พระราชบัญญัติ สุสานและฌาปนสถาน พ.ศ. 2528 |
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2528 เป็นปีที่ 40 ในรัชกาลปัจจุบัน |
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการควบคุมสุสานและฌาปนสถาน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติสุสานและฌาปนสถาน พ.ศ. 2528"
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ยกเลิก (1) พระราชบัญญัติควบคุมสุสานและฌาปนสถาน พุทธศักราช 2481 (2) พระราชบัญญัติควบคุมสุสานและฌาปนสถาน (ฉบับที่ 2) พุทธศักราช 2484
มาตรา 4 ในพระราชบัญญัตินี้ "สุสานและฌาปนสถานสาธารณะ"หมายความว่าสถานที่ที่จัดไว้สำหรับเก็บฝัง หรือเผาศพ สำหรับประชาชนทั่วไปแต่ไม่รวมถึงสถานที่ที่ใช้สำหรับเก็บศพชั่วคราวในสถานพยาบาลตามกฎหมาย ว่าด้วยสถานพยาบาล "สุสานและฌาปนสถานเอกชน" หมายความว่าสถานที่ที่จัดไว้สำหรับเก็บ ฝัง หรือเผาศพ สำหรับตระกูลหรือครอบครัว หรือมิตรของตระกูลหรือครอบครัว แต่ไม่รวมถึงสถานที่ที่ใช้สำหรับ เก็บศพชั่วคราวในเคหสถาน "เจ้าพนักงานสาธารณสุข"หมายความว่าเจ้าพนักงานสาธารณสุขตามกฎหมายว่าด้วยสาธารณสุข ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพะราชบัญญัตินี้ "พนักงานเจ้าหน้าที่" หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ "เจ้าพนักงานท้องถิ่น" หมายความว่า (1)ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือผู้อำนวยการเขตหรือผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตซึ่ง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมอบหมาย สำหรับในเขตกรุงเทพมหานคร (2)ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือนายอำเภอหรือปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอซึ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดมอบหมายสำหรับในเขตจังหวัดซึ่งอยู่นอกเขตเทศบาลเขตสุขาภิบาล และเขตเมืองพัทยา (3)นายกเทศมนตรี หรือเทศมนตรีหรือพนักงานเทศบาลซึ่งนายกเทศมนตรีมอบหมายสำหรับ ในเขตเทศบาล (4) ประธานกรรมการสุขาภิบาลหรือกรรมการสุขาภิบาลหรือพนักงานสุขาภิบาลซึ่ง ประธานกรรมการสุขาภิบาลมอบหมาย สำหรับในเขตสุขาภิบาล (5) ปลัดเมืองพัทยา หรือพนักงานเมืองพัทยาซึ่งปลัดเมืองพัทยามอบหมายสำหรับในเขต เมืองพัทยา "รัฐมนตรี" หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา5พระราชบัญญัตินี้ไม่ใช้บังคับแก่สุสานและฌาปนสถานสาธารณะที่กระทรวง ทบวง กรม กรุงเทพมหานคร องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล สุขาภิบาล หรือเมืองพัทยา จัดตั้ง และดำเนินการ
มาตรา6ห้ามมิให้ผู้ใดจัดตั้งสุสานและฌาปนสถานสาธารณะหรือสุสานและฌาปนสถานเอกชน เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น การขออนุญาตและการอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา7 เมื่อได้จัดตั้งสุสานและฌาปนสถานสาธารณะหรือสุสานและฌาปนสถานเอกชนเสร็จ แล้ว ห้ามมิให้ดำเนินการ เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น การขออนุญาตและการอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง ผู้ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา 6 ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาจะขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ดำเนินการด้วยก็ได้
มาตรา 8 ผู้ขอรับใบอนุญาตตามมาตรา 6 หรือมาตรา 7 ต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้ (1) มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ (2) ไม่เป็นผู้มีความประพฤติเสื่อมเสียหรือบกพร่องในศีลธรรมอันดี (3) ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ (4) ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ (5)ไม่เป็นผู้เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกเว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิด ที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความคิดลหุโทษ ในกรณีที่นิติบุคคลเป็นผู้ขอรับใบอนุญาตตามมาตรา6ผู้แทนของนิติบุคคลนั้นต้องมีคุณสมบัติตาม วรรคหนึ่งด้วย
