการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ 6 รายนี้ นอกจากนั้น เนื่องจาก เจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินรายอื่นๆ ที่มีสภาพและทำเลเช่นเดียวกันนี้ได้ตกลงยอมรับ ค่าทดแทนในราคาไร่ละ 6,000 บาท ไปทุกรายแล้ว  ทำให้ต้องกำหนดค่าทดแทนที่ดินที่เวนคืนนี้ โดยมีบทบัญญัติไว้เป็นพิเศษ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้   (แผนที่ท้ายพระราชบัญญัตินี้ดูได้จาก ร.จ. เล่ม 103 ตอนที่ 222 หน้า 1 17 ธันวาคม 2529)