พระราชบัญญัติ
                      ระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานคร
                              พ.ศ. 2528
   ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
                   ให้ไว้  ณ วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2528
                        เป็นปีที่ 40 ในรัชกาลปัจจุบัน
   พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
   โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานคร
   จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของ
รัฐสภา ดังต่อไปนี้

   มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานครพ.ศ. 2528"

   มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

   มาตรา 3 ให้ยกเลิก
   (1) พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2516
   (2) พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานคร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2522

   มาตรา 4 ในพระราชบัญญัตินี้
   "ข้าราชการกรุงเทพมหานคร" หมายความว่า บุคคลซึ่งได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้รับ
ราชการโดยได้รับเงินเดือนจากเงินงบประมาณหมวดเงินเดือนของกรุงเทพมหานคร หรือจาก
เงินงบประมาณหมวดเงินอุดหนุนของรัฐบาลที่ให้แก่กรุงเทพมหานคร และกรุงเทพมหานครนำมา
จัดเป็นเงินเดือนของข้าราชการกรุงเทพมหานคร

   มาตรา 5 บรรดาคำว่า "ข้าราชการพลเรือน" ที่มีอยู่ในกฎหมาย ประกาศ ระเบียบ หรือ
ข้อบังคับอื่นใดให้หมายความรวมถึงข้าราชการกรุงเทพมหานครด้วย แต่ให้ใช้งบประมาณของ
กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้เว้นแต่จะได้มีกฎหมาย ประกาศ ระเบียบ ข้อบังคับอื่นใดบัญญัติไว้สำหรับ
ข้าราชการกรุงเทพมหานครโดยเฉพาะ

   มาตรา 6 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้

   มาตรา 7 ข้าราชการกรุงเทพมหานครมีสองประเภท คือ
   (1) ข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ ได้แก่ ข้าราชการกรุงเทพมหานครซึ่งรับราชการใน
กรุงเทพมหานคร แต่ไม่รวมถึงข้าราชการครูกรุงเทพมหานคร
   (2) ข้าราชการครูกรุงเทพมหานคร ได้แก่ ข้าราชการกรุงเทพมหานครซึ่งดำรงตำแหน่ง
เป็นผู้สอนประจำในสถานศึกษาของกรุงเทพมหานคร หรือดำรงตำแหน่งอื่นซึ่งมีหน้าที่เป็นผู้บริหาร
หรือให้การศึกษาในสถานศึกษาของกรุงเทพมหานคร และให้หมายความรวมถึงข้าราชการ
กรุงเทพมหานคร ซึ่งดำรงตำแหน่งที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการให้การศึกษาซึ่งไม่สังกัดสถานศึกษาของ
กรุงเทพมหานครตามที่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้เป็นข้าราชการกรุงเทพมหานคร

   มาตรา 8 ให้นำกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนมาใช้บังคับแก่ข้าราชการ
กรุงเทพมหานครสามัญ และกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครูมาใช้บังคับแก่ข้าราชการ
กรุงเทพมหานคร โดยอนุโลมเว้นแต่ในพระราชบัญญัตินี้จะได้บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่นหรือ
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้ทำความตกลงกับคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร
กำหนดเป็นอย่างอื่นโดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา

   มาตรา 9 ในกรณีที่นำกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนมาใช้บังคับแก่ข้าราชการ
กรุงเทพมหานครสามัญ และในกรณีที่นำกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครูมาใช้บังคับแก่
ข้าราชการครูกรุงเทพมหานคร ให้อำนาจหน้าที่ของ ก.พ. และก.ค. เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะ
กรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร อำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีเป็นอำนาจหน้าที่ของ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีเจ้าสังกัดเป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ว่า
ราชการกรุงเทพมหานคร อำนาจหน้าที่ของปลัดกระทรวงเป็นอำนาจหน้าที่ของปลัดกรุงเทพ
มหานครอำนาจหน้าที่ของอธิบดีเป็นอำนาจหน้าที่ของปลัดกรุงเทพมหานครหรือผู้อำนวยการสำนัก
แล้วแต่กรณี เว้นแต่อำนาจหน้าที่ของผู้มีอำนาจสั่งบรรจุตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยระเบียบ
ข้าราชการพลเรือนให้เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้สั่งบรรจุตามมาตรา 28

