พระราชบัญญัติ
            ยกเลิกคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 22
                    ลงวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2519
                            พ.ศ. 2522
   ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
                  ให้ไว้ ณ วันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2522
                      เป็นปีที่ 34 ในรัชกาลปัจจุบัน
   พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ
ให้ประกาศว่า
      โดยที่เป็นการสมควรยกเลิกคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 22 ลงวันที่
13 ตุลาคม พ.ศ. 2519
      จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอม
ของรัฐสภา ดังต่อไปนี้

      มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติยกเลิกคำสั่งของ
คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 22 ลงวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2519 พ.ศ. 2522"

      มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

      มาตรา 3 ให้ยกเลิกคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 22 ลงวันที่ 13 ตุลาคม
พ.ศ. 2519

      มาตรา 4 ภายใต้บังคับมาตรา 6 ให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการปล่อยตัวบุคคลที่
ถูกควบคุมตัวโดยอาศัยอำนาจตามคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 22 ลงวันที่
13 ตุลาคม พ.ศ.2519 ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสองวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้
ใช้บังคับ

      มาตรา 5 บุคคลซึ่งถูกปล่อยตัวไปโดยมีประกันหรือทัณฑ์บนตามคำสั่งของ
คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 22 ลงวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2519 ให้ประกันหรือ
ทัณฑ์บนนั้นสิ้นสุดลง และให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการคืนประกันโดยมิชักช้า

      มาตรา 6 ในกรณีที่บุคคลตามมาตรา 4 ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดอาญาให้ดำเนินคดีแก่
บุคคลดังกล่าวต่อไปตามกฎหมายสำหรับระยะเวลาควบคุมตัวไว้เพื่อทำการสอบสวนต่อไปให้นับวันที่
ถูกควบคุมตัวไว้ตามคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 22 ลงวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.
2519 เป็นระยะเวลาควบคุมตัวไว้เพื่อทำการสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ด้วย แต่ในกรณีที่การร้องทุกข์หรือการกล่าวโทษมีขึ้นหลังจากที่ได้เริ่มควบคุมตัวบุคคลดังกล่าว
ไว้แล้ว ให้นับระยะเวลาควบคุมตัวไว้เพื่อทำการสอบสวนต่อไปตั้งแต่วันที่บุคคลนั้นมาถึงที่ทำการของ
พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจเพื่อทำการสอบสวน
      ในกรณีที่มีความจำเป็นที่จะต้องควบคุมผู้ต้องหาไว้เพื่อทำการสอบสวนต่อไป และกรณีไม่
อยู่ในอำนาจของพนักงานสอบสวนที่จะควบคุมไว้ได้ แต่ยังอยู่ในอำนาจที่ศาลจะสั่งขังได้ตาม
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาให้พนักงานสอบสวนมีอำนาจควบคุมผู้ต้องหาไว้และให้
ดำเนินการขอหมายขังผู้ต้องหาภายในสองวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ

      มาตรา 7 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
ส. โหตระกิตย์
รองนายกรัฐมนตรี
   หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือเนื่องจากคำสั่งของ
คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 22 ลงวันที่13 ตุลาคม พ.ศ. 2519 ได้กำหนดให้ถือว่า
บุคคลที่มีพฤติการณ์บางอย่างเป็นบุคคลซึ่งเป็นภัยต่อสังคม และให้อำนาจแก่พนักงานฝ่ายปกครอง
และเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบสวนและควบคุมตัวไว้อบรมในสถานกักกันได้ไม่เกินสามสิบวัน
กรณีดังกล่าวมานี้ทำให้บุคคลที่ถูกควบคุมตัวต้องขาดอิสรภาพ ไม่สามารถประกอบอาชีพตามปกติ
ได้ขาดรายได้เลี้ยงครอบครัว ทั้ง ๆ ที่บุคคลนั้นอาจไม่เคยกระทำความผิดมาก่อนเลย หรืออาจ
เป็นเพราะถูกกลั่นแกล้งจากพนักงานฝ่ายปกครองหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจบางกรณีการกระทำ
บางอย่างไม่เข้าลักษณะที่จะถือว่าเป็นบุคคลซึ่งเป็นภัยต่อสังคมตามที่กำหนดไว้ในข้อ 1(1)-(9)
แห่งคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 22 ลงวันที่ 13 ตุลาคมพ.ศ. 2519 แต่
พนักงานฝ่ายปกครองหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจก็หาวิธีการต่าง ๆ ที่จะทำให้การกระทำดังกล่าว
เข้าข่ายการกระทำที่เป็นภัยต่อสังคมให้ได้ กรณีดังที่กล่าวมาแล้วนี้เป็นการให้อำนาจแก่
พนักงานฝ่ายปกครองหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจมากเกินไป ทำให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือ
เจ้าหน้าที่ตำรวจบางคนอาศัยอำนาจที่มีอยู่เช่นนี้แสวงหาประโยชน์อันมิควรได้โดยชอบด้วย
กฎหมาย ซึ่งเป็นภยันตรายอย่างใหญ่หลวงต่อสังคมและต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย จึง
จำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
(ร.จ. เล่ม 96 ตอนที่ 135 หน้า  8 สิงหาคม 2522)