พระราชบัญญัติ เงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของ สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และ กรรมาธิการ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2526 |
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2526 เป็นปีที่ 38 ในรัชกาลปัจจุบัน |
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทน อย่างอื่นของสมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และกรรมาธิการ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอม ของรัฐสภา ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทน อย่างอื่นของสมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และกรรมาธิการ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2526"
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2526 เป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ยกเลิกความในวรรคสองของมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติเงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของสมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และกรรมาธิการ พ.ศ. 2522 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "รองประธานวุฒิสภา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้ ได้รับเงินประจำตำแหน่งเดือนละหนึ่งหมื่นสองพันบาท กับเงินค่ารับรองเดือนละ หนึ่งหมื่นห้าพันบาท"
มาตรา 4 ให้ยกเลิกความในมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ ตอบแทนอย่าอื่นของสมาชิกวุฒิสภาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และกรรมาธิการ พ.ศ. 2522 และให้ ใช้ความต่อไปนี้แทน "มาตรา 5 ประธานวุฒิสภา ประธานสภาผู้แทนราษฎร รองประธานวุฒิสภา รองประธานสภา ผู้แทนราษฎร และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งได้รับเงินประจำตำแหน่งกับเงินค่ารับรอง ตามมาตรา 4 ไม่มีสิทธิได้รับเงินตามมาตรา 7 หรือมาตรา 8"
มาตรา 5 ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติเงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของสมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และกรรมาธิการ พ.ศ. 2522 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภา หรือพระบรมราชโองการประกาศเรียกประชุมรัฐสภา ให้ประธานวุฒิสภา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ประธานวุฒิสภา ประธานสภาผู้แทนราษฎร รองประธานวุฒิสภา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีถิ่นที่อยู่นอกจังหวัดอันเป็นที่ตั้งรัฐสภา ได้รับค่าใช้จ่ายใน การเดินทางเฉพาะครั้งแรกจากจังหวัดอันเป็นถิ่นที่อยู่มายังจังหวัดอันเป็นที่ตั้งรัฐสภา หรือเมื่อมี พระราชกฤษฎีกาปิดประชุมรัฐสภาหรือเมื่อสมาชิกภาพของสมาชิกวุฒิสภาหรือสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง ให้ได้รับค่าใช้จ่ายในการเดินทางจากจังหวัดอันเป็นที่ตั้งรัฐสภาคลังไปยัง จังหวัดอันเป็นถิ่นที่อยู่ ทั้งนี้ ตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับการประชุมของวุฒิสภาหรือของ สภาผู้แทนราษฎร แล้วแต่กรณี"
มาตรา 6 ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติเงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของสมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และกรรมาธิการ พ.ศ. 2522 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "ให้สำนักงานเลขาธิการรัฐสภาจัดใบเบิกทางโดยสารรถไฟ รถยนต์ประจำทางและเครื่องบิน ให้แก่ประธานวุฒิสภา ประธานสภาผู้แทนราษฎร รองประธานวุฒิสภา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อใช้ในการเดินทาง ไปปฏิบัติหน้าที่นอกจังหวัดอันเป็นที่ตั้งรัฐสภา"
มาตรา 7 ให้ยกเลิกความในมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ ตอบแทนอย่างอื่นของสมาชิกวุฒิสภาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และกรรมาธิการ พ.ศ. 2522 และให้ ใช้ความต่อไปนี้แทน "มาตรา 14 ให้นำพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการในส่วนที่ เกี่ยวกับการเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราวมาใช้บังคับแก่ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ ต่างประเทศของสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรโดยอนุโลม โดยให้ประธานวุฒิสภาและ ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้รับสิทธิเช่นเดียวกับประธานศาลฎีกา ส่วนรองประธานวุฒิสภา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา และสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรให้ได้รับสิทธิเช่นเดียวกับผู้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง"
มาตรา 8 ให้ยกเลิกความในมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ ตอบแทนอย่างอื่นของสมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และกรรมาธิการ พ.ศ. 2522 และ ให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "มาตรา 15 ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภา ประธานสภาผู้แทนราษฎร รองประธานวุฒิสภา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้ได้รับเงินประจำตำแหน่งกับ เงินค่ารับรองหรือเงินประจำตำแหน่ง แล้วแต่กรณี นับแต่วันที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง ส่วนสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรให้ได้รับเงินประจำตำแหน่ง เงินค่ารับรองและเงินช่วยเหลือค่าที่พักอาศัย นับแต่วันเลือกตั้ง" ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอกป. ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรี |
หมายเหตุ : เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือโดยที่บทเฉพาะกาลของ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยได้สิ้นสุดลงแล้ว และมาตรา 79 ของรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทยได้บัญญัติให้ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรได้รับเงินประจำตำแหน่งและ ประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ประกอบกับได้มีการแต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎรตามบทบัญญัติ มาตรา 105 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแล้ว จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ (ร.จ. เล่ม 100 ตอนที่ 135 หน้า 1 19 สิงหาคม 2526) |