   มาตรา 10 การโอนข้าราชการซึ่งไม่ใช่ข้าราชการการเมืองข้าราชการประจำต่างประเทศ
พิเศษ ข้าราชการวิสามัญ หรือการโอนพนักงานเทศบาลซึ่งไม่ใช่พนักงานเทศบาลวิสามัญ มา
บรรจุเป็นข้าราชการกรุงเทพมหานครในระดับและเงินเดือนที่ไม่สูงกว่าเดิม อาจกระทำได้ถ้า
เจ้าตัวสมัครใจ โดยกรุงเทพมหานครทำความตกลงกับเจ้าสังกัดแล้วเสนอเรื่องไปให้
คณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานครพิจารณาอนุมัติ ในการนี้ให้คณะกรรมการข้าราชการ
กรุงเทพมหานครพิจารณาโดยคำนึงถึงประโยชน์ที่ทางราชการจะได้รับ ทั้งนี้ จะบรรจุและแต่งตั้ง
ให้ดำรงตำแหน่งระดับใด และจะให้ได้รับเงินเดือนเท่าใด หรือจะบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรง
ตำแหน่งซึ่งให้ได้รับเงินเดือนในระดับใด ให้คระกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานครเป็น
ผู้พิจารณากำหนด  แต่เงินเดือนที่จะให้ได้รับจะต้องไม่สูงกว่าข้าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งมี
คุณวุฒิความสามารถและความชำนาญงานในระดับเดียวกันหรือทัดเทียมกัน
   เพื่อประโยชน์ในการนับเวลาราชการ ให้ถือเวลาราชการหรือเวลาทำงานของผู้ซึ่งโอนตาม
วรรคหนึ่ง ในขณะที่เป็นข้าราชการหรือพนักงานเทศบาลนั้น เป็นเวลาราชการของข้าราชการ
กรุงเทพมหานคร

   มาตรา 11 ผู้ใดเป็นข้าราชการซึ่งไม่ใช่ข้าราชการการเมืองข้าราชการประจำต่างประเทศ
พิเศษ ข้าราชการวิสามัญ หรือเป็นพนักงานเทศบาลซึ่งไม่ใช่พนักงานเทศบาลวิสามัญ และได้ออก
จากราชการหรือออกจากงานไปแล้ว ถ้าสมัครขอกลับเข้ารับราชการเป็นข้าราชการกรุงเทพมหานคร
และกรุงเทพมหานครต้องการจะรับผู้นั้นเข้ารับราชการ ให้นำความในมาตรา 10 มาใช้บังคับ
โดยอนุโลม

   มาตรา 12 เพื่อประโยชน์แก่ราชการของกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
โดยทำความตกลงกับรัฐมนตรีเจ้าสังกัด จะแต่งตั้งข้าราชการซึ่งสังกัดกระทรวง ทบวง กรม นั้น
ไปดำรงตำแหน่งในกรุงเทพมหานครเป็นการชั่วคราวได้ โดยมีฐานะหน้าที่เสมือนเป็นข้าราชการ
กรุงเทพมหานคร แต่ให้ได้รับเงินเดือนจากกระทรวง ทบวง กรม เดิม

   มาตรา 13 เครื่องแบบของข้าราชการกรุงเทพมหานครและระเบียบการแต่งเครื่องแบบให้
เป็นไปตามที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา

   มาตรา 14 ให้นำกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการในส่วนที่เกี่ยวกับหลักเกณฑ์ใน
การคำนวณบำเหน็จบำนาญมาใช้ในการคำนวณบำเหน็จบำนาญของข้าราชการกรุงเทพมหานคร
โดยอนุโลม