มาตรา9ผู้ได้รับใบอนุญาตตามารตรา6 หรือมาตรา 7 ต้องแสดงใบอนุญาตไว้ในที่เปิดเผย ณ ที่ทำการสุสานและฌาปนสถานสาธารณะหรือสุสานและฌาปนสถานเอกชน
มาตรา 10ห้ามมิให้ผู้ใดเก็บฝังหรือเผาศพในสถานที่อื่นนอกจากในสุสานและฌาปนสถาน สาธารณะหรือสุสานและฌาปนสถานเอกชนหรือเก็บศพในสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถาน พยาบาลหรือเคหสถานเป็นการชั่วคราวเว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น ในกรณีที่สถานที่อื่นตามวรรคหนึ่งอยู่ในเขตจังหวัดซึ่งอยู่นอกเขตเทศบาล เขตสุขาภาบาลหรือ เมืองพัทยาผู้ว่าราชการจังหวัดอาจมอบหมายให้เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองหรือกำนันแห่งท้องที่ เป็นผู้อนุญาตแทนได้
มาตรา11ให้กรุงเทพมหานครองค์การบริหารส่วนจังหวัดเทศบาล สุขาภิบาลเมืองพัทยามี อำนาจออกข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครข้อบัญญัติจังหวัด เทศบัญญัติ ข้อบังคับสุขาภิบาลหรือข้อบัญญัติเมือง พัทยา แล้วแต่กรณี เพื่อกำหนดรายละเอียดที่ไม่ขัดหรือแย้งกับกฎกระทรวงที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้ ในเรื่องดังต่อไปนี้ (1) ค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง (2) เขตหรือสถานที่ที่ห้ามมิให้จัดตั้งสุสานและฌาปนสถานสาธารณะหรือสุสานและฌาปนสถานเอกชน (3)ลักษณะสถานที่ตั้ง และเงื่อนไขในการจัดตั้งสุสานและฌาปนสถานสาธารณะหรือสุสานและ ฌาปนสถานเอกชน (4)วิธีเก็บ ฝัง เผา ขุด หรือย้ายศพ ตลอดจนการใช้หรือการรักษายานพาหนะและเครื่อง ใช้ในการนี้ให้ต้องด้วยสุขลักษณะ (5) หน้าที่ที่ผู้ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา6หรือมาตรา7 จะต้องปฏิบัติเกี่ยวกับการทะเบียน การส่งรายงานและการอื่นใดเพื่อประโยชน์เกี่ยวกับความมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศ ตลอดจน การสาธารณสุขและอนามัยของประชาชน
มาตรา12ใบอนุญาตตามมาตรา6และมาตรา7ให้ใช้ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม ของปี ที่สามนับแต่ปีที่ออกใบอนุญาตถ้าผู้ได้รับใบอนุญาตดังกล่าวประสงค์จะขอต่ออายุใบอนุญาต จะต้อง ยื่นคำขอก่อนใบอนุญาตสิ้นอายุเมื่อได้ยื่นคำขอแล้วให้บุคคลดังกล่าวเป็นผู้จัดตั้งหรือผู้ดำเนินการต่อ ไปได้จนกว่าเจ้าพนักงานท้องถิ่นจะสั่งเป็นหนังสือไม่อนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตนั้น การขอต่ออายุใบอนุญาตและการต่ออายุใบอนุญาตให้เป็นตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา13 ในกรณีที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นไม่ออกใบอนุญาตตามมาตรา 6 หรือมาตรา 7 หรือ ไม่ต่ออายุใบอนุญาตตามมาตรา12 ผู้ขอรับใบอนุญาตหรือผู้ขอต่ออายุใบอนุญาตมีสิทธิอุทธรณ์เป็น หนังสือต่อรัฐมนตรีภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ทราบคำสั่งไม่ออกใบอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ต่ออายุ ใบอนุญาตให้ต่อใบอนุญาตของเจ้าพนักงานท้องถิ่น คำวินิจฉัยของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด
มาตรา 14ห้ามมิให้ผู้ใดเปลี่ยนแปลงหรือต่อเติมสุสานและฌาปนสถานสาธารณะหรือสุสานและ ฌาปนสถานเอกชนเว้นแต่ผู้ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา6 จะเป็นผู้ขอและได้รับอนุญาตเป็นหนังสือ จากเจ้าพนักงานท้องถิ่นแล้ว
มาตรา15ในการปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานสาธารณสุขพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงาน ท้องถิ่นมีอำนาจเข้าไปในบริเวณสุสานและฌาปนสถานสาธารณะหรือสุสานและฌาปนสถานเอกชน ในเวลาระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตกเพื่อตรวจสอบหรือเพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตาม พระราชบัญญัตินี้ในการนี้ผู้ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา6หรือมาตรา7และผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งอยู่ ในบริเวณนั้น ต้องอำนวยความสะดวกตามสมควร ในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานสาธารณสุขหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามวรรคหนึ่งถ้าปรากฏ ว่าผู้ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา6หรือมาตรา 7 ปฏิบัติไม่ถูกต้องตามพระราชบัญญัตินี้ ให้เจ้าพนักงาน สาธารณสุขหรือพนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นทราบเพื่อสั่งให้ผู้ได้รับใบรับใบอนุญาต ปฏิบัติให้ถูกต้อง
