พระราชบัญญัติ วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2528 |
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2528 เป็นปีที่ 40 ในรัชกาลปัจจุบัน |
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา ดังต่อไปนี้
มาตรา1พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า"พระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2528"
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ยกเลิกความในมาตรา 67 แห่งพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "มาตรา 67 ภายใต้บังคับมาตรา 68 เภสัชกรจะขายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 3 หรือ ประเภท 4 ให้ได้ได้เฉพาะแก่กระทรวง ทบวง กรม สภากาชาดไทย องค์การเภสัชกรรม สถาบันอื่นของทางราชการตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ผู้ประกอบวิชาชีพ เวชกรรม ผู้ประกอบโรคศิลป์แผนปัจจุบันชั้นหนึ่งในสาขาทันตกรรม ผู้ประกอบการบำบัดโรคสัตว์ ชั้นหนึ่ง ผู้ที่มีใบสั่งยาของบุคคลดังกล่าวหรือผู้รับอนุญาตผลิต ขาย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่ง วัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 3 หรือประเภท 4 เท่านั้นและต้องลงบัญชีรายละเอียดการขายทุกครั้ง ตามแบบที่กำหนดในกฎกระทรวง ใบสั่งยาตามวรรคหนึ่งให้ใช้ได้ครั้งเดียว เว้นแต่ผู้สั่งจะได้กำหนดไว้ว่า ให้จ่ายซ้ำได้แต่รวมกันต้อง ไม่เกินสามครั้ง และจำนวนยาที่สั่งแต่ละครั้งต้องไม่เกินจำนวนที่จำเป็นต้องใช้ ภายในเวลาไม่เกิน สามสิบวัน ใบสั่งยาแต่ละฉบับให้ใช้ได้ไม่เกินเก้าสิบวัน นับแต่วันที่ออก"
มาตรา 4 ให้ยกเลิกความในมาตรา 80 แห่งพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "มาตรา 80 ในการนำเข้าซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 3 ผู้รับอนุญาตและพนักงานเจ้าหน้าที่ต้อง ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง"
มาตรา 5 ให้ยกเลิกความในมาตรา 82 แห่งพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "มาตรา 82 ในการส่งออกแต่ละคราวซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 3 ผู้รับอนุญาตต้องจัดให้มี สำเนาใบแจ้งการส่งออกไปพร้อมกับวัตถุออกฤทธิ์ที่ส่งออกนั้นหนึ่งฉบับ และให้ส่งตรงไปยังเลาธิการ อีกสองฉบับ ให้กระทรวงสาธารณสุขจัดส่งสำเนาใบแจ้งการส่งออกตามวรรคหนึ่งไปยังเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ ของประเทศผู้รับเข้าหนึ่งฉบับ"
มาตรา 6 ให้ยกเลิกความในมาตรา 104 แห่งพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "มาตรา 104 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 48 มาตรา 72 มาตรา 76 มาตรา 78 หรือมาตรา 84 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ป. ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรี |
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชบัญญัติ วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มีบทบัญญัติบางประการที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ตรงกับ ข้อเท็จจริง ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขพิจารณาแล้วเห็นควรแก้ไข คือ กำหนดให้เภสัชกรขายวัตถุออกฤทธิ์ ในประเภท 3 หรือประเภท 4 ให้แก่กระทรวง ทบวง กรม สภากาชาดไทย องค์การเภสัชกรรมสถาบัน อื่นของทางราชการตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ เพราะกระทรวง ทบวง กรม ฯลฯ มี ความจำเป็นที่จะต้องซื้อวัตถุออกฤทธิ์ดังกล่าวจากเอกชนและแก้ไขหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับ การนำเข้าซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 3 และเกี่ยวกับวิธีการส่งออกซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 3 เพื่อ ให้เกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติยิ่งขึ้น นอกจากนั้นได้แก้ไขเพิ่มเติมบทกำหนดโทษให้ถูกต้อง จึงจำเป็น ต้องตราพระราชบัญญัตินี้ (ร.จ. เล่ม 102 ตอนที่ 154 หน้า 4 24 ตุลาคม 2528) |