   มาตรา 15 ให้มีคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร เรียกโดยย่อว่า "ก.ก."
ประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
ซึ่งได้รับมอบหมายเป็นประธานผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมอบหมายจำนวนหนึ่งคน ปลัดกรุงเทพมหานครเลขาธิการ ก.พ.
หรือผู้แทน เลขาธิการ ก.ค. หรือผู้แทน และผู้ทรงคุณวุฒิในหลักราชการ หรือการบริหารงาน
บุคคล ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแต่งตั้งจากผู้ซึ่งรับราชการ หรือเคยรับราชการใน
ตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอธิบดีหรือเทียบเท่า และมิได้เป็นข้าราชการการเมือง สมาชิกรัฐสภา
สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น กรรมการพรรคการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง
จำนวนสี่คนเป็นกรรมการ และให้หัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร
เป็นกรรมการและเลขานุการ

   มาตรา 16 กรรมการซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแต่งตั้งอยู่ในตำแหน่งคราวละ
สองปี  และอาจได้รับแต่งตั้งอีกได้

   มาตรา 17 นอกจากพ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 16 กรรมการ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง
มหาดไทยแต่งตั้ง พ้นจากตำแหน่ง เมื่อ
   (1) ตาย
   (2) ลาออกโดยยื่นหนังสือลาออกต่อประธาน ก.ก. และมีผลนับแต่วันถัดจากวันยื่นหนังสือลาออก
   (3) เป็นบุคคลล้มละลาย
   (4) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
   (5) ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุด หรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายให้จำคุก เว้นแต่เป็น
โทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
   (6) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้พ้นจากตำแหน่ง
   ในกรณีที่กรรมการพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแต่งตั้งผู้อื่น
เป็นกรรมการแทน เว้นแต่วาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการจะเหลือไม่ถึงเก้าสิบวัน  และ
ให้กรรมการซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทนอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของ
กรรมการซึ่งตนแทน

   มาตรา 18 ในการประชุม ก.ก. ถ้าประธาน ก.ก. ไม่มาประชุมหรือไม่อยู่ในที่ประชุม ให้
กรรมการซึ่งมาประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม

   มาตรา 19 ในการประชุม ก.ก. ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน
กรรมการทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม
   การวินิจฉัยชี้ขาดให้ถือเสียงข้างมาก เว้นแต่กรณีที่มีกฎหมายบัญญัติให้ต้องมีมติเป็นเอกฉันท์
   กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุม
ออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด

   มาตรา 20 ในการประชุม ก.ก. ถ้ามีการพิจารณาเรื่องเกี่ยวกับตัวกรรมการผู้ใดโดยเฉพาะ
ผู้นั้นไม่มีสิทธิเข้าประชุม

   มาตรา 21 ก.ก. มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
   (1) เสนอแนะและให้คำปรึกษาแก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับนโยบาย
การบริหารงานบุคคลและจัดระบบราชการกรุงเทพมหานคร
   (2) ออกกฎ ก.ก. ข้อบังคับ หรือระเบียบ เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้หรือตาม
กฎหมายอื่นที่พระราชบัญญัตินี้ให้นำมาใช้บังคับกฎ ก.ก. เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว
ให้ใช้บังคับได้
   (3) ตีความและวินิจฉัยปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากการใช้บังคับพระราชบัญญัตินี้ มติของ ก.ก.
เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้วให้มีผลใช้บังคับได้
   (4) ควบคุม ดูแล ตรวจสอบ แนะนำและชี้แจงเพื่อให้ส่วนราชการในสังกัดกรุงเทพมหานคร
ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ในการนี้ให้มีอำนาจเรียกเอกสารและหลักฐานจากส่วนราชการ
การพาณิชย์หรือสหการ ในสังกัดกรุงเทพมหานคร และให้ผู้แทนส่วนราชการ  การพาณิชย์ หรือ
สหการ ในสังกัดกรุงเทพมหานคร ข้าราชการกรุงเทพมหานคร ลูกจ้างกรุงเทพมหานคร หรือ
บุคคลใด ๆ มาชี้แจงข้อเท็จจริงได้
   (5) จัดการสอบแข่งขันเพื่อรับทุนของกรุงเทพมหานครในการศึกษา ฝึกอบรมหรือดูงานตามความ
ต้องการของกรุงเทพมหานคร
   (6) กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้
   (7) รักษาทะเบียนประวัติของข้าราชการกรุงเทพมหานคร
   (8) ปฏิบัติการอื่นตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้ และกฎหมายอื่น