มาตรา16เมื่อปรากฏว่าสุสานและฌาปนสถานสาธารณะหรือสุสานและฌาปนสถานเอกชนมี สภาพหรือมีการใช้ที่เป็นหรืออาจเป็นอันตรายแก่ประชาชนให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจสั่งให้ผู้ได้ รับใบอนุญาตตามมาตรา 6 แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงสุสานและฌาปนสถานนั้น ภายในเวลาที่กำหนด ในกรณีที่ผู้ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา6ไม่แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงสุสานและฌาปนสถานนั้นภายใน กำหนดเวลาตามวรรคหนึ่งให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงสุสานและฌาปนสถาน นั้นได้โดยเรียกค่าใช้จ่ายจากผู้ได้รับใบอนุญาต
มาตรา17 นอกจากกรณีตามมาตรา 16 เมื่อปรากฏว่าผู้ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา 6 หรือ มาตรา7ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามมาตรา 15 วรรคสอง หรือฝ่าฝืนหรือไม่ ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้กฎกระทรวงหรือข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร ข้อบัญญัติจังหวัด เทศบัญญัติข้อบังคับสุขาภิบาลหรือข้อบัญญัติเมืองพัทยาที่ออกตามมาตรา 11 เจ้าพนักงานท้องถิ่น มีอำนาจสั่งพักใช้ใบอนุญาตนั้นมีกำหนดเวลาตามที่เห็นสมควร แต่ต้องไม่เกินเก้าสิบวันนับแต่วันที่ สั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือจะสั่งเพิกถอนใบอนุญาตเสียก็ได้ทั้งนี้ผู้ถูกสั่งพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาต มีสิทธิอุทธรณ์เป็นหนังสือต่อรัฐมนตรีภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ทราบคำสั่ง คำวินิจฉัยของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด
มาตรา 18การอุทธรณ์ตามมาตรา13 หรือมาตรา 17 ให้ยื่นต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นเพื่อเสนอ ต่อไปยังรัฐมนตรีโดยมิชักช้า
มาตรา19ในกรณีอุทธรณ์คำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นซึ่งไม่อนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตตาม มาตรา13หรือกรณีอุทธรณ์คำสั่งพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตของเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามมาตรา 17ผู้อุทธรณ์ยังคงมีสิทธิเป็นผู้จัดตั้งหรือเป็นผู้ดำเนินการสุสานและฌาปนสถานสาธารณะหรือสุสาน และฌาปนสถานเอกชนในระหว่างรอคำวินิจฉัยของรัฐมนตรี
มาตรา 20ในกรณีใบอนุญาตตามมาตรา 6 หรือมาตรา 7 สูญหาย ถูกทำลายหรือชำรุดใน สาระสำคัญให้ผู้ได้รับใบอนุญาตยื่นคำขอรับใบแทนใบอนุญาตต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นภายในสิบห้า วันนับแต่วันที่ได้ทราบถึงการสูญหาย ถูกทำลายหรือชำรุด
มาตรา21ผู้ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา6ซึ่งประสงค์จะเลิกสุสานและฌาปนสถานสาธารณะ หรือสุสานและฌาปนสถานเอกชน ต้องแจ้งเป็นหนังสือให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นทราบล่วงหน้าไม่น้อย กว่าสิบห้าวัน
มาตรา22ในกรณีที่รัฐมนตรีมีคำวินิจฉัยยืนตามคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นซึ่งสั่งเพิกถอน ใบอนุญาตจัดตั้งสุสานและฌาปนสถานสาธารณะหรือสุสานและฌาปนสถานเอกชนตามมาตรา 17 หรือในกรณีที่ผู้ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา 6 เลิกสุสานและฌาปนสถานสาธารณหรือสุสานและฌาปนสถาน เอกชนตามมาตรา21ถ้ามีกิจการในหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ยังจะต้องกระทำอยู่ ให้ผู้ได้รับใบ อนุญาตนั้นกระทำกิจการในหน้าที่ให้เสร็จสิ้นภายในเวลาที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นกำหนด ถ้าผู้ได้รับใบอนุญาตไม่กระทำกิจการในหน้าที่ให้เสร็จสิ้นภายในกำหนดเวลาตามวรรคหนึ่งให้ เจ้าพนักงานท้องถิ่นเข้ากระทำกิจการนั้นแทนต่อไปจนเสร็จสิ้น โดยเรียกค่าใช้จ่ายจากผู้ได้รับ ใบอนุญาต
