พระราชบัญญัติ คณะกรรมการกฤษฎีกา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2522 |
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ ที่ 27 กรกฎาคม 2522 เป็นปีที่ 34 ในรัชกาลปัจจุบัน |
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการกฤษฎีกา จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของ รัฐสภา ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า " พระราชบัญญัติคณะกรรมการกฤษฎีกา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2522 "
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติ คณะกรรมการกฤษฎีกา พ.ศ. 2522 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "กรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์นั้น จะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯแต่งตั้งตามคำแนะนำ ของคณะรัฐมนตรีและได้รับความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาตามลำดับ ในกรณีที่ รัฐสภาประกอบด้วยสภาเดียวให้ได้รับความเห็นชอบของสภานั้น"
มาตรา 4 ให้ยกเลิกความในวรรคสามของมาตรา 63 แห่งพระราชบัญญัติ คณะกรรมการกฤษฎีกา พ.ศ. 2522 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "ให้เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญซึ่ง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งจากบุคคลซึ่งมีความเชี่ยวชาญในทางนิติศาสตร์ การร่างกฎหมาย และการบริหารราชการแผ่นดินตามคำแนะนำของคณะรัฐมนตรีและได้รับความเห็นชอบของ สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาตามลำดับในกรณีที่รัฐสภาประกอบด้วยสภาเดียวให้ได้รับความเห็นชอบ ของสภานั้น"
มาตรา 5 ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของมาตรา 74 แห่งพระราชบัญญัติ คณะกรรมการกฤษฎีกา พ.ศ. 2522 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
มาตรา 74 ให้กรรมการร่างกฎหมายซึ่งได้รับแต่งตั้งตามพระราชบัญญัติว่าด้วย คณะกรรมการกฤษฎีกา พุทธศักราช 2476 และกรรมการเรื่องราวร้องทุกข์ซึ่งได้รับแต่งตั้งตาม พระราชบัญญัติเรื่องราวร้องทุกข์ พ.ศ. 2492 เป็นกรรมการร่างกฎหมายและกรรมการวินิจฉัย ร้องทุกข์ตามพระราชบัญญัตินี้แล้วแต่กรณี จนกว่าจะมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งขึ้นใหม่ตาม พระราชบัญญัตินี้ ซึ่งต้องไม่เกินหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ" ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ส. โหตระกิตย์ รองนายกรัฐมนตรี |
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือโดยที่พระราชบัญญัติ คณะกรรมการกฤษฎีกา พ.ศ. 2522 ให้ประกาศใช้บังคับเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2522 ซึ่ง เป็นระยะเวลาก่อนที่จะมีประกาศแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีชุดปัจจุบัน และโดยที่ คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันได้เข้ารับหน้าที่เมื่อต้นเดือนมิถุนายน ทำให้ไม่อาจแต่งตั้งกรรมการ วินิจฉัยร้องทุกข์ตามมาตรา 74 ซึ่งจะต้องได้รับการพิจารณามาจากคณะรัฐมนตรีและความเห็นชอบ จากรัฐสภาได้เสร็จเรียบร้อยไปได้ภายในเดือนมิถุนายน สมควรขยายระยะเวลาการแต่งตั้ง กรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ออกไปอีกเก้าสิบวัน จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ (ร.จ.เล่ม 93 ตอนที่ 125 หน้า 1 27 กรกฎาคม 2522) |