   มาตรา 22 ให้มี
   (1) อนุกรรมการสามัญประจำกรุงเทพมหานคร เรียกโดยย่อว่า อ.ก.ก. สามัญ
   (2) อนุกรรมการสามัญประจำสำนัก หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่น ซึ่งมีฐานะเป็นสำนัก
เรียกโดยย่อว่า อ.ก.ก. สำนักหรือส่วนราชการซึ่งมีฐานะเป็นสำนัก โดยออกชื่อสำนักหรือ
ส่วนราชการนั้น ๆ
   (3) อนุกรรมการสามัญข้าราชการครูกรุงเทพมหานคร เรียกโดยย่อว่า อ.ก.ก. ข้าราชการครู
ทั้งนี้ ให้นำมาตรา 18 มาตรา 19 และมาตรา 20 มาใช้บังคับโดยอนุโลม

   มาตรา 23 อ.ก.ก. สามัญ ประกอบด้วยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือรองผู้ว่าราชการ
กรุงเทพมหานครซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมอบหมายเป็นประธาน  ปลัดกรุงเทพมหานคร
รองปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการสำนัก และหัวหน้าส่วนราชการ ที่เรียกชื่ออย่างอื่นซึ่งมี
ฐานะเป็นสำนัก เป็นอนุกรรมการ ให้ อ.ก.ก. นี้ตั้งเลขานุการหนึ่งคน
   ให้ อ.ก.ก. สามัญมีอำนาจหน้าที่ตามาที่กฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนกำหนด
ไว้สำหรับ อ.ก.พ. กระทรวง

   มาตรา 24 อ.ก.ก. สำนัก ประกอบด้วยปลัดกรุงเทพมหานครหรือผู้อำนวยการสำนัก แล้ว
แต่กรณี เป็นประธาน รองปลัดกรุงเทพมหานครหรือรองผู้อำนวยการสำนัก แล้วแต่กรณี
ผู้อำนวยการกอง หัวหน้ากอง และหัวหน้าส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่น ซึ่งมีฐานะเป็นกอง
เป็นอนุกรรมการ ให้ อ.ก.ก. นี้ตั้งเลขานุการหนึ่งคน
   ให้นำความในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับแก่ อ.ก.ก. สำนักของส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มี
ฐานะเป็นสำนัก โดยอนุโลม
   สำหรับสำนักงานเลขานุการสภากรุงเทพมหานคร สำนักงานเลขานุการผู้ว่าราชการ
กรุงเทพมหานคร สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานครและเขต ให้ อ.ก.ก.
สำนักปลัดกรุงเทพมหานครทำหน้าที่ อ.ก.ก. สำนัก โดยให้เลขานุการสภากรุงเทพมหานคร
เลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการ
กรุงเทพมหานคร หรือผู้อำนวยการเขตที่เกี่ยวข้อง แล้วแต่กรณี เป็นอนุกรรมการเพิ่มด้วย
   ให้ อ.ก.ก. สำนัก มีอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนกำหนด
ไว้สำหรับ อ.ก.พ. กรม

   มาตรา 25 อ.ก.ก. ข้าราชการครู ประกอบด้วยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือ
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมอบหมายเป็นประธาน
ปลัดกรุงเทพมหานคร รองปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา และผู้แทน
ข้าราชการครูกรุงเทพมหานคร ซึ่งได้รับเลือกจากข้าราชการครูกรุงเทพมหานครจำนวนสี่คนเป็น
อนุกรรมการ ให้ อ.ก.ก. นี้ตั้งเลขานุการหนึ่งคน
   หลักเกณฑ์และวิธีการเลือกตั้งผู้แทนข้าราชการครูกรุงเทพมหานครตลอดจนการพ้นจาก
ตำแหน่งผู้แทนข้าราชการครูกรุงเทพมหานครให้กำหนดในกฎ ก.ก.
   ให้ อ.ก.ก. ข้าราชการครูมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการบริหารงานของข้าราชการครู
กรุงเทพมหานครตามที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกา กฎ ระเบียบ หรือข้อบังคับ ซึ่งออกตาม
ความในพระราชบัญญัตินี้หรือตามที่ ก.ก. มอบหมาย