มาตรา23ในกรณีที่ผู้ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา6ตายหรือขาดคุณสมบัติตามมาตรา 8 ให้ผู้ ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา 7 แจ้งเป็นหนังสือให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นทราบและในกรณีที่ผู้ได้รับใบ อนุญาตตามมาตรา 7 ตายหรือขาดคุณสมบัติตามมาตรา 8 ให้ผู้ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา 6 แจ้งเป็นหนังสือให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นทราบ
มาตรา24ในกรณีที่ผู้ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา6 หรือมาตรา 7 ตายหรือขาดคุณสมบัติตาม มาตรา8และมีบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติตามมาตรา8แสดงความจำนงต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นภายใน สามสิบวันนับแต่วันที่ผู้ได้รับใบอนุญาตตายหรือขาดคุณสมบัติเพื่อขอเป็นผู้จัดตั้งหรือเป็นผู้ดำเนินการสุสาน และฌาปนสถานสาธารณะหรือสุสานและฌาปนสาน เอกชนต่อไปให้ผู้แสดงความจำนงนั้นเป็นผู้จัดตั้ง หรือเป็นผู้ดำเนินการสุสานและฌาปนสถานสาธารณะหรือสุสานและฌาปนสถานเอกชนต่อไปได้ตั้งแต่ วันที่ผู้ได้รับใบอนุญาตตายหรือขาดคุณสมบัติจนถึงวันที่ใบอนุญาตสิ้นอายุ ในกรณีที่ไม่มีบุคคลใดแสดงความจำนงภายในกำหนดเวลาตามวรรคหนึ่งให้เจ้าพนักงานท้องถิ่น เข้าทำหน้าที่เสมือนเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา6 หรือมาตรา 7 จนกว่าจะมีผู้ได้รับใบอนุญาต ตามมาตรา 6 หรือมาตรา 7 ขึ้นใหม่
มาตรา25ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา6 วรรคหนึ่ง มาตรา 7 วรรคหนึ่ง หรือมาตรา 10 หรือผู้ได้รับ ใบอนุญาตตามมาตรา6ไม่แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงสุสานและฌาปนสถานตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน ท้องถิ่นตามมาตรา 16 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองพันบาท ในกรณีฝ่าฝืนมาตรา10ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจสั่งให้ผู้ฝ่าฝืนรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างหรือ เคลื่อนย้ายศพที่ฝังหรือเก็บไว้ไปฝังหรือเก็บในสุสานและฌาปนสถานสาธารณะหรือสุสานและฌาปนสถาน เอกชนที่ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา6 ภายในเวลาที่กำหนดถ้าผู้ฝ่าฝืนยังไม่ปฏิบัติตาม ให้เจ้าพนักงาน ท้องถิ่นเข้ากระทำการนั้นแทน โดยเรียกค่าใช้จ่ายจากผู้ฝ่าฝืน
มาตรา26 ผู้ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา 6 หรือมาตรา 7 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 9 หรือ มาตรา20 หรือผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 15 หรือผู้ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา 6 ไม่แจ้งเป็นหนังสือให้ เจ้าพนักงานท้องถิ่นทราบการเลิกสุสานและฌาปนสถานสาธารณะหรือสุสานและฌาปนสถาน เอกชนตามมาตรา 21 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท
มาตรา27 ผู้ใดขัดขวางหรือไม่อำนวยความสะดวกแก่เจ้าพนักงานสาธารณสุขพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเจ้าพนักงานท้องถิ่นในการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 15 วรรคหนึ่งต้อระวางโทษปรับไม่เกินห้าร้อยบาท
