พระราชบัญญัติ โอนที่วัด วัดสวนลำไย ตำบลบางหลวง อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. 2525 |
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2525 เป็นปีที่ 37 ในรัชกาลปัจจุบัน |
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรโอนที่วัด วัดสวนลำไย ตำบลบางหลวงอำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ให้แก่กรมชลประทาน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอม ของรัฐสภา ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติโอนที่วัด วัดสวนลำไย ตำบลบางหลวง อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. 2525"
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้โอนที่วัด วัดสวนลำไย ตำบลบางหลวง อำเภอสรรพยา จังหวัด ชัยนาท เนื้อที่ 10 ไร่ 1 งาน 90 ตารางวา ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชบัญญัตินี้ ให้แก่กรมชลประทาน
มาตรา 4 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ป. ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรี |
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือเนื่องจากกรมชลประทานได้ ขุดคลองส่งน้ำสาย 1 ซ้าย เพื่อประโยชน์แก่การชลประทาน ตามโครงการบรมธาตุ ที่ตำบล บางหลวง อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท และได้ทำการสำรวจแล้วปรากฏว่าคลองส่งน้ำ สายนี้ ตอน กม. ที่ 5.000 ถูกที่วัด วัดสวนลำไย ตำบลบางหลวง อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท เนื้อที่ 10 ไร่ 1 งาน 90 ตารางวาตาม น.ส. 3 เลขที่ 270 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2508 และคณะกรรมการจัดซื้อและกำหนดค่าทดแทนทรัพย์สินเพื่อการชลประทานจังหวัด ชัยนาทได้กำหนดค่าผาติกรรมให้ราคาไร่ละ 2,224 บาท เป็นเงิน 23,296.40 บาท ทั้งนี้ โดยถือราคาถัวเฉลี่ยจากราคาประเมินที่ดินหรือราคาปานกลางเพื่อเสียภาษีบำรุงท้องที่แห่ง ท้องที่นั้นเป็นเกณฑ์กำหนดค่าผาติกรรม ซึ่งกรมการศาสนาได้นำเสนอมหาเถรสมาคมแล้วไม่ ขัดข้อง สมควรโอนที่วัดดังกล่าวให้แก่กรมชลประทาน จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ขึ้น (แผนที่ท้ายพระราชบัญญัตินี้ ดูจาก ร.จ. เล่ม 99 ตอนที่ 186 หน้า 10 20 ธันวาคม 2525) |