   มาตรา 26 ก.ก. มีอำนาจตั้งอนุกรรมการวิสามัญเรียกโดยย่อว่า อ.ก.ก. วิสามัญ เพื่อทำ
การใด ๆ แทนได้
   ในกรณีที่กรรมการซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแต่งตั้งพ้นจากตำแหน่งตามวาระ ให้
อ.ก.ก. วิสามัญ ซึ่งได้รับแต่งตั้งจาก ก.ก. คณะนั้นพ้นจากตำแหน่งไปด้วย

   มาตรา 27 ให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานครมีหน้าที่ดังต่อไปนี้
   (1) เป็นเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการดำเนินงานในหน้าที่ของ ก.ก.
   (2)วิเคราะห์และวิจัยอันเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและจัดระบบราชการกรุงเทพมหานคร
เพื่อเสนอ ก.ก.
   (3) ประสานงานและดำเนินการเกี่ยวกับการพัฒนาข้าราชการกรุงเทพมหานคร
   (4)จัดทำรายงานประจำปีเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลในราชการกรุงเทพมหานครเสนอ
ต่อ ก.ก.
   (5) ดำเนินการตามที่ ก.ก. มอบหมาย

   มาตรา 28 การบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญและการ
แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ให้ผู้มีอำนาจดังต่อไปนี้เป็นผู้สั่งบรรจุและแต่งตั้ง
   (1) การบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระดับ 10 และระดับ 11 ให้ผู้ว่าราชการ
กรุงเทพมหานครเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ
การบรรจุและแต่งตั้ง เมื่อได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้ว ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็น
ผู้มีอำนาจสั่งบรรจุ และให้นายกรัฐมนตรีนำความกราบบังคมทูล เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ
แต่งตั้ง
   (2) การบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระดับ 9 ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็น
ผู้มีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้ง
   (3) การบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระดับ 8 ให้ปลัดกรุงเทพมหานครเป็นผู้มีอำนาจ
สั่งบรรจุและแต่งตั้ง โดยคำแนะนำหรือความเห็นชอบของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
   (4) การบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ระดับ 7 ลงมาในสำนักปลัด
กรุงเทพมหานคร สำนักงานเลขานุการสภากรุงเทพมหานครสำนักงานเลขานุการผู้ว่าราชการ
กรุงเทพมหานคร สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานครและสำนักงานเขต ให้ปลัด
กรุงเทพมหานครเป็นผู้มีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้ง
   (5) การแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ระดับ 7 ลงมาจากสำนัก สำนักงานหรือสำนักงาน
เขตหนึ่งไปอีกสำนัก สำนักงาน หรือสำนักงานเขตหนึ่ง ให้ปลัดกรุงเทพมหานครเป็นผู้มีอำนาจสั่ง
แต่งตั้ง
   (6) การบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระดับ 7 ในสำนักหรือส่วนราชการที่เรียกชื่อ
อย่างอื่นซึ่งมีฐานะเป็นสำนัก ให้ผู้อำนวยการสำนักหรือหัวหน้าส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นซึ่งมี
ฐานเป็นสำนัก แล้วแต่กรณี เป็นผู้มีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งโดยความเห็นชอบของปลัดกรุงเทพ
มหานคร
   (7) การบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ระดับ 6 ลงมา ในสำนักหรือส่วนราชการที่
เรียกชื่ออย่างอื่นซึ่งมีฐานะเป็นสำนัก ให้ผู้อำนวยการสำนักหรือหัวหน้าส่วนราชการที่เรียกชื่อ
อย่างอื่นซึ่งมีฐานะเป็นสำนัก แล้วแต่กรณี เป็นผู้มีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้ง

   มาตรา 29 การบรรจุและแต่งตั้งเลขานุการสภากรุงเทพมหานครต้องเป็นไปโดยคำแนะนำ
หรือความเห็นชอบของประธานสภากรุงเทพมหานคร

   มาตรา30การบรรจุและแต่งตั้งหัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร
ต้องเป็นไปโดยคำแนะนำหรือความเห็นชอบของประธาน ก.ก.