มาตรา28ให้ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งสุสานและฌาปนสถานสาธารณะหรือสุสานและฌาปนสถาน เอกชนหรือผู้ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้จัดการบำรุงรักษาสุสานและฌาปนสถานสาธารณะหรือสุสานและ ฌาปนสถานเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมสุสานและฌาปนสถานที่ใช้บังคับอยู่ก่อนวันที่ พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับอยู่ดำเนินกิจการหรือเป็นผู้จัดการต่อไปได้จนกว่าใบอนุญาตนั้นสิ้นอายุ และถ้า ประสงค์จะเป็นผู้จัดตั้งหรือเป็นผู้ดำเนินการสุสานและฌาปนสถานสาธารณะหรือสุสานและฌาปนสถาน เอกชนต่อไป ให้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ภายในสามสิบวันก่อนวันที่ใบอนุญาตสิ้น อายุและให้ผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตนั้นเป็นผู้จัดตั้งหรือเป็นผู้ดำเนินการสุสานและฌาปนสถานสาธารณะ หรือสุสานและฌาปนสถานเอกชนต่อไปได้ จนกว่าเจ้าพนักงานท้องถิ่นจะสั่งไม่ต่ออายุใบอนุญาต ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งสุสานและฌาปนสถานสาธารณหรือสุสานและฌาปนสถานเอกชนหรือผู้ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้จัดการบำรุงรักษาสุสานและฌาปนสถานสาธารณะหรือสุสานและฌาปนสถาน เอกชนตามวรรคหนึ่งซึ่งใบอนุญาตนั้นสิ้นอายุก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับและมิได้ยื่นคำขอต่อ อายุใบอนุญาตหรืออยู่ในระหว่างการขอต่ออายุใบอนุญาตถ้าประสงค์จะเป็นผู้จัดตั้งหรือเป็น ผู้ดำเนินการสุสานและฌาปนสถานสาธารณะหรือสุสานและฌาปนสถานเอกชนต่อไปให้ยื่นคำขอรับ ใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
มาตรา29บรรดาข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร ข้อบัญญัติจังหวัดเทศบัญญัติ ข้อบังคับสุขาภิบาล หรือข้อบัญญัติเมืองพัทยาซึ่งได้ออกโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยการควบคุม สุสานและฌาปนสถานที่ใช้บังคับอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับให้ใช้บังคับได้ต่อไปเพียงเท่าที่ ไม่ขัดหรือแย้งกับบทแห่งพระราชบัญญัตินี้จนกว่าจะได้มีข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครข้อบัญญัติจังหวัด เทศบัญญัติ ข้อบังคับสุขาภิบาลหรือข้อบัญญัติเมืองพัทยา ออกใช้บังคับตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา30ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้และให้มีอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่และเจ้าพนักงานสาธารณสุข กับออกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตราในบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้และกำหนดกิจการ อื่นเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ ในส่วนที่เกี่ยวกับราชการของกระทรวงนั้น กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้บังคับได้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ป. ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรี |
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องด้วยกฎหมายว่าด้วยการควบคุม สุสานและฌาปนสถานที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันได้ประกาศใช้มาตั้งแต่ พ.ศ. 2481 ปัจจุบันการดำเนินการ กิจการสุสานและฌาปนสถานบางแห่งมีลักษณะที่อาจเป็นอันตรายต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศ การสาธารณสุขหรืออนามัยของประชาชนเพิ่มขึ้นสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการควบคุมสุสานและ ฌาปนสถานเสียใหม่ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันจึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ (ร.จ. เล่ม 102 ตอนที่ 129 หน้า 37 19 กันยายน 2528) |
อัตราค่าธรรมเนียม (1) ใบอนุญาตจัดตั้งสุสานและฌาปนสถาน สาธารณะหรือสุสานและฌาปนสถาน เอกชน ฉบับละ 1,000 บาท (2) ใบอนุญาตเป็นผู้ดำเนินการสุสานและ ฌาปนสถานสาธารณะหรือสุสานและ ฌาปนสถานเอกชน ฉบับละ 500 บาท (3) ใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ 50 บาท (4) การต่ออายุใบอนุญาตจัดตั้งหรือ ใบอนุญาตเป็นผู้ดำเนินการสุสานและ ฌาปนสถานสาธารณะหรือสุสานและ ฌาปนสถานเอกชนให้เป็นไปตาม อัตราใน (1) หรือ (2) แล้วแต่กรณี |