พระราชบัญญัติ เวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างทางหลวงจังหวัด สายท่าแพ-ท่าศาลา-สิชล-ขนอม ตอนท่าศาลา-สิชล ในท้องที่อำเภอท่าศาลา และอำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช พ.ศ. 2524 |
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2524 เป็นปีที่ 36 ในรัชกาลปัจจุบัน |
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรให้เวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างทางหลวงจังหวัดสายท่าแพ- ท่าศาลา-สิชล-ขนอม ตอนท่าศาลา-สิชล ในท้องที่อำเภอท่าศาลา และอำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งกรมทางหลวงได้สำรวจที่ที่จะต้องเวนคืนเสร็จแล้วตามความใน ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 295 ลงวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอม ของรัฐสภา ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้าง ทางหลวงจังหวัด สายท่าแพ-ท่าศาลา-ท่าสิชล-ขนอม ตอนท่าศาลา-สิชล ในท้องที่ อำเภอท่าศาลาและอำเภอสิชลจังหวัดนครศรีธรรมราช พ.ศ. 2524"
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้อธิบดีกรมทางหลวงเป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 4 ให้เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่อำเภอท่าศาลาและอำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้แก่กรมทางหลวงเพื่อสร้างไว้ในพระราชกฤษฎีกา กำหนดแนวทางหลวง ที่จะสร้างทางหลวงจังหวัดสายท่าแพ-ท่าศาลา-สิชล-ขนอม พ.ศ. 2513 ตอนท่าศาลา -สิชล โดยมีแนวทางส่วนแคบที่สุดสิบหกเมตร และส่วนกว้างที่สุดแปดสิบเมตรตามแผนผังที่ดิน ซึ่งจะได้ปิดประกาศไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอและตำบลที่อสังหาริมทรัพย์นั้นตั้งอยู่
มาตรา 5 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ป. ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรี |
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือเนื่องจากกรมทางหลวงได้สำรวจที่ ที่จะต้องเวนคืนเพื่อสร้างทางหลวงจังหวัด สายท่าแพ-ท่าศาลา-สิชล-ขนอม ตอนท่าศาลา -สิชล ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดแนวทางหลวงที่จะสร้างทางหลวงจังหวัด สายท่าแพ-ท่าศาลา -สิชล-ขนอม พ.ศ. 2513 เสร็จแล้ว สมควรที่จะเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ตามความใน ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 295 ลงวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 จึงจำเป็นต้องตรา พระราชบัญญัตินี้ขึ้น (ร.จ. เล่มที่ 98 ตอนที่ 122 หน้า 4 27 กรกฎาคม 2524) |