   มาตรา 31 ให้นำมาตรา 28 มาใช้บังคับแก่ข้าราชการครูกรุงเทพมหานครโดยอนุโลม
เว้นแต่จะมีพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา 8 กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น

   มาตรา 32 ในระหว่างที่ยังมิได้ตราพระราชกฤษฎีกา ออกกฎ ก.ก. ระเบียบ หรือข้อบังคับ
เพื่อข้อบังคับเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ให้นำพระราชกฤษฎีกา กฎ ก.ก. ระเบียบหรือ
ข้อบังคับที่ใช้อยู่เดิมมาใช้บังคับโดยอนุโลม
   ในส่วนที่เกี่ยวกับข้าราชการครูกรุงเทพมหานครให้นำกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครู
มาใช้บังคับโดยอนุโลม และอำนาจหน้าที่ของ อ.ก.ค. กรม เป็นอำนาจหน้าที่ของ อ.ก.ก.
ข้าราชการครู

   มาตรา 33 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแต่งตั้ง ก.ก. ผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา 15
ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ

   มาตรา 34 ในวาระเริ่มแรกที่ยังไม่มีผู้แทนข้าราชการครูกรุงเทพมหานครใน อ.ก.ก.
ข้าราชการครู ให้ ก.ก. แต่งตั้งข้าราชการครูกรุงเทพมหานครซึ่งดำรงตำแหน่งที่ได้รับ
เงินเดือนไม่ต่ำกว่าระดับ 6 จำนวนสี่คน เป็นอนุกรรมการ
   อนุกรรมการซึ่ง ก.ก. แต่งตั้งตามวรรคหนึ่ง ให้พ้นจากตำแหน่งในวันที่ผู้แทนข้าราชการครู
กรุงเทพมหานครได้รับเลือกจากข้าราชการครูกรุงเทพมหานครตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่
กำหนดในกฎ ก.ก.
   ให้ดำเนินการเลือกตั้งผู้แทนข้าราชการครูกรุงเทพมหานครภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่
พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ

   มาตรา 35 ผู้ใดเป็นข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการ
กรุงเทพมหานครอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับให้ผู้นั้นเป็นข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ
ตามพระราชบัญญัตินี้

   มาตรา 36 ผู้ใดเป็นข้าราชการครูกรุงเทพมหานครตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการ
กรุงเทพมหานครอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับให้ผู้นั้นเป็นข้าราชการครูกรุงเทพมหานครตาม
พระราชบัญญัตินี้

   มาตรา 37 ผู้ใดเป็นข้าราชการกรุงเทพมหานครวิสามัญตามกฎหมายว่าด้วย ระเบียบ
ข้าราชการกรุงเทพมหานครอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ผู้นั้นเป็นข้าราชการ
กรุงเทพมหานครวิสามัญต่อไปและถ้าจะให้ผู้ใดเป็นข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญให้นำมาตรา
116 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2518  มาใช้บังคับโดยอนุโลม

   มาตรา 38 ข้าราชการกรุงเทพมหานครวิสามัญตามมาตรา 37 ผู้ใดดำรงตำแหน่งที่ ก.ก.
พิจารณาเห็นว่าทำหน้าที่อย่างเดียวกับตำแหน่งข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญหรือข้าราชการ
ครูกรุงเทพมหานครอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ผู้มีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งตาม
มาตรา 28 สั่งให้ผู้นั้นเป็นข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญหรือข้าราชการครูกรุงเทพมหานคร
ตามพระราชบัญญัตินี้ แล้วแต่กรณี โดยให้ได้รับเงินเดือนในอัตราเท่ากับเงินเดือนที่ได้รับอยู่ ทั้งนี้
เฉพาะผู้ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ดังต่อไปนี้
   (1) มีคุณสมบัติทั่วไปตามที่กำหนดไว้สำหรับข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ หรือ
ข้าราชการกรุงเทพมหานคร แล้วแต่กรณี
   (2) เป็นผู้ได้รับประกาศนียบัตรประโยคมัธยมศึกษาตอนต้นตามแผนการศึกษาแห่งชาติ
พุทธศักราช 2503 หรือที่กระทรวงศึกษาธิการรับรองว่าเทียบเท่าและเป็นข้าราชการ
กรุงเทพมหานครวิสามัญในตำแหน่งที่ทำหน้าที่อย่างเดียวกับข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญหรือ
ข้าราชการครูกรุงเทพมหานครติดต่อกันเป็นเวลาไม่น้อยกว่าห้าปี
   ผู้ใดเป็นข้าราชการกรุงเทพมหานครวิสามัญ แต่ไม่อยู่ในเกณฑ์ตามวรรคหนึ่ง (2) ให้ผู้นั้น
เป็นข้าราชการกรุงเทพมหานครวิสามัญไปก่อนเมื่อเข้าเกณฑ์ตามวรรคหนึ่ง (2) จึงให้เป็น
ข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญหรือข้าราชการครูกรุงเทพมหานครตามพระราชบัญญัตินี้ แล้วแต่
กรณี โดยให้ได้รับเงินเดือนในอัตราเท่ากับเงินเดือนที่ได้รับอยู่

