พระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2528 |
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2528 เป็นปีที่ 40 ในรัชกาลปัจจุบัน |
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของ รัฐสภา ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2528"
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ยกเลิกความในมาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่าย ตุลาการ พ.ศ. 2521 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "มาตรา 44 ผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นดะโต๊ะยุติธรรม ต้องเป็น อิสลามศาสนิกซึ่งมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ (1) มีคุณสมบัติตามมาตรา 27 (2) (4) (6) (7) (8) (9) (10) และ (11) (2) อายุไม่ต่ำกว่าสามสิบปี (3) มีภูมิรู้ในศาสนาอิสลามพอที่จะเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมายอิสลามเกี่ยวด้วยครอบครัว และมรดก และ (4)มีความรู้ภาษาไทยสอบไล่ได้ประกาศนียบัตรไม่ต่ำกว่าระดับมัธยมศึกษาตอนต้นหรือซึ่ง กระทรวงศึกษาธิการเทียบว่าไม่ต่ำกว่าระดับมัธยมศึกษาตอนต้น หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งดะโต๊ะยุติธรรม ให้กำหนดโดยกฎกระทรวง กฎกระทรวงเช่นว่านี้ให้ได้รับความเห็นชอบของ ก.ต. ก่อน การแต่งตั้งบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งดะโต๊ะยุติธรรม ให้รัฐมนตรีเสนอ ก.ต. เพื่อให้ความ เห็นชอบก่อน เมื่อได้รับความเห็นชอบแล้วจึงนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงแต่งตั้ง"
มาตรา 4 ผู้ใดเป็นดะโต๊ะยุติธรรมอยู่แล้วในวันที่พระราชบัญญัตินี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้ผู้นั้นเป็นดะโต๊ะยุติธรรมต่อไป
มาตรา 5 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ป. ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรี |
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการ พ.ศ. 2521 กำหนดไว้ดะโต๊ะยุติธรรมมีความรู้ภาษาไทยเทียบได้ไม่ต่ำ กว่าระดับประถมศึกษาเท่านั้น เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติราชการ สมควรปรับปรุงคุณสมบัติดังกล่าวของ ดะโต๊ะยุติธรรมให้สูงขึ้น และโดยที่ดะโต๊ะยุติธรรมมีอำนาจและหน้าที่พิจารณาพิพากษาคดีใน พระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์เช่นเดียวกับผู้พิพากษาสมควรนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงแต่ตั้งด้วย จึง จำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ (ร.จ.เล่ม 102 ตอนที่ 120 หน้า 58 5 กันยายน 2528) |