พระราชบัญญัติ พิกัดอัตราค่าภาคหลวงแร่ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2522 |
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2522 เป็นปีที่ 34 ในรัชกาลปัจจุบัน |
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราค่าภาคหลวงแร่ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอม ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทำหน้าที่รัฐสภา ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติพิกัดอัตราค่าภาคหลวงแร่ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2522"
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ยกเลิกความในมาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติพิกัดอัตรา ค่าภาคหลวงแร่ พ.ศ.2509 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "มาตรา 6 การเรียกเก็บค่าภาคหลวงแร่อื่น ๆ ให้เรียกเก็บตามชนิด สภาพร้อยละ ของโลหะหรือของสารประกอบในแร่ หรือลักษณะพิเศษอย่างใดอย่างหนึ่งตามอัตราที่กำหนดใน กฎกระทรวง แต่ต้องไม่เกินกว่าอัตราร้อยละยี่สิบของราคาตลาด ในกรณีที่รัฐมนตรีเห็นว่าการเรียกเก็บค่าภาคหลวงแร่สำหรับแร่บางชนิดตามอัตราร้อยละ ของราคาตลาดตามวรรคหนึ่งไม่เหมาะสม ให้รัฐมนตรีกำหนดการเรียกเก็บค่าภาคหลวงแร่ โดยวิธีประเมินหรือวิธีอื่นตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินกว่าอัตราร้อยละสามสิบของราคาตลาด มาตรา 7 สภาพ ร้อยละของโลหะหรือของสารประกอบในแร่หรือลักษณะพิเศษอย่างใด อย่างหนึ่ง ของแร่แต่ละชนิด ที่ใช้เป็นเกณฑ์ในการเรียกเก็บค่าภาคหลวงแร่ วิธีการกำหนด ราคาตลาด การใช้อัตราแลกเปลี่ยนเงินในการคำนวณราคาตลาด และวิธีการควบคุมการชำระ ค่าภาคหลวงแร่ ให้กำหนดโดยกฎกระทรวง มาตรา 8 ภายใต้บังคับมาตรา 6 วรรคสอง ให้อธิบดีกรมทรัพยากรธรณีประกาศ ราคาตลาดของแร่แต่ละชนิดเป็นครั้งคราวตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ส.โหตระกิตย์ รองนายกรัฐมนตรี |
หมายเหตุ :-เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากพิกัดอัตรา ค่าภาคหลวงแร่อื่น ๆ ที่มิใช่แร่ดีบุก และที่ไม่ใช่แร่ชนิดที่มีทังสติกออกไซด์ ได้กำหนดวิธีการ เรียกเก็บค่าภาคหลวงโดยถือตามอัตราร้อยละของราคาตลาดอย่างเดียวจึงไม่เหมาะสมแก่ สถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งมีการผลิตแร่รัตนชาติและแร่ราคาต่ำชนิดต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น สมควร ปรับปรุงพิกัดอัตราค่าภาคหลวงแร่สำหรับแร่เหล่านี้ให้เหมาะสม จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัติ นี้ขึ้น (ร.จ. เล่ม 96 ตอนที่ 71 หน้า 1 3 พฤษภาคม 2522) |