   มาตรา 39 ข้าราชการกรุงเทพมหานครและข้าราชการกรุงเทพมหานครวิสามัญตามมาตรา
37 ผู้ใดมีกรณีกระทำผิดวินัย หรือมีกรณีที่สมควรให้ออกจากราชการก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้
บังคับ ให้ผู้บังคับบัญชาตามพระราชบัญญัตินี้ดำเนินการดังต่อไปนี้
   (1) ในกรณีที่ไม่ต้องสอบสวน ให้พิจารณาตามพระราชบัญญัตินี้แล้วสั่งลงโทษหรือสั่งให้ผู้นั้น
ออกจากราชการ ตามกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะที่มีกรณีนั้น
   (2) ในกรณีที่จะต้องสอบสวน แต่ยังมิได้สั่งสอบสวน ให้สั่งสอบสวนและพิจารณาตาม
พระราชบัญญัตินี้ ถ้าพบว่ามีกรณีกระทำผิดวินัยหรือมีกรณีที่สมควรให้ออกจากราชการให้สั่งลงโทษ
หรือสั่งให้ผู้นั้นออกจากราชการ ตามกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะที่มีกรณีนั้น
   (3) ในกรณีที่ผู้บังคับบัญชาเดินได้สั่งให้สอบสวนโดยถูกต้องตามกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะนั้น
แต่ยังสอบสวนไม่เสร็จ ให้ผู้มีอำนาจสอบสวนตามกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะนั้นดำเนินการสอบสวน
ตามกฎหมายนั้นต่อไปจนเสร็จ และให้พิจารณาตามพระราชบัญญัตินั้น ถ้าพบว่ามีกรณีกระทำผิดวินัย
หรือมีกรณีที่สมควรให้ออกจากราชการ ให้สั่งลงโทษหรือสั่งให้ผู้นั้นออกจากราชการตามกฎหมายที่
ใช้อยู่ในขณะที่มีกรณีนั้น
   (4) ในกรณีที่ผู้บังคับบัญชาเดิมได้สั่งให้สอบสวน และได้สอบสวนและพิจารณาโดยถูกต้องตาม
กฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะนั้นเสร็จแล้วในการสอบสวนและพิจารณานั้นเป็นอันใช้ได้ และให้นำผลการ
สอบสวนและพิจารณานั้นมาใช้ลงโทษหรือสั่งให้ผู้นั้นออกจากราชการตามกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะที่มี
กรณีนั้น

   มาตรา40การใดอยู่ในระหว่างการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการ
กรุงเทพมหานครก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับการดำเนินการต่อไปสำหรับการนั้นให้เป็นไป
ตามที่ ก.ก. กำหนด
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก ป. ติณสูลานนท์
นายกรัฐมนตรี
   เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากได้มีการปรับปรุงการจัดระเบียบ
บริหารราชการกรุงเทพมหานครขึ้นใหม่ สมควรปรับปรุงการบริหารงานบุคคลตามกฎหมายว่าด้วย
ระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานครให้สอดคล้องกันด้วย จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
(ร.จ. เล่ม 102 ตอนที่ 115 หน้า 65  31 สิงหาคม 2528)