พระราชบัญญัติ
                แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 24)
                            พ.ศ. 2522
   ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
                 ให้ไว้ ณ วันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2522
                      เป็นปีที่ 34 ในรัชกาลปัจจุบัน
   พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ
ให้ประกาศว่า
      โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร
      จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอม
ของรัฐสภา ดังต่อไปนี้

      มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร
(ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2522"

      มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใชบังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เป็นต้นไป เว้นแต่
      (1) ในกรณีภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ให้ใช้บังคับแก่เงินได้พึงประเมินสำหรับ พ.ศ.
2522 ที่จะต้องยื่นรายการใน พ.ศ. 2523 เป็นต้นไป
      (2) ในกรณีภาษีเงินได้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ให้ใช้บังคับแก่เงินได้ สำหรับ
รอบระยะเวลาบัญชีซึ่งสิ้นสุดลงในหรือหลังวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2522 เป็นต้นไป

      มาตรา 3 ให้ยกเลิกความใน (ก) ของ (4) ของมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 10 ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2520
และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
      "(ก) ดอกเบี้ยพันธบัตร ดอกเบี้ยเงินฝาก ดอกเบี้ยหุ้นกู้ ดอกเบี้ยตั๋วเงิน ดอกเบี้ย
เงินกู้ยืม ไม่ว่าจะมีหลักประกันหรือไม่ก็ตามดอกเบี้ยเงินกู้ยืมที่อยู่ในบังคับต้องถูกหักภาษีไว้ ณ ที่
จ่ายตามกฎหมายว่าด้วยภาษีเงินได้ปิโตรเลียมเฉพาะส่วนที่เหลือจากถูกหักภาษีไว้ ณ ที่จ่าย
ตามกฎหมายดังกล่าว หรือผลต่างระหว่างราคาไถ่ถอนกับราคาจำหน่ายตั๋วเงินหรือตราสาร
แสดงสิทธิในหนี้ซึ่งบริษัทเงินทุนเป็นผู้ออกและจำหน่ายครั้งแรกในราคาต่ำกว่าราคาไถ่ถอน"

      มาตรา 4 ให้ยกเลิกความใน (ข) ของ (4) ของมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 21) พ.ศ. 2517
และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
      "(ข) เงินปันผล เงินส่วนแบ่งของกำไร หรือประโยชน์อื่นใดที่ได้จากบริษัทหรือ
ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือกองทุนรวม เงินปันผลหรือเงินส่วนแบ่งของกำไรที่อยู่ในบังคับต้องถูกหัก
ภาษีไว้ ณ ที่จ่ายตามกฎหมายว่าด้วยภาษีเงินได้ปิโตรเลียมเฉพาะส่วนที่เหลือจากถูกหักภาษี
ไว้ ณ ที่จ่ายตามกฎหมายดังกล่าว"

      มาตรา 5 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (11) และ (12) ของมาตรา 65 ทวิ แห่ง
ประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 5)
พ.ศ. 2521
      "(11) ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมที่อยู่ในบังคับต้องถูกหักภาษีไว้ ณ ที่จ่ายตามกฎหมายว่าด้วย
ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ให้นำมารวมคำนวณเป็นรายได้เพียงเท่าที่เหลือจากถูกหักภาษีไว้
ณ ที่จ่ายตามกฎหมายดังกล่าว
      (12) เงินปันผลหรือเงินส่วนแบ่งของกำไร ที่อยู่ในบังคับต้องถูกหักภาษีไว้ ณ ที่จ่าย
ตามกฎหมายว่าด้วยภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ให้นำมารวมคำนวณเป็นรายได้เพียงเท่าที่เหลือ
จากถูกหักภาษีไว้ ณ ที่จ่ายตามกฎหมายดังกล่าว และถ้าผู้รับเป็นบริษัทจดทะเบียนหรือเป็นบริษัท
ที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยและไม่เข้าลักษณะตามมาตรา 75 ให้นำบทบัญญัติของ(10) มาใช้บังคับ
โดยอนุโลม"
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์
    นายกรัฐมนตรี
   หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากพระราชบัญญัติ
ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติภาษีเงินได้
ปิโตรเลียม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522 ได้เพิ่มบทบัญญัติเป็นกรณีพิเศษสำหรับภาษีเงินได้
ปิโตรเลียมขึ้น และเพื่อให้ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมและเงินปันผล หรือเงินส่วนแบ่งของกำไรเฉพาะ
ส่วนที่เหลือจากถูกหักภาษีเงินได้ไว้ ณ ที่จ่ายสำหรับกรณีพิเศษตามกฎหมายว่าด้วยภาษีเงินได้
ปิโตรเลียมดังกล่าวอยู่ในบังคับต้องเสียภาษีเงินได้ตามประมวลรัษฎากร สมควรแก้ไข
ประมวลรัษฎากร เพื่อให้สอดคล้องกับบทบัญญัติที่เพิ่มขึ้นในกฎหมายว่าด้วยภาษีเงินได้
ปิโตรเลียมดังกล่าว จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัติขึ้น
(ร.จ. เล่ม 96 ตอนที่ 220 หน้า 4 30 ธันวาคม 2522)